Yamaha ประเทศญี่ปุ่นได้เพิ่มเวอร์ชันใหม่ใน Sports Tourer รุ่น Tracer 9GT , Tracer 9 GT+ (TRACER9 GT+) และประกาศว่าจะเปิดตัวในวันที่ 6 ตุลาคม 2023
มีการติดตั้งเรดาร์คลื่นมิลลิเมตร ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้พร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือต่างๆ และฟังก์ชันช่วยเบรกที่เชื่อมโยงกับเรดาร์ตัวแรกของโลกบนรถจักรยานยนต์
Yamaha ญี่ปุ่น ได้ประกาศอย่างเป็นทางการในประเทศของรุ่น Tracer 9 GT+ ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของ Tracer 9 GT จุดที่สำคัญที่สุดคือมีการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร
Tracer 9 GT มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบขนานขนาด 888cc, IMU 6 แกน, คันเร่งแบบคันเร่งไฟฟ้า และเฟรมหล่อแบบ CF ที่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์การปล่อยมลพิษ Reiwa 2 สืบทอดอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟ LED เต็มรูปแบบ หน้าจอปรับได้ 10 ระดับ ที่จับแบบปรับความร้อนได้ เคสด้านข้าง ขาตั้งกลาง และระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอคทีฟของ KYB ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
คุณสมบัติใหม่ ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ (ACC) ซึ่งใช้เรดาร์คลื่นมิลลิเมตรเป็นแกนหลัก และ UBS ที่เชื่อมโยงกับเรดาร์ (ระบบเบรกแบบครบวงจร) ซึ่งเป็นระบบแรกของโลกที่ใช้กับรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มฟังก์ชันการเชื่อมต่อมิเตอร์ TFT ขนาด 7 นิ้ว + ใหม่ และหากคุณใช้แอปการนำทางสำหรับรถจักรยานยนต์ (ชาร์จแล้ว) ที่พัฒนาร่วมกับ Garmin คุณจะสามารถใช้ฟังก์ชันการนำทางบนหน้าจอมิเตอร์ได้ด้วย นอกเหนือจากโหมดการขี่ในตัวใหม่ที่สามารถปรับได้ถึงสี่ระดับแล้ว ยังมีการใช้ระบบเปลี่ยนเกียร์เร็วรุ่นที่สามอีกด้วย
Tracer 9GT แบบธรรมดายังได้รับความนิยมในฐานะเครื่องจักรที่นำเสนออุปกรณ์ขั้นสูง เช่น ระบบกันสะเทือนที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ในราคาที่สมเหตุสมผล แต่ “Tracer 9 GT+” เกรดที่สูงกว่านั้นถูกเพิ่มเข้ามาด้วยอุปกรณ์ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เหนือกว่าคู่แข่ง
คุณสมบัติที่รอคอยมานานคือ Adaptive Cruise Control (ACC) คือระบบควบคุมความเร็วคงที่ที่ใช้เรดาร์คลื่นมิลลิเมตรเพื่อวัดระยะห่างจากรถคันหน้าและปรับความเร็วและระยะห่างโดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบคันเร่ง เมื่อใช้ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปกติ ผู้ขับขี่จะกลับคันเร่งด้วยตนเอง หรือใช้เบรกเพื่อปล่อยระบบควบคุมความเร็วคงที่เมื่อระยะห่างระหว่างผู้ขับขี่และรถคันหน้าแคบลง แต่ด้วย ACC เครื่องจะเปิดและปิดคันเร่งโดยอัตโนมัติและช่วยเหลือในการควบคุมความเร็วคงที่ เบรก ซึ่งจะช่วยรักษาระยะห่างระหว่างรถให้คงที่
นอกจากนี้ ระยะห่างระหว่างยานพาหนะสามารถกำหนดได้สี่ระดับ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้ตามสภาพแวดล้อมโดยรอบและอารมณ์ของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ หากระยะห่างระหว่างรถคันหน้าใกล้เกินไปเนื่องจากรถคันหน้าใช้เบรก และจำเป็นต้องมีการเบรกอย่างแรง จะมีการแสดงคำเตือนเพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่ใช้เบรก
จากข้อมูลที่เผยแพร่ในช่วงเวลาของการเปิดตัวในยุโรป ACC สามารถตั้งค่าได้ระหว่าง 30 กม./ชม. ถึง 160 กม./ชม. โดยทำงานที่ความเร็ว 30 กม./ชม. หรือสูงกว่าในเกียร์ 1/2, 40 กม./ชม. หรือสูงกว่าในเกียร์ 3/4 และ 50 กม./ชม. หรือสูงกว่าในเกียร์ 5/6 และความเร็วที่ตั้งไว้สามารถเพิ่มหรือลดได้ใน เพิ่มขึ้น 1 กม./ชม. หรือ 10 กม./ชม.
ACC ยังมีฟังก์ชันช่วยเลี้ยวและช่วยแซงอีกด้วย แบบเดิมทำงานร่วมกับ IMU 6 แกนเพื่อลดความเร็วที่เพิ่มขึ้นเมื่อระบบตรวจจับสภาพการเข้าโค้งของรถ และจำกัดระดับการเร่งความเร็วเมื่อเรดาร์ตรวจพบรถคันหน้า
ฟังก์ชันช่วยแซงของรุ่นหลังคือเมื่อผู้ขับขี่ใช้สัญญาณไฟเลี้ยวและรถจักรยานยนต์ตรวจพบสถานการณ์ในการแซง จะเร่งความเร็วได้นุ่มนวลกว่าเมื่อรถฟื้นคืนสู่ความเร็วปกติ ACC ยังเชื่อมโยงกับระบบกันสะเทือนที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และทำงานเพื่อรักษาเสถียรภาพของรถโดยการระงับการเหวี่ยงที่มากเกินไปในระหว่างการลดความเร็ว
Quick Shifter รุ่นที่ 3 รองรับการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงโดยไม่คำนึงถึงการเร่งความเร็วหรือการลดความเร็ว ในขณะที่คันเกียร์แบบธรรมดารองรับการเปลี่ยนเกียร์ขึ้นในระหว่างการเร่งความเร็วและการเปลี่ยนเกียร์ลงระหว่างการลดความเร็ว นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงกับ ACC ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการแม้ในขณะที่ ACC ถูกเปิดใช้งานก็ตาม เมื่อคุณต้องการแรงบิดมากขึ้นเมื่อขึ้นเนินหรือเมื่อคุณต้องการเพิ่มหรือลดการเบรกด้วยเครื่องยนต์ คุณสามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงได้โดยไม่ต้องตัดการทำงานของ ACC
มิเตอร์ TFT ขนาด 7 นิ้วสีใหม่มีโหมดการแสดงผลสามโหมด โดยแต่ละธีมการแสดงผลจะเน้น ACC สามารถตรวจสอบและตั้งค่าระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดบนมิเตอร์นี้ได้
ฟังก์ชันการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนรวมอยู่ในมาตรฐานด้วย และด้วยการใช้แอป “MyRide-Link” ฟรี คุณสามารถรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าต่างๆ และฟังเพลงโดยใช้ชุดหูฟังที่เชื่อมต่อ Bluetooth ได้ การเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟนกับตัวเครื่องนั้นทำได้ผ่าน Bluetooth หรือ Wi-Fi ร่วมกับการใช้มาตรวัดใหม่นี้ สวิตช์บนแฮนด์รถด้านซ้ายยังได้รับการปรับปรุงให้เป็นสวิตช์เรืองแสงอีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยการติดตั้งแอปแบบชำระเงินที่พัฒนาร่วมกับ Garmin ผ่าน MyRide คุณจะสามารถใช้ฟังก์ชันการนำทางโดยใช้หน้าจอขนาดเต็มได้
ระบบเบรกแบบครบวงจร (UBS) ระบบแรกของโลกสำหรับรถจักรยานยนต์
การควบคุมสองประเภททำงานบนเบรกโดยใช้ข้อมูลที่ได้รับจากเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรและ IMU 6 แกน “Front and Rear Assist UBS” และ “Radar Linked UBS” ช่วยเหลือปริมาณการป้อนข้อมูลที่ส่งไปยังเบรกหน้าและหลัง และช่วยเหลือปริมาณการป้อนข้อมูลที่เบรกหน้าและหลังตามข้อมูลที่ตรวจพบโดยเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรและ IMU โดยจะตรวจจับความเร่ง ความเอียงของตัวรถ และระยะห่างจากรถคันหน้า และช่วยให้เกิดความสมดุลในการเบรกที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ยังปรับแรงหน่วงของระบบกันสะเทือนทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อรักษาเสถียรภาพของท่าทางของรถอีกด้วย
