More

    Ford Ranger Super Duty รุ่นหัวกระสือขายออสซี่ต้นปีหน้าเริ่ม 1.7 ล้าน

    Ford Ranger Super Duty กระบะโหดลุยสู้ทุกงานกับ โดยล่าสุดเปิดสเปกรายละเอียดก่อนขายจริงต้นปีหน้าพร้อมเมืองไทยที่ออสเตรเลีย

    Ford Ranger Super Duty นำพื้นฐานของ Ford Ranger มายำขยายความกว้างแบบ Wide Body แต่งดิบๆคล้าย Raptor

    ภายนอกโหดดุ

    ตั้งแต่กระจังหน้าทรงดุสีดำแบบตาข่ายทอเปิดพร้อมปีกกระจังหน้าซ้าย-ขวา ฝากระบะหน้าออกแบบใหม่ปั้มตราคำว่า Super Duty บนขอบฝากระโปรงรรับกับ ไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟส่องเวลากลางวัน LED Daytime รูปตัว C ในโคมเดียวกัน ในชุดกันชนหน้าทรงเข้มแบบอิสระจากกระจังหน้าติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า LED

    ด้านข้างออกแบบใหม่ทั้งสนอร์เกิ้ลติดอยู่บังโคลนรถด้านขวาบังโคลนหน้า-หลังพร้อมคิ้วขอบล้อสีดำทรงเหลี่ยม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงโตกว่าเดิม บันไดข้างใหม่สีดำสุดเข้ม บันไดข้างดีไซน์เข้ม ไฟท้ายสีขาวแดง LED พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่เหยียบข้างกระบะท้ายกับกันชนหลังติดมาให้จากโรงงานและล้ออัลลอยดีไซน์เฉพาะขนาด 18 นิ้ว น็อตล้อ 8 รู พร้อมยาง AT จาก General Grabber 275/70 R18 มิติตัวรถดังนี้

    • ความยาว 5,470 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 2,032 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,983 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 3,270 มิลลิเมตร
    • ความสูงจากใต้ท้องรถ 295,297,299 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,518 2,615 และ 2,675 กิโลกรัม
    • ความจุถังน้ำมัน 130 ลิตร

    Fordภายในเน้นการใช้งาน

    ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ 12 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC4A® รุ่นล่าสุด พร้อม FordPass Connect ที่ไม่เพียงช่วยเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง แต่ยังแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถได้อย่างชัดเจน เชื่อมต่อ Apple Car Play ไร้สาย Android Auto และ Bluetooth กับลำโพง 2 จุด และ 6 จุด

    เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ช่องต่อ USB 2 จุด พร้อมช่องต่อไฟ 12 V 2 ช่อง พร้อมมาตรวัดสีขนาด 8 นิ้ว เบาะนั่งคนขับปรับสูงต่ำได้ 6 ทิศทางหุ้มด้วยวัสดุหกึ่งหนังแท้ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ปุ่ม Push Start แท่นชาร์จไฟไร้สาย ช่องต่อ USB บนกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ไล่ฝ้ากระจกหลัง

    Ford

    ติดตั้งช่องต่อ AUX 6 ตัวพร้อมสวิตช์เหนือคอนโซล*ที่ต่อวงจรเข้ากับกล่องจ่ายไฟ รองรับการปรับแต่งและใช้งานอุปกรณ์เสริมได้อย่างสะดวกโดย  สวิตช์ที่เดินสายไว้แล้วตามจุดต่างๆ ที่อุปกรณ์เสริมส่วนใหญ่มักได้รับการติดตั้ง ทั้งใต้ฝากระโปรงหน้ารถ กระจังหน้า และบริเวณกระบะท้าย ทำให้การใช้งานรถสะดวกและเต็มที่มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะใช้ทำงาน ตั้งแคมป์กับครอบครัว หรือออกผจญภัย เบาะนั่งคู่หน้าปรับธรรมดา 8 ทิศทางสำหรับคนขับและ 4 ทิศทางสำหรับคนนั่ง

    ขุมพลังเป็นดีเซล V6 เทอร์โบเดี่ยว

    รหัส BF2S ขนาด 3.0 ลิตร Power Stroke แต่มีการปรับกำลังลงจากเดิม 250 แรงม้า กลายเป็น 209 แรงม้าที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด รุ่น 10R80 e-Shifter พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time 4WD แบบ e-Shifter (2H,4H,4L และ 4A) ที่มาพร้อมเกียร์ทรานสเฟอร์แบบ 2 จังหวะ (On-Demand Two-Speed Electromechanical transfer case–EMTC)

    Ford

    มีโหมดการขับขี่ Terrain Management System ลุยทุกสภาพพื้นผิวด้วย 6 โหมดทั้ง โหมดปกติ Normal (ใช้ได้ทั้ง 2H,4H,4L), โหมดประหยัด Eco (ใช้ได้ทั้ง 2H,4H,4L), โหมดลากจูงและบรรทุก Tow/Haul (ใช้ได้ทั้ง 2H,4H,4L), โหมดทางลื่น Slippery (ใช้เฉพาะ 4H), โหมดทราย Sand (ใช้ได้ทั้ง 4H,4L), โหมดโคลน Mud/Ruts (ใช้ได้ทั้ง 4H,4L) มีระบบดิฟล็อกไฟฟ้าด้านหลัง locking differentials ลุยน้ำได้สูงสุด 850 มิลลิเมตร พวงมาลัยไฟฟ้าพร้อมรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 13.6 มิลลิเมตร

    Fordพร้อมมอบความสามารถที่เหนือกว่าหลายด้าน ให้ความมั่นใจปีนป่ายเกาะถนนดีด้วยปีนป่ายแบบชิวๆเพราะคันนี้มีมุมไต่หรือ approach angle 36.1-36.3 องศา มุมจากหรือ departure angle 28.6-29.3 องศา มุมคร่อมหรือ Breakover angle 26.3-26.9 องศา

    ลากจูงได้มากขึ้น รองรับการลากจูงสูงสุด 4,500 กิโลกรัม บรรทุกได้มากขึ้น น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุก (Gross Vehicle Mass-GVM) สูงสุดถึง 4,500 กิโลกรัม ให้คุณ ‘ทำได้’ มากขึ้น น้ำหนักรถสูงสุดรวมบรรทุกและลากจูง (Gross Combined Mass-GCM) สูงสุดถึง 8,000 กิโลกรัม

    ความปลอดภัย

    • ควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติพร้อม Stop&Go และควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Adaptive Cruise Control with Stop-and-Go and Lane Centering
    • ช่วยเบรกอัตโนมัติพร้อมช่วยควบคุม รถหลังจากชน Automatic Emergency Braking with Post-impact braking
    • ตรวจจับรถในจุดบอดครอบคลุมส่วนต่อพ่วง Blind spot information system with trailer coverage)
    • ตรวจจับขณะออกจากช่องจอด Cross-Traffic Alert
    • ช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ Evasive Steer Assist
    • ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering

    • รักษาช่องทางขับขี่  Lane Keeping System
    • จดจำป้ายจราจร Traffic sign recognition

    กล้องมองรอบคัน 360 องศา ถุงลมนิรภัย 9 จุดรอบคันทั้งคู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย, บริเวณหัวเข่าและตรงกลางเบาะนั่งด้านหน้า ช่วยโทรฉุกเฉิน ป้องกันล้อล็อก ABS กระจายแรงเบรก EBD ดิสก์เบรก 4 ล้อ ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA ลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM ควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC สัญญาณกันขโมย สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและด้านหลังรวมกัน 8 จุด (หน้า 4 จุด หลัง 4 จุด) ตรวจวัดลมยาง TPMS

    Ford

    Ford Ranger Super Duty ผลิตขึ้นที่โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ AAT มาในร่างตอนเดียว Single Cab ตอนครึ่ง Open Cab และ 4 ประตู Double Cab ตัวถังหัวกระสือ หรือ Cab-Chassis เปิดราคาจำหน่ายที่ออสเตรเลียเป็นราคาไม่รวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road เริ่ม $82,990-$89,990 หรือราว 1,755,000-1,905,000 บาท เริ่มจำหน่ายต้นปี 2026 พร้อมประเทศไทย และนิวซีแลนด์ ส่วนรุ่นที่มีกระบะท้ายขายปลายปี 2026

    ที่มา CarExpert

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts