นับตั้งแต่ Ford ปล่อยทีเซอร์ไลน์อัพใหม่ของ Ford Ranger ตอบโจทย์คนสู้งานกับการแนะนำรุ่นใหม่ Ford Ranger Super Duty กระะบะเกิดมาแกร่งตัวจริง
ล่าสุดเว็บรถยนต์ออสเตรเลียรายหนึ่งเผยภาพ Ford Ranger Super Duty เวอร์ชันตอนเดียวและตอนครึ่งวิ่งพรางตัวทดสอบบนถนนจริง
โดยการทดสอบครั้งนี้หน้าตาจะต่างจากเวอร์ชันขายปกติเริ่มที่กระทะล้อสีดำขนาด 18 นิ้ว มีสนอร์เกิ้ลติดอยู่บังโคลนรถด้านขวา กระบะท้ายพื้นเรียบเปิดได้ 3 ด้าน
สำหรับสเปกของกระบะเกิดมาแกร่งคันนี้จะเป็นกระทะล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมหุ้มยาง All Terrain ขนาด 33 นิ้วหรือขนาด 18 นิ้ว พร้อมน็อตล้อ 8 ตัว กระจังหน้าดีไซน์พิเศษดุเข้มไส้ในกระจังหน้าดีไซน์แบบเส้นแนวนอนหลายจุดประกบไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED รูปตัว C และกระจกมองข้างดีไซน์ใหม่มีขนาดใหญ่ขึ้นรองรับงานบรรทุก
มอบความสามารถที่เหนือกว่าหลายด้านไม่ว่าจะเป็นมวลรวมของรถหรือน้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (Gross Vehicle Mass-GVM) บรรทุกได้มากขึ้นน้ำหนักรถสูงสุดสูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (Gross Combined Mass-GCM) รวมถึงความสามารถในการลากจูงสูงสุดถึง 8,000 กิโลกรัม และเมื่อติดตั้งเบรกที่รถพ่วงลากจูงได้มากขึ้นรองรับสูงสุด 4,500 กิโลกรัมและคาดว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกใกล้เคียงกับ Ranger รุ่นปกติถึง 2,000 กิโลกรัม
ด้านขุมพลังมีความเป็นไปได้สูงกับขุมพลังดีเซล V6 เทอร์โบเดี่ยว ในรหัส BF2S ขนาด 3.0 ลิตร Power Stroke ที่ให้กำลังมากถึง 250 แรงม้าที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รุ่น 10R80 e-Shifter พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time 4WD แบบ e-Shifter (2H,4H,4L และ 4A) ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case–EMTC)
มีโหมดการขับขี่ Terrain Management System ลุยทุกสภาพพื้นผิวด้วย 6 โหมดทั้ง โหมดปกติ Normal (ใช้ได้ทั้ง 2H,4H,4L), โหมดประหยัด Eco (ใช้ได้ทั้ง 2H,4H,4L), โหมดลากจูงและบรรทุก Tow/Haul (ใช้ได้ทั้ง 2H,4H,4L), โหมดทางลื่น Slippery (ใช้เฉพาะ 4H), โหมดทราย Sand (ใช้ได้ทั้ง 4H,4L), โหมดโคลน Mud/Ruts (ใช้ได้ทั้ง 4H,4L) พอมาในเวอร์ชันสู้งานอาจเพิ่มกำลังเครื่อง V6 ให้มากขึ้นกว่าปกติ
Ford Ranger Super Duty ถือกำเนิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้าฟลีตและผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ชั้นนำทั่วออสเตรเลียด้วยสมรรถนะออฟโรดที่เหนือระดับตอบโจทย์การใช้งานตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกลุ่มลูกค้าอาทิ หน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน เกษตรกร ผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณูปโภค ป่าไม้ เหมืองแร่ ช่างเทคนิคด้านโครงสร้างพื้นฐานและเพื่อการทำงานด้านอื่นๆ
ผสานความเป็นเลิศระหว่างฟีเจอร์อัจฉริยะและระบบความปลอดภัยขั้นสูงนำเสนอรถกระบะที่ลูกค้าต้องการแต่ยังไม่มีรถรุ่นใดในตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ออกแบบให้มีความยืดหยุ่นพร้อมสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานหนักที่ลูกค้าต้องการพร้อมการรับประกันคุณภาพและะได้รับการพัฒนาโดยทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตลาดนานาชาติของ Ford
โดยจะผลิตที่โรงงานในประเทศไทยโดยจะเปิดตัวให้ทั่วโลกได้รู้จักกันปลายปี 2025 และจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศออสเตรเลียครึ่งปีแรกปี 2026 ด้านเมืองไทยในฐานะฮับการผลิตจะเปิดตัวด้วยหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carsales
