GEELY เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ GEELY Galaxy Starshine 8 พลังปลั๊กอินไฮบริดหลังเปิดราคาพรีออเดอร์หวังยอดจองเข้ามามากในจีน
GEELY Galaxy Starshine 8 เก๋งไซซ์ใหญ่พกพลังปลั๊กอินไฮบริดมาจากพื้นฐานเวอร์ชันไฟฟ้าล้วนของ GEELY Galaxy E8 นั่นเอง
ด้านหน้าของรถจะเห็นกระจังหน้าปะโลโก้ GEELY Galaxy ประกบไฟ DRL ในโคมเดียวกันที่เฉียบคมในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศเสริมคิ้วโครเมียมใต้กันชน มีไฟหหน้า LED แนวนอน พร้อมกรอบโครเมียมรูปตัว T แนวตั้ง
ด้านข้างออกแบบเส้นสายที่เรียบง่ายด้วยกระจกโอเปร่าและมือจับประตูแบบเรียบเนียนกับตัวถังและยื่นออกมาเปิดออกได้ เลือกใช้กระจกมองข้างแบบทรงสปูนดีกว่าใช้แบบกล้องข้างรถพร้อมเซนเซอร์ LiDAR บนหลังคารถ แบบซันรูฟแบบพาโนรามิกขนาด 1.36 ตารางเมตร
ส่วนท้ายดึงดูดหรือมีเอกลักษณ์เป็นพิเศษที่โดดเด่นคือแถบไฟ LED แนวยาวดีไซน์ลูกปัดในโคมประกอบด้วยดวงไฟ LED 390 ดวง ประกอบขึ้นให้ความโดดเด่นและสวยงาม ถึงตัวรถจะมาแบบ Fastback ฝากระโปรงท้ายเปิดแบบรถซีดาน และล้ออัลลอยเลือกได้สองขนาดตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/40R18 และขนาดใหญ่ 19 นิ้วพร้อมยาง 255/40R19
พัฒนามาจากแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ของ GEELY ใช้ร่วมกับ Volvo และค่ายรถในเครือทั้ง Volvo EM90 Polestar 4, Polestar 5, ZEEKR 001, ZEEKR 009, GEELY Galaxy E8 และ JI YUE 01
มีมิติตัวรถ ความยาว 5,018 มิลลิเมตร กว้าง 1,918 มิลลิเมตร สูง 1,480 มิลลิเมตร ในขณะที่ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,928 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,760-1,908 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร ซึ่งรูปทรงเพรียวบางของรถซีดานก็สามารถดึงดูดสายตาได้อย่างทันที
ภายในมีความโดดเด่นและต่างจากรุ่น Galaxy E8 เริ่มที่ มาตรวัดความเร็ว LCD 10.2 นิ้วหน้าจอแสดงผลขนาด 15.4 นิ้วคขนาดใหญ่ ประมวผลรวดเร็วด้วยชิปจาก Dragon Eagle-1 7nm ที่ GEELY พัฒนาเอง พร้อมระบบปฏิบัติการ FLYME Auto เชื่อมต่อและสั่งการด้วยเสียง สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะสั้่งงานโต้ตอบด้วยเสียง AI จาก DeepSeek พร้อมการอัปเดตข้อมูล ซอฟต์แวร์ หรือเฟิร์มแวร์แบบไร้สายไปยังอุปกรณ์เคลื่อนที่ OTA (Over-the-Air)
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้านทั้งแบบหัวตัดท้ายตัด คอนโซลกลางที่เรียบง่ายพร้อมปุ่ม 6 ปุ่ม แป้นหมุนแบบกลม แผ่นชาร์จไร้สาย และช่องเก็บของแบบแยกส่วน คุณสมบัติมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบไฟส่องสว่างโดยรอบ เบาะหนังแท้ทรงหรูหราตัดเย็บประณีตพร้อมหนังสัมผัสเดินด้ายอย่างบรรจง พร้อมลำโพง Flyme Sound 23 จุด รวมลำโพงฝังพนักพิงศีรษะด้านหน้า 2 จุด มีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ HUD ขนาด 25.6 นิ้ว พร้อมพื้นที่ด้านท้าย 405 ลิตร ชาร์จมือถือไร้สายคู่กำลัง 50 W ช่องเสียบ USB Type A กับ C
พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าด้านคนขับ 6 กับ 12 ทิศทางและคนนั้ง 4 ทิศทางสามารถปรับเอนลงมาถึง 180 องศาสามารถพาดขาได้สบายๆ เบาะหลังปรับไฟฟ้าสบายทุกการเดินทางด้วย เบาะนั่งส่วนที่รองนั่งมีขนาดยาว 536 มิลลิเมตร เลื่อนเบาะได้สูงสุด 100 มิลลิเมตร และมุมพนักพิงปรับเอนสูงสุด 131 องศา พร้อมระบบอุ่นเบาะ เบาะเย็น นวดได้และช่องเก็บของ 28 ช่องทั่วทั้งห้องโดยสาร และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 256 สี
ขุมพลังปลัํกอินไฮบริดด้วยเทคโนโลยีที่ GEELY พัฒนาเองภายใต้ชื่อ Thor EM-P กับ Thor EM-i ประกอบด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 11-in-1 (E-DHT) ประกอบด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า P1 กับ P3 ระบบควบคุมโมดูล SiC VCU หรือหน่วยควบคุมยานพาหนะ TCU หรือหน่วยควบคุมระบบเกียร์ และระบบ PDU หรือหน่วยจ่ายไฟ เกียร์ และระบบ Active G-TCS มี 2 ทางเลือกเริ่มที่
ขุมพลัง Thor EM-i บนพื้นฐานเบนซินขนาด 1.5 ลิตร รหัส BHE15-BFN ให้กำลัง 112 แรงม้า แรงบิด 136 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 238 แรงม้า แรงบิด 262 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังรวมสูงสุด 350 แรงม้า แรงบิด 398 นิวตันเมตร
พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตที่ผลิตโดย SVOLT ขนาดความจุ 8.5 และ 18.4 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนทำได้ 60 และ 130 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 58 กิโลเมตรและ 125 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC แถมยังให้ระยะทางรวมต่อการชาร์จและการเติมน้ำมัน 1 ถัง 1,600 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 1,544 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.9-8.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองทำได้ 29.15 และ 29.76 กิโลเมตรต่อลิตร ให้ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขุมพลัง Thor EM-P บนพื้นฐานเบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 164 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังรวมสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิด 605 นิวตันเมตร
พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตขนาดความจุ 18.4 kWh วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนทำได้ 130 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC หรือ 125 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC แถมยังให้ระยะทางรวมต่อการชาร์จและการเติมน้ำมัน 1 ถัง 1,500 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 1,447 กิโลเมตร (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.49 วินาที อัตราสิ้นเปลืองทำได้ 27.24 กิโลเมตรต่อลิตร ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทุกรุ่นชาร์จได้ทั้ง DC รองรรับกำลังการชาร์จสูงสุด 36 kW 30-80% ภายใน 20 นาทีและชาร์จ AC กำลัง 3.3-6.6 kW ได้ พร้อมโหมดการขับขี่ Smart/Pure Electric/Extended Range/Performance พร้อมระบบ Kinetic Energy Recovery System (KERS) ช่วยชาร์จพลังงานกลับสู่แบตเตอรี่ขับเคลื่อน เมื่อมีการลดความเร็ว หรือเบรกถึง 3 ระดับ และจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT Pro 3 สปีด
ฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) สูงสุด 6.6 kW สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้ รวมทั้งยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่รถยนต์ไฟฟ้าคันอื่น เพื่อรีชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่ว’ล่างอิสระ 4 ล้อประกอบด้วยดา้นหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและหลังแบบ 5 Link
พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ G-Pilot LiDAR หรือ Light Detection and Ranging ตรวจจับวัดระยะทางของวัตถุและคนเดิน โดยการใช้แสงเลเซอร์ไปกระทบกับวัตถุแล้วคำนวณระยะทางด้วยระยะเวลาทำงานได้เร็ว ประกอบด้วย LiDAR หลังคา 126 จุด เรดาห์คลื่นมิลลิเมตร 5 ตัว เรดาห์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 10 ตัว ซึ่งรองรับระบบช่วยจอดรถในสถานการณ์มากกว่า 300 สถานการณ์ ระบบช่วยหลบหลีกด้วยความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติด้วยความเร็วสูงสุด 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และยังมี L2-ADAS (Level 2 Advanced Driver Assistance System) ให้เลือกมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับไปอีกขั้น ที่ผสานความปลอดภัยแบบเต็มพิกัด พร้อมความสะดวกสบาย และความหรูหราระดับพรีเมียมโดยใช้เรดาห์ลื่นมิลลิเมตร 2 ตัว เรดาห์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 5 ตัว
- ช่วยขับขี่บนทางหลวงในความเร็วสูง High-speed Navigation (HNOA)
- เปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Lever Lane Change (LCA)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า Forward Cross Collision Alert (FCTA)
- พวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ Emergency Steering Assist (AES)
- ตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่ Driver Status Monitoring (DMS)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Collision Braking (RCTB)
- ช่วยจอดรถอัตโนมัติ Automatic Parking (APA)
- ช่วยจอดรถระยะไกล Remote Parking Assistance (RPA)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Assist (ICC)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping Assist (LKA)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน Emergency Lane Keeping Assist (ELKA)
- แจ้งเตือนก่อนกาชนด้านหลัง Rear Collision Warning (CMSR)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Collision Alert (RCTA)
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู Door opening safety reminder (DOW)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- จดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSI)
GEELY Galaxy Starshine 8 เปิดขายจีน 7 รุ่นย่อยในราคาขายเริ่มที่ 125,800-165,800 Yuan หรือราว 575,000-759,000 บาท
ที่มา CarNewsChina
