Nissan Motor Co., Ltd. (“Nissan”) และ Honda Motor Co., Ltd. (“Honda”) ตกลงยุติบันทึกข้อตกลง (MOU) ที่ลงนามเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพิจารณาควบรวมธุรกิจระหว่างทั้งสองบริษัท
นับตั้งแต่ลงนามใน MOU ทีมผู้บริหารของทั้งสองบริษัท รวมถึง CEO ได้หารือเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางการตลาด เป้าหมายของการควบรวม และกลยุทธ์การบริหารหลังการควบรวม นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทได้ปรึกษากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ อย่างรอบคอบ
ในการเจรจา ฮอนด้าเสนอให้ปรับโครงสร้างจากเดิมที่วางแผนจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน โดยให้ฮอนด้าแต่งตั้งคณะกรรมการส่วนใหญ่และ CEO ตามที่ระบุใน MOU มาเป็นโครงสร้างที่ฮอนด้าจะเป็นบริษัทแม่ และนิสสันเป็นบริษัทย่อยผ่านการแลกเปลี่ยนหุ้น
จากการพิจารณาต่าง ๆ ทั้งสองบริษัทเห็นพ้องกันว่า เพื่อให้สามารถตัดสินใจและดำเนินกลยุทธ์ได้รวดเร็วในตลาดที่มีความผันผวนสูง โดยเฉพาะในยุคของยานยนต์ไฟฟ้า จึงเหมาะสมที่สุดที่จะยุติการหารือและยกเลิก MOU
อย่างไรก็ตาม นิสสันและฮอนด้าจะยังคงร่วมมือกันภายใต้กรอบของ “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์” เพื่อมุ่งสู่ยุคของยานยนต์อัจฉริยะและไฟฟ้า โดยมุ่งสร้างมูลค่าใหม่และเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจของทั้งสองบริษัท
สรุปข่าวการยุติการควบรวมกิจการระหว่างนิสสันและฮอนด้า
1. เหตุการณ์สำคัญ
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัท นิสสัน มอเตอร์ และ ฮอนด้า มอเตอร์ ประกาศยุติการพิจารณาควบรวมกิจการที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567
หากการควบรวมสำเร็จ จะทำให้เกิดบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก
2. สาเหตุหลักของการยกเลิกการควบรวม
โครงสร้างการบริหาร: ฮอนด้าเสนอให้เปลี่ยนจากการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน เป็นโครงสร้างที่ ฮอนด้าเป็นบริษัทแม่ และนิสสันเป็นบริษัทย่อย ซึ่งนิสสันไม่เห็นด้วย
ความต้องการอิสระของนิสสัน: นิสสันต้องการรักษาความเป็นอิสระในการดำเนินธุรกิจ เพื่อสามารถปรับตัวในตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
3. สถานการณ์ทางการเงินของทั้งสองบริษัท
ฮอนด้า: มีกำไรเพิ่มขึ้น 25% ในช่วงที่ผ่านมา
นิสสัน: ประสบปัญหากำไรลดลงอย่างหนัก คาดว่าจะขาดทุนสุทธิในปีนี้ และมีการ ปิดโรงงานพร้อมปลดพนักงานกว่า 9,000 คนทั่วโลก
4. แผนการในอนาคต
แม้จะไม่ควบรวมกิจการ แต่ ทั้งสองบริษัทจะยังคงร่วมมือกันในด้านเทคโนโลยีและยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้กรอบ “พันธมิตรเชิงกลยุทธ์” เพื่อนำไปสู่ยุคของ ยานยนต์อัจฉริยะและรถยนต์ไฟฟ้า