More

    Honda N-ONE e: อีวีทรงน่ารักวิ่งไกล 270 กม. ขายญี่ปุ่นกันยายน

    เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Honda N-ONE e: รถพลังอีวีล้วนทรงกล่องหลังสร้างความฮือฮาให้ทั่วโลกได้รู้จักถึงอังกฤษมาแล้ว

    ญี่ปุ่นเป็นที่แรกของที่เปิดตัว Honda N-ONE e: ในร่างรถทรงกล่องแฮทช์แบ็กไซซ์จิ๋ว ด้วยหน้าตาคล้ายต้นแบบแต่ปรับรายละเอียดให้ตรงกับความเป็นรถพร้อมขาย หรือ Production Car

    เริ่มที่หน้าตาหล่อเข้มด้วยกระจังหน้าทรงทึบๆสีเข้มๆแทน โดยมีช่องชาร์จด้านหน้าประกบกับฝากระโปรงหน้ามีขอบไฟหน้า LED พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในชุดกรอบกลมๆครอบไฟหน้า ในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยม หลังคาทรงสูงเด่นสง่า พร้อมกระจกมองข้างติดไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูดึงก้าน ไฟท้าย LED ฝาท้ายและชุดกรอบป้ายทะเบียนท้ายอยู่ในชุดเดียวกันเป็นหนึ่งเดียวและล้อขนาด 14 นิ้ว พร้อมยางขนาด 155/65 R14 มีทั้งแบบล้ออัลลอยและกระทะล้อ และยางมาจาก Yokohama BluEarth FC8V

    Honda

    ภายในมีออปชันตามความจำเป็นทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้าน มาตรวัดความเร็ว LCD ขนาด 7 นิ้ว คันเกียร์แบบกดปุ่ม Shift By Wire เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold อยู่ในชุดแผงคอนโซล ช่องเสียชาร์จสมาร์ตโฟน เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์แนวนอน จอสัมผัสขนาด 8-9 นิ้ว เอกลักษณ์ที่ชวนอยากเป็นเจ้าของ

    Honda

    เบาะนั่งด้านหน้าฝั่งคนนั่ง และเบาะหลังตอนที่สองนั้นพับลงได้แบบแนวราบ 50/50 หรือยกพับขึ้นได้ เหลือเพียงส่วนของเบาะคนขับ พร้อมที่จะบรรทุกได้เต็มรูปแบบมาแบบโทนสีเทา/ดำ  มีช่องเสียบ USB พร้อม Honda CONNECT สามารถตั้งค่าการชาร์จผ่านสมาร์ทโฟนได้ เช่น การตั้งค่าระบบปรับอากาศปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารก่อนเดินทาง, ตั้งเวลาชาร์จกันค่าไฟสูงกว่า และตั้งค่าปริมาณการชาร์จแบตเตอรี่สูงสุดตั้งแต่ 80-100% ป้องกันการเสื่อมของแบตเตอรี่ในระยะยาว

    Hondaด้วยขุมพลังไฟฟ้าล้วนยกมาจาก Honda N-VAN e: ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 29.6 kWh ให้พลัง 53 แรงบิด 162 นิวตันเมตร วิ่งไกลกว่า 245 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTC กับ 64 แรงม้า แรงบิด 162 นิวตันเมตร วิ่งไกลกว่า 270 กิโลเมตร (WLTC)

    ยังมีโหมด ECON ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศและช่วยขยายระยะทางในการใช้งานมากขึ้น ส่วนการชาร์จนั้นเป็นการชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6 kW ใช้เวลาประมาณ 4.5 ชั่วโมง และชาร์จกระแสตรง DC ChADEMO รองรับการชาร์จสูงสุด 50 kW ภายใน 30 นาที พร้อมแบตเตอรี่ขนาดบางเป็นพิเศษถูกติดตั้งไว้บริเวณใต้พื้นห้องโดยสารยังจ่ายไฟให้อุปกรณ์ภายนอกสูงสุด 1,500 W

    ติดตั้งระบบเซอร์โวเบรกแบบไฟฟ้า ช่วยในการชะลอความเร็ว และเบรกนุ่มนวลป้องกันไม่ให้สินค้าได้รับความเสียหายจากการตกกระแทก มีฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) สามารถจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ของรถไปยังอุปกรณ์อื่นๆและความปลอดภัยจัดเต็มด้วย Honda Sensing ไม่ว่าจะเป็น

    • เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS)
    • เตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ Leading vehicle start notification function
    • ช่วยหักหลบคนเดินถนน Pedestrian Accident Reduction Steering
    • เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation System (RDM)
    • บอกข้อมูลป้ายสัญญาณจราจร Traffic Sign Recognition System (TSR)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB)
    • ป้องกันเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อขณะเดินหน้า Erroneous start suppression function
    • ป้องกันเหยียบคันเร่งผิดพลาดเมื่อขณะถอยหลัง Erroneous rear start suppression function
    • สัญญาณกะระยะการจอดด้านและหลัง Parking sensor system (front/rear)
    • ช่วยยับยั้งการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงโดยไม่ตั้งใจ Sudden acceleration suppression function

    Honda

    Honda N-ONE e: เตรียมขายญี่ปุ่นในเดือนกันยายนมี 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น e:G และรุ่น e:L และเตรียมโกอินเตอร์ไปขายในงาน IAA MOBILITY 2025 ที่มิวนิก เยอรมนี ระหว่างวันที่ 9-14 กันยายน โดยมีสีภายนอก 5 สี ได้แก่

    • สีเขียว Cheerful Green
    • สีขาวมุก Platinum White Pearl
    • สีบอรนซ์เงิน Lunar Silver Metallic
    • สีฟ้า Fjord Mist Pearl
    • สีน้ำเงิน Seabed Blue Pearl

    ที่มา Carwatch

     

     

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts