หลังจากเปิดตัวที่แรกของโลกที่เมืองไทยเมื่อช่วงต้นปีกับ ISUZU D-MAX MHEV ปิกอัพพลังมายด์ไฮบริดรุ่นแรกของค่ายและรุ่นแรกของวงการปิกอัพไทย สานต่อ “นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศ” ผ่าน “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality)
ภายนอก Exterior
ล่าสุดทางทีมงาน Car2Day ได้พบข้อมูลของ ISUZU D-MAX MHEV ในเว็บไซต์ www.isuzu-tis.com ชัดเจนแล้วทาง ISUZU เตรียมเปิดตัวและขายโดยนำพื้นฐานรุ่น Hi-Lander 4 ประตู พ่วงเทคโนโลยี Mild Hybrid ทางเลือกใหม่ เพื่อโลกที่ดีขึ้น ตอบสนองการขับขี่ที่ดีขึ้น ทั้งด้านการออกตัว การประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม
ภายนอกทุกอย่างเหมือนกันหมดตั้งแต่กระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยวซ่อนรูป 2 ชั้น ดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตรา ISUZU ขนาดใหญ่แบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey สอดรับกับไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน
ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ผสมผสานดีไซน์ช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู ไฟตัดหมอกหน้า LED ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว 6 ก้านคู่ ปัดเงา พร้อมยาง 265/60 R18 และที่ขาดไม่ได้ตราสัญลักษณ์ Hi-Lander e ตรงบังโคลนซ้าย-ขวา และ สัญลักษณ์ MHEV ใต้ตรารุ่น M บริเวณฝากระบะท้ายและด้านข้างกระบะท้าย
ภายใน Interior
ภายในใหม่ด้วย ชุดมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชันพิเศษในรุ่น MHEV มาพร้อมไฟแสดงการชาร์จแบตเตอรี่ แสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบปรับเปลี่ยนดีไซน์หน้าจอได้ 2 สไตล์ และเชื่อมต่อข้อมูลกับ Infotainment Display สะดวกยิ่งขึ้น
ในชุดแผงคอนโซลหน้า Sharp Horizontal Layers เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ตามหลัก Usability Design เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทาง โทนสีดำเงิน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทาง หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น และ Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เทคโนโลยี COOLMAX ลดการสะสมความร้อน ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
สมรรถนะ Performance
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1.9 ลิตร RZ4E-TC ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที มาตรฐาน EURO 5 ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser)
ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้จากเดิมจะมี แคทาลิติก คอนเวอร์เตอร์ สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล เช่น AdBlue
พร้อมอมมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการขับเคลื่อนรถยนต์ที่ช่วยในการออกตัวและขณะเร่งเครื่องและระบบแปลงพลังงานที่สูญเสียในขณะถอนคันเร่งหรือเบรกเป็นพลังงานไฟฟ้า (REGENERATIVE BRAKING SYSTEM) ติดตั้งแบตเตอรี่ 48 โวลต์ 8.4 แอมป์ ความจุ 370 วัตต์-ชั่วโมง หรือ 0.4032 kWh เพื่อช่วยลดการปล่อยไอเสียและสามารถปั่นไฟเพื่อชาร์จพลังงานเมื่อถอนคันเร่ง (Engine Brake) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม RevTronic และ Paddle Shift
ความปลอดภัย Safety
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน
- ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
- ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention assist)
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go
- เตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW Front Forward Collision Warning
- หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake
- เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist)
- ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
- เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake)
- ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
- ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
- ระบบเบรก ABS
- กระจายแรงเบรก EBD
- ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน BA
- ควบคุมการทรงตัว ESC
- ป้องกันการลื่นไหล TCS
- ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
- ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
- กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide
- จุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับเบาะหลังในรุ่น 4 ประตู
- ระบบ BOS (Brake Override System) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด
- ESS (Emergency Stop Signal) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind spot monitoring
- ปลอดภัยยิ่งขึ้นกับระบบ Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน
- ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensing Wiper เพิ่มความสะดวกสบาย พร้อม Integrated Wiper Blade ระบบฉีดน้ำบนก้านปัดแบบ Blade Type สะอาดหมดจด
- Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
เบื่องต้น ISUZU D-MAX MHEV เปิดรับจองแล้วที่โชว์รูมทั่วประเทศขายจริง 20 พฤศจิกายนพร้อมการรับประกันดังนี้
- เครื่องยนต์ 1.9 Ddi รับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- แบตเตอรี่ Mild Hybrid รับประกัน 10 ปี หรือ 350,000 กิโลเมตร
- ระบบ Mild Hybrid รับประกัน 5 ปี หรือ 175,000 กิโลเมตร
จำหน่าย 2 รุ่นย่อยทั้ง
- รุ่น Hi-Lander M 1.9 4ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,145,000 บาท มาเฉพาะสีขาวมุกโดโลไมท์ (Dolomite Pearl White)
- รุ่น CAB4 S 1.9 4 ประตู เกียร์อัตโนมัติ ราคา 803,000 บาท มาเฉพาะสีเงินโบฮีเมียน เมทัลลิก (Bohemian Silver Metallic) เน้นกลุ่ม Fleet