ถึงเวลาต่อภาษีรถยนต์อีกแล้ว ขั้นตอนชำระภาษีรถยนต์ ประจำปี แบบออนไลน์ ง่าย ๆ จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง มีขั้นตอนยังไง มาดูกันเลย
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1) อายุไม่เกิน 7 ปี
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) อายุไม่เกิน 7 ปี
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) อายุไม่เกิน 7 ปี
- รถจักรยานยนต์ (รย.12) อายุไม่เกิน 5 ปี
- เป็นรถที่จดทะเบียนจังหวัดใดก็ได้
- รถที่ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี และชำระภาษีล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน
- ประกันรถยนต์ชั้น 1
- เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
- Log-in เข้าสู่ระบบผ่าน Digital ID
- ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ที่เมนู “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”
- กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ เพื่อลงทะเบียนรถ แล้วยื่นชำระภาษี
- ชำระเงินโดยหักบัญชีเงินฝาก (ต้องมีบัญชีเงินฝากและเป็นสมาชิกใช้บริการโอนเงินผ่านระบบ
อินเทอร์เน็ตกับธนาคาร/สถาบันการเงิน) - ชำระเงินโดยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต (เป็นผู้ถือบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA , Master Card)
โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้ให้บริการรับตัดเงินในบัตรเครดิต/เดบิต - ชำระเงินโดยพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถแล้วนำไปชำระเงินภายในวันที่กำหนด ณ เคาน์เตอร์ ตู้ ATM หรือ
Application ของธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ - ชำระเงินโดยใช้ Application ของธนาคารหรือสถาบันการเงิน สแกน QR code ที่ปรากฏ ภายใน 15 นาที
– สามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS หรือข้อขัดข้องในการรับชำระภาษี ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน” นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสถานะการชำระเงิน โดยคลิกที่ ปุ่มเครื่องหมายพิมพ์
– กรมการขนส่งทางบก จะจัดส่งใบเสร็จรับเงินไปที่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) และจัดส่งเครื่องหมายแสดง
การเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ทางไปรษณีย์ตามที่อยู่จัดส่งเอกสารที่กรอกไว้
– เจ้าของรถสามารถนำใบคู่มือจดทะเบียนรถไปพิมพ์รายการชำระภาษีได้ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัด/
สำนักงานขนส่งสาขาทุกแห่ง