Honda ประกาศราคาจำหน่ายและขายที่แรกของโลกที่ญี่ปุ่นในวันนี้ (5 กันยายน) สำหรับ Honda Prelude คูเป้เจเนอเรชันที่ 6
Honda Prelude คูเป้ท้ายลาดชื่อดังในยุค 70-90 กลับมาอีกครั้ง ภายใต้แนวคิด “Ultimate Glide” สะท้อนถึงความลื่นไหลและพุ่งทะยานบนถนน — ราวกับเครื่องร่อนบนฟากฟ้า
หน้าตาคล้ายต้นแบบ
ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าดีไซน์เล่นระดับยาวมาถึงกระจังหน้าดีไซน์ทรงทึบติดตราโลโก้บวกเส้นแนวนอนใต้กระจังประกบไฟหน้าแบบ Full LED แบบสปอร์ตลงตัวด้วยชุดกันชนหน้าพร้อมดิฟฟิวเซอร์ในตัวแบบสีดำพร้อมช่องระบายอากาศทรงตาข่ายคั่นกลางช่องด้วยเส้นแนวตั้งสีฟ้าเร้าใจทุกอณู
ด้านข้างหลังคาลาดลงพร้อมกระจกสีดำ กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถัง ด้านท้ายพาดยาวด้วยไฟท้าย LED ติดตราตัวอักษร Honda เว้นช่อง มีตราโลโก้ Prelude สีดำ และล้ออัลลอยลายดำเข้ม Berlina Black ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/40R19 จาก Continental’s “Premium Contact 6” พร้อมคาลิปเปอร์เบรกหน้าหลังสีฟ้าขนาด 350 มิลลิเมตร และกันชนหลังทรงเท่
ตัวรถมีมิติขนาดใหญ่กว่า Mazda MX-5 และเกือบเท่ากับ Toyota GR86 ที่มีฐานล้อที่เท่ากันคาดนำพื้นฐานมาจาก Honda Civic ดังนี้
- ความยาว 4,520 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,880 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,355 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,605 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,460 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายในอย่างเท่
สไตล์สปอร์ต โอบกระชับ รองรับการขับขี่ความเร็วสูงด้วย คอนโซลหน้าดูๆไปมีคล้ายละม้ายกับ Honda Civic แต่ปรับรายละเอียดให้เข้ากับความเป็น Prelude ตั้งแต่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงสหกรณ์ใช้กันทุกรุ่น มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ครั้งแรกกับมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และ Auto Brake Hold เกียร์อัตโนมัติไฟฟ้าแบบสวิตช์ Shift by Wire (Electric Gear Selector)
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto เชื่อมต่อชีวิตเหนือระดับ ด้วยหลากหลายฟังก์ชันและเทคโนโลยีล้ำสมัยครบครันด้วยใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว โดยติดตั้งครั้งแรกอย่าง Google Assistant, Google Maps และแอปอื่น ๆ อีกมากมายเช่น YouTube Music, Spotify
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 8 จุด ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) กระจกมองหลังแบบปรับแสงอัตโนมัติ ซันรูฟแบบพาโนรามา เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มเบาะหนังแท้กับหนังสังเคราะห์สีน้ำเงิน/ขาว เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ ไฟส่องสว่างตกแต่งแผงประตูคู่หน้าและห้องสัมภาระท้าย มีเท้าแป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) ช่องเชื่อมต่อ USB Type C
ครั้งแรกกับเทคโนโลยีฟูลไฮบริด
ด้วย e:HEV เจเนอเรชันใหม่ ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-Cycle คู่กับขับเคลื่อนล้อหน้ากับ ขุมพลังฟูลไฮบริดหรือ e:HEV และเป็นรถใหม่ลำดับที่ 14 ที่ใช้ขุมพลังรักษ์โลกยกพื้นฐานของเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร ในรหัส LFC-H4 DOHC ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD)
ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 182 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบต่อนาทีในภาคมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว และแบตเตอรี่ Lithium-Ion
ให้กำลังรวมเมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันมากกว่าถึง 232 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแป้นเหนี่ยวหลังพวงมาลัย Paddle Shift พร้อมโหมดการขับขี่ทั้ง SPORT, GT, COMFORT และ INDIVIDUAL ให้ความประหยัด 23.6 กิโลเมตรต่อลิตร (WLTC)
โหมดการขับขี่เร้าใจ
ด้วย Honda S+ Shift เป็นระบบจำลองการเปลี่ยนเกียร์เพื่อความสนุกสนานในการขับขี่ พร้อมระบบ Linear Shift Control ให้ความรู้สึกการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วเมื่อกดคันเร่งเต็มที่ พร้อมนำเสนอระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมแพลตฟอร์มขนาดกลางใหม่มีความแข็งแกร่งเพื่อลดน้ำหนักมากถึง 10% ด้วยโครงสร้างตัวถังที่ออกแบบง่ายไม่ซับซ้อนและน้ำหนักลดลง 90 กิโลกรัมเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดนี้ Honda หวังลดต้นทุนรถยนต์ฟูลไฮบริดและไฟฟ้าได้มากถึง 50%
ความปลอดภัยด้วย Honda Sensing
- เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก Collision Mitigation Braking System (CMBS)
- ป้องกันการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน Collision Mitigation Throttle Control (CMTC)
- ป้องกันการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างกะทันหันขณะถอยหลัง Rear Collision Mitigation Throttle Control (RCMTC)
- ควบคุมการเบรกความเร็วต่ำ Low Speed Brake Function
- ช่วยบังคับทิศทางป้องกันการชนคนเดินเท้า Pedestrian Collision Mitigation Steering System
- เตือนเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Mitigation (RDM)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ Adaptive Cruise Control (ACC) with Low Speed Follow
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist System (LKAS)
- ช่วยควบคุมรถขณะรถติด Traffic Jam Assist (TJM)
- เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Lead Car Departure Notification (LCDN)
- จดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
- ไฟหน้าอัจฉริยะแบบปรับไฟสูงเองได้ Adaptive Driving Beam (ADB)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Information (BSI)
- เตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย Cross Traffic Monitor (CTM)
- สัญญาณกะระยะการจอดรถ Parking Sensor System
- ลดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเร่งคันเร่งผิดพลาด Unintended Acceleration Mitigation (UAM)
Honda Prelude ตั้งเป้ายอดขายที่ญี่ปุ่นเดือนละ 300 คัน ขายญี่ปุ่นด้วยสีภายนอก 5 สีทั้ง สีขาว Moonlit White Pearl สีเทา Meteoroid Gray Metallic สีดำ Crystal Black Pearl สีแดง Frame Red และสีขาวหลังคาดำ Moonlit White Pearl & Black (two-tone color) ขาย 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่นปกติและรุ่น “Honda ON Limited Edition”
เริ่มต้น 6,179,800-6,481,000 YEN หรือราว 1,349,000-1,405,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้ามาขายในไทยราคารวมภาษีอยู่ที่ 2,529,000-2,635,000 บาท ส่วนยุโรปพบกันต้นปี 2026 และ ออสเตรเลียกลางปีนี้
ที่มา CarWatch
Photo: Shinichi Tsutsumi