More

    GWM HAVAL H7 ทรงลุยพลังไฮบริดเปิดราคาออสซี่เริ่ม 9 แสนกว่า

    GWM จับ GWM HAVAL H-DOG ส่งไปขายทั่วโลกประเดิมที่แรกที่ออสเตรเลียภายใต้ชื่อใหม่ GWM HAVAL H7 เอสยูวีทรงเหลี่ยมดุดัน

    เจ้าหมาน้อยลำดับที่ 3 นั่นก็คือ GWM HAVAL H7 (GWM HAVAL H-Dog หรือ GWM HAVAL Big Dog) หน้าตาไม่ต่างจาก HAVAL Cool Dog แต่มาเหนือกว่ารุ่น Cool Dog เพราะเป็นพี่ใหญ่

    ถึงแม้จะเปิดตัวตามหลังด้วยมิติตัวรถใหญ่กว่ารุ่น Big Dog และ Cool Dog สร้างจากแพลตฟอร์ม LEMON ตั้งแต่

    • ความยาว 4,705 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,908 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,780 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,810 มิลลิเมตร

    หล่อดุดัน

    ด้วยไฟหน้า LED ทรงกลม พร้อมไฟ DRL LED ในโคมเดียวกันที่ลึกลับและมั่นคง ขนาบข้างกับกระจังหน้าดีไซน์คล้าย Ford Ranger กับโลโก้ HAVAL พื้นหลังสีน้ำเงิน ด้านข้างดุดันโค้งมนออกเป็นสองส่วนได้อย่างเหมาะเจาะทั้งกระจกมองข้างทรงสปูน คิ้วขอบล้อสีดำ ราวหลังคาสีเงินทรงกลมกลืนกับหลังคารถ  หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ไฟท้าย LED ออกแบบทรงกลมพร้อมเส้นแนวนอนขอบบน เพิ่มระดับการมองเห็นและสามารถขยายขอบเขตการมองเห็นได้มากขึ้นอีกด้วย พร้อมตรา GWM ขนาดใหญ่และกรอบป้ายทะเบียนทูโทนสีเดียวกับตัวรถขอบโครเมียมและ ล้ออัลลอยลายเท่ทูโทนขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R19

    GWMภายในทันสมัย

    ด้วยแผงคอนโซลหน้ารูปทรงพิเศษเท่ถึงใจดุดันในโทนสีดำตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ โทนสีน้ำตาลเข้มฉูดฉาดและลายเส้นที่ไม่ตายตัว ตัดเย็บด้วยสีสันที่ตัดกัน แสดงถึงเสน่ห์ของความมั่นใจทุกพื้นที่ในรถ มาตรวัดดิจิทัลแบบ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่แนวนอน 14.6 นิ้ว เชื่อมต่อ Wireless Apple CarPlay and Android Auto พร้อม Wireless phone charger

    เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา Dual-zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง มีจอ Head-up display พร้อมไฟสร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน พร้อมลำโพง 8 จุด เบาะนั่งสบายแบบ 5 ที่นั่งปรับคู่หน้าด้วยไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับ 8 ทิศทางพร้อมความจำเบาะ 3 ตำแหน่ง อุ่นเบาะและดันหลัง lumbar support 2 ตำแหน่ง คนนั่งปรับ 4 ทิศทาง และพื้นที่เบาะหลังยังพับเก็บได้ถึง 1,362 ลิตรแต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 483 ลิตร

    GWM

    ขุมพลังฟูลไฮบริด HEV

    ด้วยกับเบนซินเทอร์โบ VGT 1.5 ลิตร GW4B15 GDIT EVO จาก GWM HAVAL H6 HEV 150 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตรเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด ECO, Normal, Sport, Snow พร้อมความปลอดภัยรอบคัน Driver Assistance and Safety Systems มาครบทั้ง

    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ Adaptive cruise control (ACC)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก Autonomous emergency braking (AEBI)
    • ช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind-spot monitoring (BSD)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane-keep assist (LKA)
    • ตรวจจับอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver fatigue monitoring
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน Emergency lane-keep assist (ELK)

    GWM

    พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) ช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) ตรวจความดันลมยาง (TPMS) ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) เซนเซอร์กะระยะการจอดรถหน้าและหลังฝั่งละ 4 จุดกล้องมองภาพรอบคัน และถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน

    โดยเปิดราคารุ่นเดียวรุ่น VANTA ในราคารวมค่าจดทะเบียนและภาษีถนน On-Road ของออสเตรเลีย $46,990 หรือราว 995,000 บาท

    ที่มา Carexpert

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts