JUNEYAO Group พร้อมแล้วที่จะเข้ามาในเมืองไทยส่งรุ่นใหม่ประเดิมตลาดรถยนต์อีวีล้วนนั่นคือ JUNEYAO AIR หรือ JY AIR ให้ชาวไทยได้รู้จัก
JUNEYAO AIR หรือ JY AIR มาด้วยแนวคิดตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ในยุคใหม่ ผสมผสานระหว่างความล้ำสมัย ความสะดวกสบายความปลอดภัยและคำนึงถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวรถมาในร่างฟาสท์แบก 5 ประตู ที่มีความโดดเด่นในเรื่องกระจกบานใหญ่ทรงสามเหลี่ยมทั้งเสา A และเสา C กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถัง พร้อมความโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ทรง 3 เหลี่ยม พร้อมไฟ DRL สอดรับกับชุดกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
กระจังหน้าทรงทึบ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว และด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวยาวพร้อมสปอยเลอร์ในตัวบนฝาท้ายกับชุดกันชนหลังดีไซน์ลงตัวและซันรูฟแบบพาโนรามา และช่องกระจกทรง 3 เหลี่ยมที่เสา A และ C โดยตัวรถมีความยาว 4,550 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร
ภายในมาอย่างหรูพร้อมออปชันเด่นทั้งจอมาตรวัดความเร็วคาดมาในขนาด 10.25 นิ้วแบบ LCD สี กับจอสัมผัสขนาดใหญ่คาดว่าจะมาในขนาด 15.6 นิ้ว ในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์ต่อเนื่องรูปตัวที คอนโซลกลางมีที่ท้าวแขนช่องวางแก้ว 2 จุด และ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 ช่อง และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านทรงท้ายตัด
พร้อมที่นั่งมาในแบบ First Class หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์โดยเบาะคู่หน้าปรับเอนได้ถึง 240 องศา ปรับความสูงได้ 46 มิลลิเมตร ปรับพนักพิงได้ถึง 160 องศาเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการขนของมากขึ้นพร้อมไฟ สร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light 256 สี
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนยังไม่มีการเปิดเผยแต่สีภายนอกมีด้วยกันถึง 6 สีได้แก่ สีขาว Cloud White, สีชมพู Morning Glow Pink, สีน้ำเงิน Sky Blue, สีเขียว Earth Green, สีทอง Sunrise Gold และ สีดำ Dawn Black
จากประสบการณ์ในการทำสายการบินเชิงพาณิชย์ในกลุ่ม JUNEYAO Group ได้แตกไลน์มาทำธุรกิจยานยนต์ตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้วด้วยการซื้อกิจการ YUDO Auto ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2022 (YUDO ทำตลาดจีนมาตั้งแต่ปี 2015 กับรุ่นแรก YUDO YUNTU เอสยูวีจิ๋วพลังอีวี) พร้อมกลยุทธ์
“JUNEYAO Journey” เปิดตัวโซลูชันการเดินทางที่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมีความสุขและได้รับประสบการณ์การเดินทางแบบครบวงจร
JUNEYAO AIR หรือ JY AIR เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 พฤศจิกายน ส่วนจะเปิดราคาจำหน่ายด้วยหรือไม่ติดตามกันและสามารถพบตัวจริงได้ที่งาน Motor Expo 2024 บูธ B17 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี 2 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม
