Hongqi (หงฉี) แบรนด์รถยนต์หรูของจีน เตรียมจับมือกับ Leapmotor เพื่อใช้แพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาบุกตลาดยุโรป
เปิดตัว EHS5 ในงาน Munich Motor Show
หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อ Hongqi (หงฉี) แต่สำหรับในประเทศจีน นี่คือแบรนด์รถยนต์พรีเมียมระดับผู้นำ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1958 และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ โดยรถยนต์รุ่นแรกๆ สงวนไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเท่านั้น ชื่อมีความหมายว่า “ธงแดง” ซึ่งเป็นการแสดงความเคารพต่อการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ที่เป็นรากฐานของจีนยุคใหม่
ตอนนี้ Hongqi ได้ตั้งเป้าหมายที่ใหญ่กว่าแค่ตลาดในประเทศ พวกเขากำลังขยายตลาดครั้งใหญ่ไปยังยุโรป โดยหวังจะสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักเคียงข้างแบรนด์จีนอื่นๆ อย่าง BYD, Chery และ Changan ที่รุกตลาดนี้อย่างหนักหน่วงไปแล้ว
ความทะเยอทะยานนี้ถูกตอกย้ำในงาน Munich Motor Show ที่ผ่านมา ด้วยการเปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้าขนาดกลางรุ่น EHS5 แม้ดีไซน์อาจจะดูเป็นรถจีนทั่วไป แต่รถรุ่นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของแบรนด์ในยุโรป เพราะมีแผนจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดใหม่ถึง 15 รุ่นในทวีปนี้ภายในปี 2028
ปักหมุดในตลาดรถหรูยุโรป
ก่อนหน้านี้หงฉีได้เริ่มบุกตลาดยุโรปไปแล้ว โดยมีรถจำหน่ายในนอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ แต่แผนการที่ใหญ่กว่านั้นคือการเปิดโชว์รูมให้ได้กว่า 200 แห่งทั่วยุโรปภายในปี 2028 ควบคู่ไปกับการขยายไลน์สินค้าอย่างต่อเนื่อง
แม้รายละเอียดของรถรุ่นใหม่ๆ จะยังเป็นความลับ แต่มีหนึ่งความร่วมมือที่ได้รับการยืนยันแล้ว นั่นคือ Leapmotor จะเป็นผู้จัดหาแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าให้กับหงฉีเพื่อใช้เป็นพื้นฐานสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่น โดยรุ่นแรกมีกำหนดเปิดตัวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2026
ด้านรูปลักษณ์ภายนอกของ EHS5 มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน ด้านหน้าดูคล้ายกับรถจากค่าย Deepal และด้านข้างก็ดูธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ส่วนท้ายกลับดูสวยสะดุดตาด้วยไฟท้าย LED ที่มีเส้นสายโค้งมน
จัดเต็มด้วยสเปกที่น่าสนใจ
EHS5 ใช้แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ขนาด 85 kWh ให้ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ประมาณ 550 กม. ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดเผยสเปกเต็มๆ แต่ระบุว่าสามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 20 นาที เท่านั้น
ส่วนพละกำลังสำหรับรุ่นที่จะจำหน่ายในยุโรปยังไม่มีการเปิดเผย แต่รุ่นที่ขายในจีนมีตัวเลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังที่ให้กำลัง 339 แรงม้า และขับเคลื่อนสี่ล้อที่ให้กำลัง 610 แรงม้า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรุ่นที่ขายในจีนใช้แบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า (111 kWh) ทำให้คาดว่ารุ่นสเปกยุโรปน่าจะมีพละกำลังที่ต่ำกว่าเล็กน้อย
Source: Carscoops















