รถอีวียังคงเป็นกระแสแรงข้ามปี ทั้งในด้านยอดขายที่ได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการอุดหนุนด้านภาษี และความคึกคักจากการเข้ามารุกตลาดไทยของแบรนด์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอดจดทะเบียนใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ในปีนี้จะอยู่ที่ระหว่าง 25,000-35,000 คัน ซึ่งเป็นการเติบโตกว่า 2 เท่าจากปี 2565 ที่ผ่านมา
เพื่อช่วยให้ผู้ซื้ออีวีมือใหม่ตัดสินใจเลือกซื้อและวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งมีประสบการณ์การใช้รถที่ดีในทุกๆ วัน “กรุงศรี ออโต้” จึงขอแนะนำ 3 เรื่องที่ควรพิจารณาก่อนซื้อรถอีวี ดังนี้
- 1. เลือกแบรนด์และรุ่นที่เหมาะกับตนเอง เมื่อพูดถึงตัวเลือกรถอีวี หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในไทย แต่ปัจจุบันรถอีวีมีให้เลือกหลากหลาย แบรนด์ดังที่เราคุ้นเคยและแบรนด์ทางเลือกต่างก็ทยอยเปิดตัวโมเดลใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมแล้วถึงกว่า 20 แบรนด์รถยนต์ และ 50 แบรนด์รถจักรยานยนต์ ผู้ซื้อรถอีวีจึงสามารถเลือกแบรนด์และรุ่นที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกำลังซื้อของตนเอง ในขณะที่ผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ก็ให้บริการสินเชื่ออีวีที่ครอบคลุมทุกประเภทรถ ผู้ที่ต้องการจะซื้อรถจึงไม่ต้องกังวลในการขออนุมัติสินเชื่อ
- 2. เช็กความคุ้มครองประกันภัย หนึ่งประเด็นเกี่ยวกับอีวีที่อาจยังคาใจหลายคน คือ ประกันภัยรถอีวีแตกต่างกับประกันภัยรถทั่วไปอย่างไร อันที่จริงแล้ว ประกันภัยรถที่เราชำระเบี้ยทุกปีนั้น คือ ประกันอุบัติเหตุ ซึ่งให้ความคุ้มครองรถทุกประเภทเหมือนกันใน 3 ส่วน ได้แก่ บุคคลภายนอก บุคคลในรถ และความเสียหาย/สูญหาย/ไฟไหม้ของตัวรถยนต์ที่เกิดจากอุบัติเหตุ ในส่วนของแบตเตอรี่ของรถอีวี ซึ่งเทียบได้กับเครื่องยนต์ของรถสันดาปภายใน จะเป็นการรับประกันจากผู้ผลิต ซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์และโมเดล ผู้ซื้อรถอีวีจึงควรตรวจสอบความคุ้มครองอย่างถี่ถ้วน เพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยหากต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม ก็สามารถเลือกซื้อประกันคุ้มครองอะไหล่ (Extended Warranty) ได้เช่นกัน
- 3. หาตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจ หากพูดถึงความอุ่นใจในการใช้รถ โดยเฉพาะการเดินทางไกลบนเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย หลายคนอาจนึกถึงบริการช่วยเหลือรถฉุกเฉิน (Roadside Assistance) แต่ในกรณีของรถอีวี ผู้ใช้มือใหม่มักกังวลเรื่องการชาร์จไฟฟ้า ดังนั้น การหาข้อมูลเพื่อวางแผนการเดินทางจึงเป็นเรื่องจำเป็น ปัจจุบัน ผู้ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ได้พัฒนาแอปพลิเคชันโดยมีฟีเจอร์การค้นหาสถานีชาร์จเข้ามาแล้ว ในส่วนของผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน GO by Krungsri Auto ก็สามารถใช้ฟีเจอร์ “สถานีชาร์จรถไฟฟ้า (EV Station)” เพื่อตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของสถานีชาร์จ สถานะพร้อมใช้งาน และประเภทเครื่องชาร์จของแต่ละสถานีได้แบบเรียลไทม์ได้เช่นกัน
การซื้อรถหนึ่งคัน ไม่ว่าจะเป็นรถประเภทใด ก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ดังนั้น ผู้ซื้อจึงควรจึงควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำด้านการเงินในเชิงลึก เพื่อให้สามารถผ่อนรถได้อย่างสบายใจ และมีประสบการณ์การใช้รถที่ดีได้ในทุกๆ วัน
ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการสินเชื่อของกรุงศรี ออโต้ พร้อมรับคำปรึกษาทั้งเรื่องรถและเรื่องเงิน ช่วยให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่าย ผ่านสาขากรุงศรี ออโต้ 52 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งสาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั่วประเทศ หรือติดต่อ “กรุงศรี ออโต้ คอล เซ็นเตอร์” โทร 02-740-7400 กด 1
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.krungsriauto.com หรือ www.facebook.com/krungsriauto
บทความอื่น ๆ