ช่วงปี 2026 แบรนด์ในเครือ CHERY อย่าง JAECOO ส่งรุ่นใหญ่ของค่ายอย่าง JAECOO 8 SHS บุกไทยอย่างเป็นทางการท้าชนญี่ปุ่นระดับเดียวกัน
JAECOO 8 เอสยูวีใหญ่พื้นฐาน CHERY TIGGO 9 หน้าตาออกไปทางยุคใหม่พกพลังปลั๊กอินไฮบริด Super Hybrid System (SHS)
ภายนอกหรูตั้งแต่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมไส้ในเป็นแนวตั้ง 14 ซี่ ทูโทนโครเมียม/ดำเข้ม ปะโลโก้ JAECOO ขนาดใหญ่คู่กับไฟหน้า LED รับกับกันชนหน้าดีไซน์เด่นเล่นระดับด้านข้างมาพร้อมที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถังรถ กระจกมองข้างทรงสปูน
หลังคารถออกแบบอย่างเฉียบขาดพร้อมไฟท้าย LED แนวยาวประดับด้วยตัวอักษร JAECOO ประกบด้วยกันชนหลังทรงหรูด้วยตัวรถที่ใหญ่กว่าเพื่อนๆในค่าย ประตูท้ายไฟฟ้าแบบ powered tailgate พร้อมล้ออัลลอยเลือกได้ทั้งขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 245/55 R19 กับ 20 นิ้วพร้อมยาง 245/50 R20 ทำให้ตัวรถมีความยาว 4,820 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,930 มิลลิเมตร ความสูง 1,699-1,710 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2820 มิลลิเมตร
ภายในยิ่งมองยิ่งล้ำอนาคตกับคอนโซลหน้าพร้อมช่องแอร์ทรงเหลี่ยมดูหรูหรา เด่นด้วยจอคู่บอกทั้งความเร็วรถกับจอระบบความบันเทิงเชื่อมต่อการสื่อสารทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทั้งหมด 24.6 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัดแบบ Multi-Kinetic Flat-Bottom ปะตัวอักษร JAECOO ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารหรือ Ambient Light มากถึง 64 สี พร้อมความสบายจากเบาะนั่งสองตอน 5 ที่นั่ง และสามตอน 7 ที่นั่ง จอแสดงผลบนกระจกหน้า AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว
ขุมพลังแน่นอนว่าจะเป็นรุ่น Plug In Hybrid SHS ด้วยกำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า 462 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร และทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ได้กำลังสูงสุด 605 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 915 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะเวลา 5.4 วินาที
ความจุพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง 34.46 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 20 นาที และยังชาร์จกระแสสลับ AC ระยะทางขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 175 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC วิ่งไกลด้วยด้วยเครื่องยนต์และไฟฟ้า 1,321 กิโลเมตร
ขุมพลังเป็นเทคโนโลยี Super Hybrid System (SHS) เกิดจากการผสาน 3 แกนหลักอันล้ำหน้าในอุตสาหกรรมมาสู่หนึ่งแพลตฟอร์มได้แก่ 1.เครื่องยนต์ไฮบริดแบบเฉพาะ (DHE) ที่ให้กำลังสูงสุด สำหรับการวิ่งด้วยไฟฟ้า และสำหรับการวิ่งด้วยน้ำมัน 2.ระบบส่งกำลังไฮบริดต่อเนื่องแบบอัจฉริยะ (DHT) และ 3. แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงสำหรับเครื่องยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ คู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ DCT 7 สปีด พร้อมระบบออฟโรดอัจฉริยะ ARDIS ทั้ง ECO, Normal, Sport, Snow, MUD, Off Road
พร้อมระบบความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าและหยุดรถอัตโนมัติ FCW & AEB (Front Forward Collision Warning & Autonomous Emergency Brake) เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake)
ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (TRAFFIC JAM ASSIST) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน และช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (EMERGENCY LANE KEEPING ASSIST)
ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go เตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) จำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISL (Intelligent Speed Limter)
อ่านป้ายจราจร TSR (Traffic Sign Recognition) ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) เตือนก่อนเปิดประตูรถ DOW (Door Open Warning) กล้องมองภาพรอบคันแบบ 540° รวมถึงหลังคารถ ที่และถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 จุด รวมถุงลมนิรภัยคั่นกลางระหว่างเบาะหน้ากับใต้เข่าคนขับ
JAECOO 8 SHS ท้าชน Mazda CX-8 KIA Sorento และ Hyundai SANTA FE จะเปิดตัวที่ไทยต้นปี 2026 พร้อมกับ OMODA C7 SHS