นอกจากจะเปิดตัวและราคาสำหรับ OMODA C5 EV มีเซอร์ไพรส์กับการเปิดตัวพวงมาลัยขวาครั้งแรกของโลกกับ JAECOO 6 พร้อมเปิดราคาด้วยเช่นกัน
JAECOO 6 นำพื้นฐานของ iCAR 03 แปะตรา JAECOO สำหรับคนที่ชื่นชอบความสวยงามแต่ก็ยังมองหารถที่มีสรรถนะในการขับขี่บนพื้นผิวที่หลากหลาย
ภายนอก Exterior
ฉีกกฎเกณฑ์งานดีไซน์ด้วย E-CUBE ทรงกล่องดีไซน์ลายเส้นดูเรียบง่าย เฉียบคม ชัดเจน แต่มีเอกลักษณ์ลงตัว ส่วนด้านล่างของกระจังหน้าออกแบบให้ขยายกว้างขึ้นเสริมอารมณ์แบบออฟโรดที่สมบุกสมบันเริ่มที่กระจังหน้าทรงซี่แนวตั้งสีดำแปะตราตัวอักษร I มีไฟเรืองแสง พร้อมชุดไฟหน้าดีไซน์ยูคว่ำประกบด้วยชุดไฟหน้า LED แบบ Matrix Adaptive ขนาดเล็ก มีไฟแนวตั้งแบบ DRL LED สองข้างรับกับกันชนหน้าสีดำเข้ม
ด้านข้างมีความคล้ายกับ Land Rover Defender ด้วยที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวรถ หลังคารถสีดำพร้อมราวหลังคาและดีไซน์เสา A-D เน้นความเหลี่ยมและหนักแน่นสร้างความโดดเด่นและดุดันให้กับตัวรถ ไฟท้าย LED แนวตั้งพร้อมฝาท้ายเปิดบานใหญ่แบบเปิดด้านข้าง และปิดด้วยระบบดูดไฟฟ้า พร้อมกล่องขนาดใหญ่เก็บสัมภาระในตำแหน่งเดียวกับที่ห้อยยางอะไหล่สไตล์รถลุยยุค 90 กันชนหลังดีไซน์สปอร์ตและล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/60 R18 ในรุ่น Long Range 2WD และขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 225/55 R19 ในรุ่น Long Range 4WD
ตัวรถมีขนาดคอมแพ็คเล็กกว่า JETOUR TRAVELLER ทรงกล่องห้าประตูจากแพลตฟอร์ม i-MS Platform โดยโครงสร้างตัวรถแบบเหล็กและอะลูมีเนียม ตั้งแต่
- ความยาว 4,406 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,910 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,715 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,715 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 1,892 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 195 มิลลิเมตร
ภายใน Interior
ทันสมัยด้วยคอนโซลหน้าทรงถึกสี่เหลี่ยมพร้อมออปชันเด่นทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัด มาตรวัดดิจิทัล LCD 10.25 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วประมวลแม่นยำด้วยชิฟ Qualcomm Snapdragon 8155 ห้องโดยสารนั่งสบายพร้อมไฟสร้างบรรยกาศในห้องโดยสารหรือ Ambient Light
มาพร้อมกับเบาะนั่งฟังก์ชันเพิ่มเติมมากมายระดับเฟิร์สคลาสที่ช่วยเพิ่มความสะดวกอาทิ ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง (Memory seat) ระบบรองน่องปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (4-Way Electric Leg support) และระบบปรับอุณหภูมิของเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าของรถ ที่สามารถช่วยระบายอากาศเพิ่มความสบายขณะขับขี่ในทุกสภาพอากาศ รองรับการขับขี่ออฟโรดด้วยวัสดุภายในที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความรู้สึกสบายสำหรับผู้ขับขี่
ภายในส่วนกลางบริเวณที่พักแขน (Armrest) ที่มีพื้นที่จัดเก็บของภายในมากมาย พร้อมทั้งยังถูกออกแบบมาให้ช่วยลดความรู้สึกของระยะห่างระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้าอีกด้วย แผงประตูยังมีการออกแบบที่กระชับมั่นคง ด้วยมือจับประตูไฟฟ้าแบบซ่อนด้วยสีทูโทนที่เรียบหรู สวิตช์กระจกอิเล็กทรอนิกส์และมือจับประตูภายในที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยไปพร้อมกับความฉลาดล้ำของผู้ขับขี่รุ่นใหม่ พร้อมลำโพง 12 จุดรอบคัน จาก Infinity ในรุ่น Long Range 4WD และ PIONEER 8 จุด Long Range 2WD
สมรรถนะ Performance
ขุมพลังประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Qida Permanent magnet Motor พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP จาก CATL ความเร็วสูงสุด 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จได้ทั้งแบบกระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 80 จาก 30%-80% ในเวลาเพียง 30 นาที และกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 184 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 65.69 kWh วิ่งได้ไกลสุด 426 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 10.5 วินาที
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่เพิ่มมอเตอร์ล้อหน้าเข้ามา 95 แรงม้า แรงบิด 165 นิวตันเมตร ผสมกับมอเตอร์ล้อหลัง 184 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกัน ให้กำลังรวม 279 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร จากความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 69.77 kWh ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ในระยะเวลา 6.5 วินาที วิ่งได้ไกลสุด 418 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
พร้อมโหมดการขับขี่ทั้งโหมด 4 โหมดไม่ว่าจะเป็น โหมดประหยัด ECO, โหมดทั่วไป Normal, โหมดสปอร์ต Sport, โหมดคัสตอม Custom เฉพาะรุ่น Long Range 4WD เพิ่มโหมดลุยอีก 5 โหมดได้แก่ โหมด All Road, โหมดลื่น Slippery, โหมดทราย Beach (Sand) ,โหมดโคลน Muddy, โหมดหลุมบ่อ Bumpy รองรับ V2L จ่ายไฟให้อุปกรณ์ภายนอก 3.3 kW
ความปลอดภัย Safety พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCW (Lane Change Warning
- เตือนการออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ป้องกันการออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring)
- ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- เตือนการชนด้านหน้า FCW (Front Forward Collision Warning)
- เตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
- หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake)
- เตือนก่อนเปิดประตูรถ DOW (Door Open Warning)
- ช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (EMERGENCY LANE KEEPING ASSIST)
- แจ้งเตือนการออกตัว
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (TRAFFIC JAM ASSIST)
กล้องมองภาพรอบคัน 540 องศา ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด กล้องบันทึกภาพแบบ built-in เซนเซอรช่วยจอดรถด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ช่วยเบรก BAS ลดกำลังขับเคลื่อนเพื่อช่วยเบรก BOS ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP ป้องกันล้อหมุนฟรี TCS รักษาเสถียรภาพการทรงตัว เบรกแบบนุ่มนวล CST เบรกสร้างพลังานคืน CRBS ออกตัวบนทางลาดชัน HAC ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC ตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS
JAECOO 6 สเปกพวงมาลัยขวาจำหน่ายมีด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อย.ในราคาดการณ์ทั้งรุ่น Long Range 2WD 1,099,000 บาท รุ่น Long Range 4WD 1,249,000 บาท โดยมีสีภายนอกถึง 5 สีดังนี้
- สีดำ Night Black ภายในสีดำทุกรุ่นและภายในทูโทนสีเขียว/ดำในรุ่น Long Range 4WD
- สีขาว Arctic White ภายในสีดำทุกรุ่น
- สีเทา Coin Grey ในรุ่น Long Range Plus / เพิ่มหลังคาดำ Black Roof ในรุ่น Long Range Ultimate ภายในสีดำ
- สีบอรนซ์เงิน Lunar Silver ภายในสีดำในรุ่น Long Range 2WD ภายในทูโทนสีเขียว/ดำในรุ่น Long Range 4WD
- สีเขียว Forest Green ภายในทูโทนสีเขียว/ดำในรุ่น Long Range 4WD