หลังเปิดรับจองล่วงหน้าตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาถึงแม้สถานการณ์ชิปหายยังคงอยู่อาจต้องรอรถกันยาวๆไปสำหรับ Honda StepWGN เจนใหม่
ล่าสุด Honda ประกาศราคาจำหน่าย Honda StepWGN เจเนอเรชันที่ 6 อย่างเป็นทางการโดยมาทั้งหมดสี่รูปแบบทั้งรุ่น AIR, SPADA SPADA Premium Line และ SPADA Welfare สำหรับคนพิการ ด้วยหน้าตาที่เหลี่ยมขึ้นใหญ่โตขึ้นในร่างรถทรงสองกล่องที่ดีไซน์เรียบง่าย ระยะด้านหน้าที่ยาวขึ้น เสา A กระจกขนาดใหญ่ ประตูข้างสองบานสไลด์แบบไฟฟ้า หล่อขึ้นด้วยไฟหน้า LED แบบ L-Shape พร้อมไฟเลี้ยว dynamic turn signals แบบ LED เข้ามาด้วยผสมผสานกับกระจังหน้าโครเมี่ยมแบบ Satin-chrome และล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 16 พร้อมยาง 205/60 R16 และ 17 นิ้วพร้อมยาง 205/55 R17 ความพิเศษของตัวรถคือพื้นที่ชานต่ำในส่วนประตูสไลด์กับประตูท้ายสะดวกในการขึ้นลงและขนของได้ดีขึ้นกว่าเดิมและไฟท้าย LED แนวยาว
ภายในมีจุดเด่นด้วยห้องโดยสารที่ใหญ่และกว้างกว่าเก่าแบบ 3 ตอนทั้ง 7 หรือ 8 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งตอนที่ 2 ปรับเอนได้พร้อมที่วางแขนและเลื่อนได้ทรงคล้ายเบาะนั่ง VIP ในรุ่น 7 ที่นั่ง พร้อมตอน 3 ที่สามารถปรับพับได้เพิ่มพื้นที่ในการโดยสาร แถมตัวเบาะสามารถกันเปื้อน กันคราบสกปรกได้ทำความสะอาดง่ายแบบ Fabtech คอนโซลหน้าใหม่ทันสมัยสไตล์ Civic FE โดยเฉพาะช่องแอร์ลายรังผึ้งพร้อมมาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ 11.4 นิ้ว ถาดอเนกประสงค์ พร้อมโทนการตกแต่งสีเข้มและสีอ่อนให้เลือก
ขุมพลังมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน e: HEV แบบ Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 2.0 ลิตร Atkinson cycle รหัส LFA-H4 กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 175 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมมากสุด 184 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 315 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT และเครื่องยนต์เบนซิน VTEC Turbo รุ่น L15C 1.5 ลิตร 150 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 203 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,600 – 5,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ VTEC Turbo และความปลอดภัย Honda Sensing
Honda StepWGN เจนใหม่ ถึงจะเปิดราคาแล้วแต่ปัญหาเรื่องเซมิคอนดั๊กเตอร์ที่ขาดแคลนอาจส่งผลให้การส่งมอบรถที่ญี่ปุ่นเกิดความล่าช้าโดยในรุ่น Turbo อาจรอถึง 5 เดือนและรุ่น e:HEV รอถึง 6 เดือน ซ้ำร้ายบางรุ่นบางสีอาจรอไปถึงครึ่งปี โดยมีจำหน่ายทั้งหมด 4 แบบ 2 เครื่องยนต์หลัก 15 รุ่นย่อย ตั้งแต่ 2,998,600 – 3,846,700 yen หรือราว 811,000 – 1,039,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าแต่ถ้ารวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 2,332,000-2,987,000 บาท และรุ่น SPADA Welfare 7 รุ่นย่อย เครื่อง VTEC Turbo จำหน่ายราคาตั้งแต่ 3,555,000 – 3,830,000 yen หรือราว 959,000 – 1,033,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าแต่ถ้ารวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 2,757,000-2,969,000 บาท
ที่มา Carwatch