หลังทยอยทำตลาดต่างประเทศเริ่มที่ไทยสำหรับ GWM HAVAL H6 หน้าใหม่เอสยูวีรุ่นเด่นของค่ายและล่าสุดเปิดตัวแล้วแอฟริกาใต้
GWM HAVAL H6 ปรับโฉมครั้งที่สองในรอบ 5 ปีหลังจากปรับโฉมครั้งแรกเมื่อปี 2022 ในร่างเจเนอเรชันที่ 3 เอสยูวีไซซ์คอมแพ็ค
เริ่มที่ส่วนของไฟหน้า LED Daytime เป็นรูปเลขเจ็ด พร้อมไฟหน้า Intelligent LED ที่เพรียวลงกว่าเดิมสองดวงรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ ติดตรา HAVAL ในชุดกันชนหน้าใหม่ออกแบบช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
ด้านท้ายต่างจากเวอร์ชันไทยด้วยไฟท้ายแบบแยกสองฝั่งแบบ LED ติดตรา GWM ขนาดใหญ่ รับกับกันชนหลังดีไซน์เท่พร้อมท่อไอเสียสองฝั่ง ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED มองเห็นได้ชัดเจน ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระง่ายยิ่งขึ้นเติมเต็มความหรูหราด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟสุดหรู ขนาด 1.2 เมตร ล้ออัลลอยลายเดิมสีดำขนาด 19 นิ้วสีดำเข้มพร้อมยาง 225/55R19 มีมิติตัวรถขนาดกว้างขวางตั้งแต่
- ความยาว 4,703 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,886 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,730 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร
- ความสูงจากใต้ท้องรถ 161-175 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,550-1,720 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 61 ลิตร
ภายในคล้ายไทยตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าดีไซน์เดิมปรับรายละเอียดใหม่เริ่มที่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์เดิมพร้อม Paddle Shift จอสัมผัสขนาดใหญ่ขึ้น 14.6 นิ้ว Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูงเต็มอิ่มกับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions) ทั้งอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) พร้อมกับการอัปเกรดระบบ Firmware Over The Air (FOTA)
จอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) 9 นิ้ว แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครัน และแผงมาตรวัดดิจิตอลลอยตัว HD Multi Information Display 10.25 นิ้ว คอนโซลกลางออกแบบใหม่หมดตัดปุ่มต่างๆใต้จอสัมผัสออก คอนโซลเกียร์ออกแบบใหม่ย้ายตำแหน่งชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter จากปุ่มหมุนย้ายมาอยู่หลังพวงมาลัยหรือเรียกกันว่าเกียร์คอ มาเป็นที่วางแก้วสองจุด ที่ชาร์จมือถือไร้สายที่หยิบวางง่ายขึ้น
พร้อมลำโพง 8 จุดรอบคันพร้อม Treble Woofer และ DTS ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวาพร้อมกรองอากาศ PM 2.5 Paddle Shift กุญแจ Smart Key+ Push Start เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางในส่วนคนขับ และไฟฟ้า 4 ทิศทางในส่วนคนนั่ง เบาะหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย
อีกระดับของความสบายด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ช่องเสียบ USB ตัวเบาะหลังยังพับได้ 40/60 และสร้างบรรยากาศอบอุ่นภายในห้องโดยสารด้วยไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร Ambient Light หรูพร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันและความหรูหราให้กับห้องโดยสาร
แอฟริกาใต้ต่างจากไทยตรงที่มีเครื่องยนต์สันดาปล้วนจำหน่ายด้วยเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร TGDI รุ่น GW4C20NT 231 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 9 สปีด 9DCT เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD โหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด ECO, Normal, Sport, Snow และเพิ่ม 2 โหมดรวม 6 โหมด ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อทั้งโหมด Sand กับ Off-Road
ขุมพลัง Hybrid ด้วยเบนซินเทอร์โบแปรผันซูเปอร์ชาร์จ VGT 1.5 ลิตร GW4B15 GDIT EVO 150 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตรเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด ECO, Normal, Sport, Snow พร้อมความปลอดภัยรอบคัน Driver Assistance and Safety Systems มาครบทั้ง
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) เพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง
- ช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA-RCTB)
- ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ตรวจความดันลมยาง (TPMS) ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) เซนเซอร์กระยะการจอดรถหน้าและหลังฝั่งละ 4 จุดและถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบคัน
GWM เตรียมเปิดตัว GWM HAVAL H6 รุ่นปรับโฉมขายทั้งหมด 6 รุ่นย่อยแบ่งเป็นเบนซินล้วน 4 รุ่น และไฮบริด 2 รุ่นในราคาเริ่มต้น R495,500-R686,500 หรือราว 905,000-1,254,000 บาท
ที่มา Mediawire