ระบบเสริมแรงเบรก ABS จะทำงานเมื่อระบบตรวจพบว่ากำลังจะเกิดการชนเมื่อ ACC ถูกเปิดใช้งาน แม้หลังจากปิด ACC แล้ว UBS จะวิเคราะห์ระยะห่างระหว่างยานพาหนะอย่างต่อเนื่องโดยใช้เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร และเพิ่มแรงเบรกหากตรวจพบว่าการทำงานของเบรกของผู้ขับขี่ไม่เพียงพอที่จะป้องกันการชนกัน อย่างไรก็ตาม ระบบจะไม่หลีกเลี่ยงการชนโดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงมีไว้เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ขับขี่เท่านั้น
KADS (KYB Actimatic Damper System) ที่พัฒนาร่วมกับ KYB ตรวจสอบสภาพด้วยเซ็นเซอร์ระยะชักและ IMU และปรับแรงหน่วงแบบเรียลไทม์ตามสภาพการขับขี่ในโหมดสปอร์ต (A-1) และโหมดความสะดวกสบาย (A-2) . ปรับ. นอกจากจะให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ด้วยการเพิ่มเสถียรภาพ ซึ่งคล้ายกับ ACC ที่กล่าวมาข้างต้น
นอกจากนี้ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ACC และ UBS ได้รับการบูรณาการและควบคุมด้วยระบบกันสะเทือนที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ระบบสลับโหมดการขับขี่ใหม่ “Integrated Mode” ช่วยให้คุณสามารถเลือกหนึ่งในสี่โหมด (Sport/Street/Rain/Custom) เพื่อปรับคุณลักษณะของเครื่องยนต์ ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน ระบบควบคุมการเลื่อน ระบบควบคุมการยก และระบบกันสะเทือนที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้ เบาะนั่งฝั่งคนขับยังได้รับเบาะนั่งแบบใหม่และเบาะหุ้มหนังเพื่อความสบายยิ่งขึ้น จานเบรกหลังมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 267 มม. ซึ่งใหญ่กว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของจานเบรกโดยตรงประมาณ 9% ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกได้ดียิ่งขึ้น คุณสมบัติใหม่ ได้แก่ คาลิเปอร์เบรกหลัง แม่ปั๊มเบรก แป้นเบรกหลัง และกระปุกน้ำมันเบรกรมควันใส
| ชื่อรถ | TRACER9 GT+ |
| รุ่นที่ได้รับอนุมัติ/รุ่นปั๊มมอเตอร์ | 8BL-RN70J/N718E |
| ยาว x กว้าง x สูง รวม | 2175×885×1430 ม.ม. |
| ฐานล้อ | 1,500 ม.ม. |
| ระยะห่างจากพื้นดินขั้นต่ำ | 135 ม.ม. |
| ความสูงของที่นั่ง | 820/835 ม.ม. |
| ลูกล้อ/เทรล | 25.0°/108 ม.ม. |
| น้ำหนักอุปกรณ์ | 223 ก.ก. |
| รุ่นเครื่องยนต์ | ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 จังหวะ 3 สูบเรียง DOHC 4 วาล์ว |
| การกระจัดทั้งหมด | 888 ซีซี |
| เส้นผ่านศูนย์กลางรูใน x ระยะชัก | 78.0×62.0 ม.ม. |
| อัตราส่วนการบีบอัด | 11.5:1 |
| ผลผลิตสูงสุด | 120 แรงม้า/10,000 รอบต่อนาที |
| แรงบิดสูงสุด | 9.5กก.ม./7000รอบต่อนาที |
| วิธีการเริ่มต้น | เริ่มต้นด้วยตนเอง |
| การแพร่เชื้อ | เชื่อมโยงผลตอบแทน 6 ขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง |
| ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง | 18 ลิตร |
| การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงในโหมด WMTC | 20.2 กม./ลิตร (ชั้น 3 ชั้นย่อย 3-2 โดยมีผู้โดยสาร 1 คน) |
| ขนาดยางมาก่อน | 120/70ZR17 |
| หลังขนาดยาง | 180/55ZR17 |
| ความสามารถในการขับขี่ | 2 คน |
| ราคา | 1,826,000 เยน หรือประมาณ 443,143 บาทไทย |
| วันที่วางจำหน่าย | 6 ตุลาคม 2023 |
ภาพข่าวจาก : CMC , young-machine
