นอกจาก ISUZU D-MAX ที่ปรับโฉมตามสเปกไทยไปแล้วทาง ISUZU MU-X ก็เปิดตัวเช่นกันแต่เป็นรุ่น MY2023 หรือปรับปรุงใหม่
ปรับครั้งนี้เหมือนสเปกไทยทุกประการตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์เขี้ยวสองชั้นพร้อมตรา ISUZU บนขอบกระจังหน้าแบบ Black Chrome พร้อมด้วยชุดแต่งรอบคันเฉดสี Magnetite Gray รอบคัน ดุดันลงตัว ไฟท้าย LED สไตล์ Winglet Signature เล่นระดับแบบ 3 มิติ อารมณ์สปอร์ตโทนเทาดำในทุกรุ่น ใหม่! ล้ออัลลอย Dynamic Rotor Blade สี Magnetite Gray ปัดเงา ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางขนาด 265/50 R20 ในรุ่น LS-T ใหม่! ล้ออัลลอย Aeroscrew ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/65 R17 ในรุ่น LS-M นอกนั้นเหมือนเดิมทั้ง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 ในรุ่น LS-U ไฟหน้า Bi-LED Projector ดีไซน์แบบ Arrow Signature พร้อมไฟ Daytime แบบ LED ในตัว สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ เติมอารมณ์สปอร์ตหรู ในชุดกันชนหน้าหรูพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ชุดกันชนหลังทรงหรู ระบบเปิด-ปิดประตูท้ายด้วยไฟฟ้า Power Tailgate ที่มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ Step Sensor ในรุ่น LS-U กับ LS-Tแต่ความต่างจากสเปกไทยตรงที่ใช้เสาอากาศแบบเสาสั้นติดหลังคารถส่วนหน้า ไม่ใช่เสาอากาศครีบฉลาม
ภายในยังคงเดิมตั้งแต่คอนโซลหน้าเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวคอนโซลกลาง จัดวางเรียบหรู เบาะนั่งคู่หน้าฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทางคนนั่ง 4 ทิศทางพร้อมปุ่มดันหลังด้วยไฟฟ้า เบาะฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทาง สบายทั้ง 7 ที่นั่ง พร้อมปรับพับได้หลากหลายรูปแบบตามการใช้งาน ที่ต่างจากสเปกไทยตรงที่เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุผ้าและกึ่งหนังแท้สีดำ พร้อมระบบอุ่นเบาะ สร้างบรรยากาศอบอุ่นด้วย Ambient Light และ Dome Light ช่วยเติมแต่งบรรยากาศหรูมีระดับ จอสัมผัสมีให้เลือกทั้งขนาด 7 นิ้ว ในรุ่น LS-M และ 9 นิ้วในรุ่น LS-U และ LS-T รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมลำโพง 8 จุด ให้มิติเสียงรอบทิศทาง เครื่องปรับอากาศควบคุมทั้งห้องโดยสาร หน้า-หลังมีให้เลือกทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ Dual-Zone ในรุ่น LS-U และรุ่น LS-T พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน เบรกมือไฟฟ้าและระบบ Auto Brake Hold กุญแจ ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start สามารถใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger และช่องต่อ DC 12V แต่สเปกออสเตรเลียจะไม่มีช่องต่อ AC Power Socket 220V
ขุมพลังออสเตรลียเหมือนกับสเปกไทยตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS TURBO รุ่น 4JJ3-TCX 3.0 ลิตร 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift เลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ Part Time Terrain Command พร้อม Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และเบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L และลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร พร้อมช่วงล่างคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension และเหนือกว่าสเปกไทยด้วยระบบเฟืองท้ายแบบ Electronic Diff-lock ควบคุมด้วยไฟฟ้าพร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า
ความปลอดภัยเหมือนๆกับสเปกไทยด้วย ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้ขับรถอย่างปลอดภัย IDAS (ISUZU’s Intelligent Driver Assistance System) ทำงานผ่านกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ช่วยตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time พร้อมเรดาร์ 2 จุด ตั้งแต่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System) ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go ตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วคราวในกรณีเผลอเหยียบคันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ MAM (Mis Acceleration Mitigation) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ AUTOMATIC HEADLIGHTS & HIGH BEAMS เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake) ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist) แต่มีออปชันบางรายการที่เหนือกว่าสเปกไทยทั้ง ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) แจ้งเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (DriverAttention Assist) ตรวจวัดลมยาง TPMS ในรุ่น LS-U กับ LS-T จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter) และถุงลมนิรภัยรอบคัน 8 จุด รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้งระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS, Brake Assist (BA) เสริมแรงเบรก, EBD กระจายแรงเบรก ป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว Traction Control System (TCS) ควบคุมการทรงตัวขณะขับขี่ Electronic Stability Control (ESC) ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย Trailer Sway Control (TSC) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก Brake Override System (BOS) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) เซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System รวม 8 จุด ทำงานร่วมกับ กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal) ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อทุกรุ่น เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) โดยเพิ่มฟังก์ชันตัดการทำงานของ BSM และ RCTA แบบอัตโนมัติในกรณีลากจูง
ฟังก์ชันเอาใจคนรักความสะดวกสบายด้วย กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB ช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร Welcome Light ล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร Walk Away Auto Lock เปิดไฟส่องสว่างได้นาน 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ระบบกรองอากาศเข้าห้องโดยสาร
ISUZU MU-X MY2023 มาทั้งหมด 3 เกรด ทั้งเกรด LS-M, LS-U และ LS-T ทั้งหมด 6 รุ่นย่อย ขายจริง 1 ธันวาคมนี้ที่ออสเตรเลียเริ่ม $48,900-$67,400 หรือราว 1,1,84,000-1,629,000 บาท สีทั้งหมด 8 สี ตั้งแต่ สีใหม่ สีน้ำเงิน Galaxy Blue mica, สีขาวมุก Moonstone White pearl (รุ่น LS-U และ LS-T), สีเทา Obsidian Grey mica, สีแดง Magnetic Red mica, สีดำ Basalt Black mica, สีบรอนซ์เงิน Mercury Silver metallic, สีขาว Mineral White และ สีน้ำเงิน Cobalt Blue mica โดยตัดสีน้ำตาล Jasper Brown mica
ที่มา WhichCar