อีกหนึ่งรุ่นจากค่าย GWM หรือ Great Wall Motor จัดโปรโมชันลดโหดลดแรงหั่นราคาจำหน่าย HAVAL H6 เอสยูวีรุ่นดังของค่าย
ภายใต้แคมเปญ “The GREAT DEAL ลดแรง แซงทุกดีล” ในราคาใหม่ดังนี้
- รุ่น ULTRA PHEV ราคา 1,249,000 บาท (ถูกลง 450,000 บาท)
- รุ่น ULTRA HEV ราคา 1,099,000 บาท (ถูกลง 250,000 บาท)
รับฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปีเต็ม มูลค่า 30,000 บาท สำหรับรุ่น ULTRA PHEV SUV และมูลค่า 25,000 บาทสำหรับ ULTRA HEV SUV ฟรี! ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ HUPER OPTIK CSD มูลค่าสูงสุด 7,600 บาท พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทาง GWM แบบล้อลาก 4 ล้อ ทรง Pilot วัสดุอะลูมิเนียม ขนาด 16 นิ้ว มูลค่า 9,990 บาท พร้อมรับดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน (เมื่อดาวน์ 25%) สำหรับ HAVAL H6 Hybrid SUV รุ่น ULTRA ถึง 30 กันยายนนี้
ภายนอก Exterior
HAVAL H6 รุ่น ULTRA ทั้ง HEV และ PHEV ปรับบุคลิกให้ดูดีกว่าเดิมตั้งแต่ กระจังหน้าทรง Star Matrix ขนาดใหญ่สีดำดุดันและแข็งแกร่งคล้ายกับ Peugeot 3008 ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์ล้ำสมัยด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home) เติมเต็มความหรูหราด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟสุดหรู ขนาด 1.2 เมตร ราวหลังคาทรงบิ๊วอินน์ สีเงิน กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูดึงก้าน
ด้านท้ายมีไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาวพาดจากซ้ายจรดขวามาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED มองเห็นได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย ติดตั้งประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระง่ายยิ่งขึ้น ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 19 นิ้วพร้อมยางขนาด 235/55R19 ในรุ่น PHEV และขนาด 225/55R19 ในรุ่น HEV ตัวรถสร้างจากแพลต์ฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะและมิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 4,683 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,886 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,730 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,738 มิลลิเมตร
- ความสูงใต้ท้องรถ 170 มิลลิเมตร ในรุ่น PHEV และ 175 มิลลิเมตรในรุ่น HEV
- น้ำหนักรถ 1,881 กิโลกรัม ในรุ่น PHEV และ 1,720 กิโลกรัมในรุ่น HEV
- ความจุถังน้ำมัน 55 ลิตร ในรุ่น PHEV และ 61 ลิตรในรุ่น HEV
ภายใน Interior
ตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-เทา ภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” ที่มีชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันและความหรูหราให้กับห้องโดยสาร รวมไปถึงการเชื่อมต่อหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า ลำโพง 8 จุดรอบคันพร้อม Treble Woofer และ DTS
พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบกรองอากาศ PM 2.5 Wireless Charger กุญแจ Smart Key ระบบ Push Start และประตูท้ายที่สามารถเปิด – ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า และระบบ Kick Sensor อีกทั้งยังมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย แผงมาตรวัดดิจิตอลลอยตัว HD Multi Information Display 10.25 นิ้ว
จอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านพร้อม Paddle Shift กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เปิดประตูพร้อมสตาร์ทเครื่องได้สะดวกและง่ายกว่าเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางในส่วนคนขับ และไฟฟ้า 4 ทิศทางในส่วนคนนั่ง
เบาะหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง อีกระดับของความสบายด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ช่องเสียบ USB ตัวเบาะหลังยังพับได้ 40/60 และสร้างบรรยากาศอบอุ่นภายในห้องโดยสารด้วยไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร Ambient Light ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions)ทั้ง การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) และ GWM Application: ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชั่นของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ
สมรรถนะ Performance
ขุมพลังมาพร้อมเบนซิน 1.5 Turbo GW4B15D GDIT EVO 150 แรงม้าที่ 5,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 230 นิวตันเมตรที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที
โดยในรุ่น PHEV พัฒนาเพิ่มพลังมากขึ้นชาร์จได้มากขึ้นและวิ่งไกลสุดมากขึ้นด้วย ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ความจุแบตตอรี่มากถึง 34 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตร มีระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ อ้างอิงตามมาตรฐาน New European Driving Cycle (NEDC Standard) รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ช่วยประหยัดน้ำมัน พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 8 โหมดทั้งโหมด Hybrid 4 โหมด = ECO, Normal, Sport, Snow และโหมด EV 4 โหมด= ECO, Normal, Sport, Snow
สามารถใช้หัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) ชาร์จเร็ว 0%-80 % กำลังไฟสูงสุด 48 kW ประมาณ 35 นาที และการชาร์จแบบไฟบ้าน (AC) ชาร์จช้า 0%-100% ประมาณ 6 ชั่วโมง กำลังไฟสูงสุด 6.6 kW
ส่วนรุ่น HEV พื้นฐานเครื่องยนต์เหมือนกันจับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้าที่ 300 นิวตันเมตร โดยเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร
เร้าใจยิ่งขึ้นด้วยโหมดการขับขี่เลือกได้ถึง 4 โหมดทั้งโหมด ECO, Normal, Sport, Snow ช่วงล่างปรับแต่งใหม่เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ที่มาพร้อมความสบายสำหรับผู้โดยสารตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว บนพื้นฐานระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงและหลังแบบอิสระมัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง ทั้งคู่จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ DHT ขับเคลื่อนล้อหน้า
ความปลอดภัย Safety
มาพร้อมช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย Driver Assistance and Safety Systems มาครบทั้ง
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
- ช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) เพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง
- ช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
- ช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
- ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK)
- ตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD)
- ช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
- ช่วยลงทางลาดชัน (HDC)
- ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
- ช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW)
- ตรวจความดันลมยาง (TPMS),
- ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM)
- ถุงลมนิรภัย 6 จุดรอบคัน
HAVAL H6 ULTRA ทั้งรุ่น PHEV และ HEV มีสีภายนอกด้วยกันถึง 5 สีทั้ง สีขาว ดำ เทา น้ำเงิน แดง