รถใหม่ลำดับที่ 2 ของค่าย Honda ในไทยเตรียมเปิดตัวภายในปีนี้กับ Honda HR-V e:HEV รุ่นปรับโฉม พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ด้วยการส่งภาพ Official ดักคอเรียกน้ำย่อยก่อนพบตัวจริงกับ Honda HR-V e:HEV รุ่นปรับโฉมและการปรับครั้งนี้อ้างอิงจากสเปกญี่ปุ่น
ภายนอก Exterior
มาพร้อมหน้าใหม่เริ่มที่รุ่น E กับ EL ปรับความเท่เริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมดีไซน์ใหม่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงเส้นแนวนอนลดจำนวนเหลือ 8 เส้น จากเดิม 10 เส้น พร้อมตรา H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า กันชนหน้าออกแบบใหม่สปอร์ตยิ่งขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศใหม่แนวรังผึ้งพร้อมคิ้วชายล่างสีเงิน ล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60R17
ส่วนรุ่น RS แนวสปอร์ตด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมโครเมียมลายเกล็ดสีเงิน สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง พร้อมคิ้วสีเงินโครเมียมฝังกันชนหน้า สะท้อนพลังใหม่ที่แตกต่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำพร้อม สีเงินโครเมียมฝัง
ทุกรุ่นได้ไฟท้าย LED Light Strip ออกแบบใหม่เป็นเส้นแนวนอนเชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว และไฟเลี้ยววิ่งหน้าหลังแบบ LED Sequential พร้อมออปชันเดิมทั้งกระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูหลังแบบซ่อนรูปติดเสา C หลังคาด้านบนน่าจะเป็นกระจกพาโนรามิกขนาดใหญ่ Panoramic Glass Roof ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมฝาท้ายแบบแฮนด์ฟรี ปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) เสาอากาศครีบฉลาม มิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,330-4,385 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,790 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,590 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,610 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,370-1,407กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 196 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายใน Interior
สเปกไทยอัปความคุ้มค่า น่าเป็นเจ้าของยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเติมหลากหลายฟังก์ชัน อาทิ ใหม่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
พร้อมออปชันเดิมคอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่ายพร้อมการตกแต่งด้วยโทนสีเข้มมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID ขนาด 7 นิ้ว เครื่องปรับอากาศแบบ Dual Zone พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ลำโพงคุณภาพถึง 11 จุด รองรับ Honda CONNECT รองรับการเชื่อมต่อไร้สายและที่ชาร์จไร้สาย ลำโพง 4-8 ตำแหน่ง ไฟในห้องโดยสารแบบ LED ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่องแบบ Type-C พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน
เบาะหนังดีไซน์สปอร์ตสีดำออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งได้ดียิ่งขึ้น คงเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ด้วยเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลายเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุด โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ พร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ทั้ง Utility Mode Long Mode และ Tall Mode อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
สำหรับรุ่น RS มาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต และ พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
สมรรถนะ Performance
พร้อมระบบฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มาพร้อมชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit – IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่
กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว รหัส LEB-H5 108 แรงม้าที่ 6,000-6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที ผสมผสานกันทำงานมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลังรวมสูงสุด 131 แรงม้าที่ 4,000-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,500 รอบต่อนาที
พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT พร้อม Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และ Sport Mode นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors)ตอบสนองทันใจให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตรต่อลิตร
ความปลอดภัย Safety
ความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing ติดตั้งเป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่าง มีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัยและเทคโนโลยีด้านการขับขี่ระดับพรีเมียม อาทิ
- ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อมระบบ Auto Brake Hold
- แสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- เตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่
- พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง รอบคัน
- ป้องกันล้อล็อก (ABS)
- กระจายแรงเบรก (EBD)
- ช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA)
- ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS)
รุ่นปรับโฉมค่าย Honda มาพร้อมสีภายนอกใหม่ สีกากีแซนด์ (มุก) พร้อมหลังคาสีดำทูโทน เตรียมเผยสเปกและเริ่มเปิดรับจองสิทธิ์เพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ ก่อนใคร ในวันที่ 10 กันยายน 2567 และจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเป็นครั้งแรกที่บูทในงาน Motor Expo 2024 และที่โชว์รูมทั่วประเทศ