More

    GWM WEY 80 หน้าใหม่ภายในใหม่ขายจีน 13 พฤษภาคม มาไทยแน่!!

    ทำตลาดเมืองจีนมา 2 ปี ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มครอบครัวกลุ่มนักธุรกิจสำหรับ GWM WEY 80 ว่าที่นักฆ่า Toyota Alphard รวมถึงเพื่อนร่วมชาติ

    GWM

    ล่าสุดมีการเปิดตัวไมเนอร์เชนจ์ที่งาน Shanghai Auto Show ที่ผ่านมาและมียอดจองเกิน 10,000 คันเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ GWM WEY 80 

    หน้าตาโดยรวมยังคงเดิมเพิ่มเติมด้วย สัญญาณ LiDAR ที่บนหลังคารถ กระจังหน้าโครเมียมใหม่แนวตั้งทั้งหมด 25 ซี่ จากเดิม 14 ซี่ ปะตราโลโก้เด่นพร้อมขอบสีเงินล้อมรอบด้านหน้ารถแบบเต็มๆไฟหน้า LED ดีไซน์หรู ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime ชุดกันชนหน้าทรงหรูเสริมคิ้วแนวนอนใต้กันชนหน้า

    พร้อมชุดตกแต่งสีเงินที่ขอบกระจก คิ้วชายล่างประตู คิ้วกันชนหลัง หลังคา Dual Panoramic Sunroof ประตูสไลด์ด้านข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูนที่เปิดประตูดึงก้าน ไฟท้ายดีไซน์แนวยาว LED และไฟเลี้ยววิ่ง Sequential พร้อมฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้าติดตั้งออปชันเสริมความสบายด้วยประตูดูดไฟฟ้าทั้งในส่วนประตูคู่หน้าและประตูสไลด์สองฝั่ง ล้ออัลลอยลายสุดล้ำขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 245/50R18 ตัวรถมีดังนี้

    • ความยาว 5,050-5,410 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,890-1,900 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 3,085-3,275 มิลลิเมตร
    • ความสูงจากใต้ท้องรถ 155 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,764-2,865 กิโลกรัม

    GWMภายในใหม่หมดลบภาพเดิมๆด้วยชุดแผงคอนโซลหน้าใหม่หมดมาพร้อมจอถึง 3 จอเริ่มที่จอมาตรวัดความเร็ว LCD สี จอสัมผัสตรงกลาง 2 จอคู่ ขนาด 15.6 นิ้ว 2.5K พร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ Coffee OS 3.2 พร้อมชิปเกรดยานยนต์ 8295 และรองรับ Coffee GPT

    ติดตั้งจอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้า SR-HUD กระจกมองหลังอัจฉริยะสามารถเปลี่ยนมุมมองจากกระจกมองหลังปกติเป็นกระจกอัจฉริยะด้วยกล้องที่ติดตั้งบริเวณประตูหลัง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน จอบนเพดานความละเอียดสูงพิเศษ 3K ขนาด 17.3 นิ้ว พร้อมลำโพง 23 จุด มาจาก Harman Kardon รวมพนักพิงศีรษะ

    GWM

    เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่งแบบ Zero Gravity หุ้มหนัง NAPPA ทางด้านเบาะนั่งแถวที่ 2 ติดตั้งเบาะนั่ง VIP แบบ First Class เครื่องบิน สามารถปรับนอนราบได้ด้วยปุ่มเดียว และรองรับหน่วยความจำเบาะนั่งและการชาร์จแบบไร้สาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโต๊ะเล็ก

    เบาะนั่ง 3 แถวมาพร้อมกับฟังก์ชันอุ่นเบาะ เบาะเย็น และนวดเป็นมาตรฐาน และพื้นที่สัมภาระสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้ 7, 12 และ 13 ใบตามลำดับ ตู้เย็นขนาดใหญ่สที่สามารถเปิดได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่างร่วมกับระบบควบคุมอุณหภูมิสองโหมดได้แก่ โหมดทำความเย็น (0-15 องศาเซลเซียส) และโหมดทำความร้อน (35-50 องศาเซลเซียส) มาพร้อมปริมาณความจุที่ให้มาถึง 12.5 ลิตร มอบความสะดวกสบายแบบเหนือระดับยิ่งกว่าใคร

     

    มอบความเงียบในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี เมื่อความเร็วอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เสียงห้องโดยสารจะถูกควบคุมอยู่ที่ 65 เดซิเบล ควบคู่กับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนของเครื่องยนต์ (HALOSonic EOC) ให้ตลอดทั้งเส้นทางไร้ซึ่งสิ่งรบกวนสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    GWM

    มาพร้อมกับเครื่องฟอกอากาศระบบพลาสมา ระบบทำความสะอาดอากาศในห้องโดยสารอัจฉริยะ Air Quality System (AQS) และม่านบังแดดสำหรับแถวที่ 2 และ 3 อีกด้วย นับว่าเป็นรถยนต์ที่มอบความสะดวกสบายผ่านเทคโนโลยีเหนือระดับได้อย่างลงตัว

    มีระบบกลิ่นหอมเฉพาะตัว ได้รับการพัฒนาร่วมกับนักปรุงน้ำหอมชั้นนำ ระบบกลิ่นหอมเฉพาะตัวนี้มอบประสบการณ์กลิ่นที่โดดเด่นด้วยสามธีมได้แก่ Fresh Breeze, Urban Essence, และ Afternoon Garden เพื่อสร้างกลิ่นที่เต็มไปด้วยสุนทรียภาพเพื่อผู้ใช้งานและผู้โดยสารระดับวีไอพีตลอดทั้งเส้นทาง

    หลังคาแบบ Sky Dome ตกแต่งด้วยดวงดาวถึง 830 ดวง รวมถึงดาวตกแบบนิ่งและแบบเคลื่อนไหว สร้างโดมท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวที่ดูมีชีวิตชีวา แสงนุ่มนวลสลับกับเอฟเฟกต์ฮาโล เพื่อมอบบรรยากาศเฉพาะตัวที่ช่วยให้ผู้โดยสารสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบเสมือนอยู่ในห้วงอวกาศในรุ่น WEY 80 9

    GWM

    มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Hi4 Performance เป็นเบนซินเทอร์โบแปรผันปลั๊กอินไฮบริด 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร รหัส E15BE ให้กำลัง 170 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet synchronous motor ให้กำลัง 109 แรงม้า แรงบิด 170 นิวตันเมตรในส่วนล้อหน้าและล้อหลัง 184 แรงม้า แรงบิด 232 นิวตันเมตร

    พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 44.28kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 458 แรงม้า แรงบิดรวม 644 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งในโหมดไฟฟ้าได้ไกลถึง 170 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.7 วินาที

    ชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 26 นาที สามารถวิ่งได้อีก 172 กิโลเมตร ในรุ่น WEY 80 7 กับ WEY 80 8 และวิ่งได้อีก 201 กิโลเมตรในรุ่น WEY 80 9 และชาร์จกระแสสลับ AC 15-100% กำลังไฟ 6.6 kW ภายใน 6.5 ชั่วโมง

    ประหยัด 111 กิโลเมตรต่อลิตรตามาตรฐาน WLTC จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT Four-speed hybrid 4 สปีด มาพร้อมระบบ Braking Energy Regeneration และ One Pedal ขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะที่สามารถปรับการทำงานระหว่างขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อได้อย่างชาญฉลาด ลดการใช้พลังงานและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในทุกการขับขี่

    GWM เปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับสูง “Coffee Pilot Ultra” ติดตั้งเรดาร์เลเซอร์ 128 จุดเป็นออปชันมาตรฐานกับไฮไลต์สำคัญอย่างการทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแผนที่ความละเอียดสูง ครอบคลุมทุกสถานการณ์การใช้งาน และยังรองรับการนำทางแบบจุดต่อจุดได้อย่างราบรื่น

    อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ “NOA (Navigate on Autopilot)” ที่ผ่านการทดสอบบนถนนจริงมากว่า 9 ล้านกิโลเมตร ร่วมกับการจำลองเสมือนจริงกว่า 50 ล้านกิโลเมตร ครอบคลุมทุกสภาพแวดล้อมการใช้งาน ตั้งแต่เมืองใหญ่ไปจนถึงพื้นที่ในชนบท

    ตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้ใช้งานเพื่อการเดินทางแบบครอบครัวและนักธุรกิจ GWM WEY 80 เปิดตัวทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ GWM WEY80 7, GWM WEY80 8 และรุ่นท็อปเรือธง GWM WEY80 9

    GWM

    มาพร้อมสีภายนอกทั้งสีเขียว Ink Night Green, สีทอง Flowing Gold, สีดำ Deep Space Black, สีขาว Yunjin White และสีเทา Rain Sky Gray โดยจะเปิดตัวที่จีน 13 พฤษภาคมนี้ส่วนเมืองไทยพบกันปีนี้ตั้งใจท้าชนกับ GAC M8 PHEV ที่จะเปิตตัวในปีนี้เช่นกัน

    ที่มา AUTOHOME

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts