More

    Honda ปรับแผน ย้ายไลน์ผลิตรถไปที่ปราจีนบุรี ส่วนอยุธยาผลิตชิ้นส่วน

    Honda ปรับแผน ย้ายไลน์ผลิตเนื่องด้วยความผันผวนและปัจจัยรอบด้านจากสถานการณ์ภายในและนอกประเทศทำให้ทางค่ายมีการปรับแผนตามสถานการณ์

    Honda ปรับแผนโดยทาง ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) มีการปฏิรูปสายการผลิตรถยนต์ของไทยเพื่อดำเนินการพัฒนาขีดความสามารถในการดำเนินการผลิตรถยนต์สำเร็จรูป รวมถึงการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ xEV อย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นที่พึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

    ผ่านการเสริมสร้างโครงสร้างการผลิตที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม “e:HEV series” ระบบฟูลไฮบริดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อีกทั้งสัดส่วนยอดขายมีการเติบโตขึ้นอย่างมากจาก (ผลประกอบการในปี 2565) 32% เป็น 70% (แผนในปี 2567) ในด้านธุรกิจ บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตแบบรวมศูนย์ โดยต่อไปเราจะมีการปฏิรูปแต่ละโรงงานของเราเพื่อยกระดับโครงสร้าง ดังต่อไปนี้

    • โรงงานปราจีนบุรี:พัฒนาเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปที่สมบูรณ์แบบ โดยการใช้ประโยชน์จากสายการผลิตที่ผสมผสานเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความสามารถในการรองรับธุรกิจ ด้วยการโยกไลน์ผลิตรถจากอยุธยาทั้ง Honda Accord และ Honda CR-V มาผลิตที่ปราจีนบุรีร่วมกับไลน์ผลิตปัจจุบันทั้ง Honda City, Honda City Hatchback, Honda Civic, Honda HR-V และ Honda e:N1
    • โรงงานอยุธยา:จากเดิมเป็นโรงงานผลิตรถยนต์พัฒนาเป็นฐานการผลิตและส่งออกชิ้นส่วน โดยใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีการผลิตและห่วงโซ่อุปทานที่เราได้มีการพัฒนาและสั่งสมมาเป็นเวลาหลายปี

    Honda ปรับแผน

    โดย Honda จะเป็นบริษัทที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไปโดยเราดำเนินการจะผลักดันอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อสนับสนุนตลาดรถยนต์ในประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นฐานการส่งออกทั่วโลกเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยด้วย

    “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป โดยจะผลักดันอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อสนับสนุนตลาดรถยนต์ในประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นฐานการส่งออกทั่วโลกเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยด้วย” แถลงการณ์ระบุ

    Honda ปรับแผน

    บริษัทฮอนด้า เริ่มต้นการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยปี 2527 จากนั้นในปี 2539 ได้เปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะอยุธยา เป็นครั้งแรก ก่อนขยายงานด้วยการเปิดสายการผลิตที่ 2 ในปี 2551 และเมื่อประเทศไทยเกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 รวมถึงอยุธยา ซึ่งฮอนด้าเป็นหนึ่งในโรงงานที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

    นำไปสู่การตัดสินใจทำลายรถที่เคลื่อนย้ายหนีน้ำไม่ทันรวม 1,055 คัน รวมถึงชิ้นส่วนที่รอการประกอบ แม้จะไม่ถูกน้ำท่วมก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าจะไม่มีรถยนต์ หรือชิ้นส่วนใดจากโรงงานอยุธยา ที่อยู่ท่ามกลางน้ำท่วมยาวนาน หลุดรอดออกสู่ตลาด

    Honda ปรับแผน

    โดยผลกระทบครั้งนั้นยังส่งผลให้ฮอนด้าต้องหยุดการผลิตรถในประเทศไทย 6 เดือน ก่อนจะกลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2555 โดยในช่วงที่หยุดการผลิตได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้สามารถนำเข้ารถบางรุ่นเข้ามาตลาดได้โดยไม่เสียภาษีนำเข้า คือ Jazz และ Accord

    เมื่อปี 2556 ฮอนด้าประกาศลงทุนแห่งใหม่เป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่า มูลค่า 17,150 ล้านบาท ที่ปราจีนบุรี

    และปี 2558 บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนดี เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ประกาศสร้างสนามทดสอบรถยนต์ ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ปราจีนบุรี ด้วยเงินลงทุน 1,700 ล้านบาท

    ต่อมาปี 2559 รถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชันที่ 10 เป็นรถรุ่นแรกที่โรงงานฮอนด้าปราจีนบุรี

    ปี 2560 ฮอนด้าเปิดสนามทดสอบในประเทศไทย เพิ่มศักยภาพการวิจัย และพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย ที่ปราจีนบุรี

    Honda ปรับแผน

    การลงทุนหลายส่วนที่ปราจีนบุรี ในช่วงเวลานั้นหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าฮอนด้าจะย้ายการผลิตไปปราจีนบุรีทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงน้ำท่วมอยุธยา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาฐานการผลิตทั้ง 2 แห่ง ก็เปิดสายการผลิตรถยนต์ด้วยกันทั้งคู่

    โดยปัจจุบัน โรงงานอยุธยา มีความสามารถในการผลิตสูงสุด (capacity) 150,000 คัน/ปี โดยผลิต Accord, BR-V, HR-V, CR-V, Civic

    ขณะที่โรงงานปราจีนบุรี มีกำลังการผลิต 120,000 แสนคัน/ปี รองรับการผลิต Civic Hatchback, Jazz, City Sedan, City Hatchback และล่าสุดคือ การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) รุ่นแรกของฮอนด้า คือ e:N1

    สำหรับการที่ทาง Honda ปรับแผน การผลิตครั้งนี้ ถูกจับตาพอควร เนื่องจากเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดรถยนต์ไทยหดตัวอย่างต่อเนื่อง  การเข้ามาตีตลาดของ อีวี จากจีน รวมถึงข่าวคราวการประกาศหยุดการผลิตรถยนต์ของแบรนด์ญี่ปุ่น 2 แบรนด์ก่อนหน้านี้ คือ ซูบารุ ที่มีผลช่วงปลายปีนี้ และซูซูกิ มีผลปลายปี 2568

    อย่างไรก็ตาม หากดูภาพรวมของตลาดรถยนต์ที่หดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 ล่าสุดช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) พบว่าฮอนด้า มียอดขายรวม 37,374 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.3% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี ถ้าเทียบกับหลายแบรนด์ หรือ ตลาดรวมที่ติดลบ 23.8%

    แต่ก็มีความเป็นได้ที่ฮอนด้าจะรวมการผลิตไว้ในแห่งเดียว เพื่อบริหารต้นทุน ในภาวะที่ตลาดรถยนต์หดตัว อีกทั้งที่ปราจีนบุรีเป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีสูงกว่า และยังมีศูนย์ อาร์แอนด์ดี และสนามทดสอบในย่านเดียวกัน ทำให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น


    CR : ฮอนด้า

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts