รถยนต์ เปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิดที่พาเราไปทุกที่ แต่เพื่อให้รถยนต์ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานออกไป เราจำเป็นต้องดูแลรักษาเป็นประจำ หนึ่งในสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือ การเปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆ ในรถยนต์ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด แต่บทความนี้จะขอเจาะลึกไปที่ ของเหลวรถยนต์ 6 ชนิด ที่ควรเปลี่ยนถ่ายเป็นประจำ มีดังต่อไปนี้
1. น้ำมันเครื่อง – ของเหลวรถยนต์
ทำหน้าที่: หล่อลื่นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ลดการเสียดสีและความร้อน ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีอายุการใช้งานยาวนาน
ระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย: ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันเครื่องและการใช้งานของรถ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 6 เดือน
2. น้ำมันเกียร์
ทำหน้าที่: หล่อลื่นชิ้นส่วนภายในระบบเกียร์ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างนุ่มนวล ช่วยให้เกียร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการสึกหรอ
ระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย: โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 60,000 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 2 ปี
3. น้ำมันเบรก – ของเหลวรถยนต์
ทำหน้าที่: สร้างแรงดันเพื่อเบรก ทำให้รถหยุดได้อย่างปลอดภัย หากน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพอาจทำให้เบรกไม่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย: ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเบรกเป็นประจำ และเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 2 ปี หรือตามระยะทางที่ระบุในคู่มือรถ
4. น้ำยาหล่อเย็น
ทำหน้าที่: ช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัด ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน
ระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย: ควรตรวจสอบทุก ๆ 1 ปี และเปลี่ยนตามที่คู่มือกำหนด (ประมาณทุก ๆ 3 ปี หรือ 60,000 – 150,000 กิโลเมตร)
5. น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์
ทำหน้าที่: ช่วยให้การหมุนพวงมาลัยเบาแรงขึ้น หากน้ำมันพวงมาลัยไม่เพียงพอ อาจทำให้การหมุนพวงมาลัยแข็งและเสียงดัง ส่งผลให้ชุดเฟืองขับและเฟืองสะพานอาจได้รับความเสียหายได้
ระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย: ควรตรวจสอบระดับน้ำมันพวงมาลัยเป็นประจำ และเปลี่ยนถ่ายทุก ๆ 80,000 กิโลเมตร
6. น้ำฉีดกระจก
ทำหน้าที่: ช่วยทำความสะอาดกระจกหน้ารถ น้ำฉีดกระจกที่สะอาดจะช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น
ระยะเวลาเปลี่ยนถ่าย: ควรเติมน้ำยาฉีดกระจกให้เต็มอยู่เสมอเพื่อให้พร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์ สามารถเติมน้ำยาเช็ดกระจกง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้น้ำสะอาดเติมลงไปก้เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว
การเปลี่ยนถ่ายของเหลวในรถยนต์เป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงในระยะยาว และที่สำคัญที่สุดคือช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย
บทความที่น่าสนใจ
น้ำมันรถแต่ละชนิด ต่างกันอย่างไร? เลือกใช้แบบไหนดี?
7 ไอเทมที่ต้องมีติดรถ ช่วยเซฟชีวิตคุณได้ในทุกเส้นทาง