หลังจากที่ JUNEYAO Group เข้ามาลุยตลาดรถยนต์อีวีเมืองไทยส่งรุ่น JY AIR เข้ามาจนล่าสุดมีการเพิ่มรุ่นย่อยมาอีกหนึ่งรุ่นกับ JY AIR PLUS MAX
ทำให้ JY AIR PLUS MAX รุ่นย่อยใหม่นี้กลายเป็นรุ่นท็อปสูงสุดจากเดิมจะเป็นรุ่น PLUS ครั้งนี้มีการเพิ่มออปชันเพิ่มราคาเพื่อสร้างความแตกต่าง
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่น PLUS เป็นล้ออัลลอยลายใหม่สีเข้มขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/45R19 นอกนั้นคงเดิมที่มีความโดดเด่นในเรื่องกระจกบานใหญ่ทรง 3 เหลี่ยมทั้งเสา A และเสา C กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถัง พร้อมความโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED ทรง 3 เหลี่ยม พร้อมไฟ DRL สอดรับกับชุดกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
กระจังหน้าทรงทึบ ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวยาวพร้อมสปอยเลอร์ในตัวบนฝาท้ายกับชุดกันชนหลังดีไซน์ลงตัวและซันรูฟแบบพาโนรามาแบบกระจกกรองแสงขนาด 2.072 ตารางเมตร โดยตัวรถมาในร่างไซซ์คอมแพ็คจากแพลตฟอร์ม SKYในร่างฟาสท์แบก 5 ประตู มีมิติดังนี้
- ความยาว 4,550 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,860 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,515 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,800 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,775 กิโลกรัม
สำหรับภายในมีการเพิ่มเติมออปชันด้วย ที่วางแขนเบาะหลังพร้อมจอควบคุมอัจฉริยะ ที่ชาร์จแบตมือถือแบบไร้สาย ปุ่มปรับที่นั่งไฟฟ้าและช่องเก็บของและกระจกมองหลังแบบ Streaming Mirror ให้ภาพคมชัดทุกมุมมองในทุกสภาวะของท้องถนน พร้อมระบบบันทึกภาพตลอดการขับขี่
พร้อมออปชันเด่นทั้งจอมาตรวัดความเร็วมาในขนาด 10.25 นิ้วแบบ LCD สี กับจอสัมผัสขนาดใหญ่คาดว่าจะมาในขนาด 15.6 นิ้ว ในชุดคอนโซลหน้าดีไซน์ต่อเนื่องรูปตัวที คอนโซลกลางมีที่ท้าวแขนช่องวางแก้ว 2 จุด และ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย 2 ช่อง และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านทรงท้ายตัด
ระบบปฏิบัติการห้องโดยสารอัจฉริยะ Crystal OS มีฟีเจอร์ควบคุมและสั่งงานแบบอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมไฟภายใน ระบบหน้าต่าง และประตูท้ายรถ ทั้งยังรองรับการตั้งค่าตามสภาพถนนได้แบบเรียลไทม์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นในทุกสภาพการใช้งาน
พร้อมที่นั่งมาในแบบ First Class หุ้มด้วยหนังสังเคราะห์โดยเบาะคู่หน้าปรับเอนได้ถึง 240 องศา ปรับความสูงได้ 46 มิลลิเมตร ปรับพนักพิงได้ถึง 160 องศาเบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการขนของมากขึ้นพร้อมไฟ สร้างบรรยากาศภายใน Ambient Light 256 สี
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมให้ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.9 วินาที ห้กำลังสูงสุด 214 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมดทั้งโหมด Eco, Normal, Sport, One-Pedal
มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP ความจุแบตเตอรี่ 64 kWh วิ่งไกลสุดตามมาตรฐาน NEDC 520 กิโลเมตร การชาร์จ 2 รูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ภายใน 21 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC 10-100% ภายใน 6.5 ชั่วโมง ใพร้อม V2L สูงสุด 6 kW
รถรุ่นนี้ยังได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยระดับสูงตามมาตรฐาน NCAP และ E-NCAP ระดับ 5 ดาว ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจได้ในทุกการเดินทางและความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS Level 2+
- แจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning (FCW)
- ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ช่วยเบรกอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking (AEB)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning (LDW)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA)
- รักษาตำแหน่งในเลน Lane Centering Control (LCC)
- ความคุมความเร็วอัจฉริยะ Intelligent speed assistance (ISA)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ Intelligent Cruise Assist (ICA)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist)
- ช่วยเตือนจุดอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ช่วยเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ LCW (Lane Change Collision Warning)
- ช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
- ตรวจสอบระยะห่างระหว่างรถเรากับรถยนต์คันหลัง RCW (Rear Collision Warning)
- ตรวจจับพฤติกรรมผู้ขับขี่ DMS (Driver Monitoring System)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้งระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องกันล้อหมุนฟรีควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX บริเวณที่นั่งแถว 2 เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ม่านถุงลมนิรภัย ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และถุงลมนิรภัยคั่นกลางห้องโดยสารด้านหน้า กล้องมองภาพรอบทิศทางพร้อมภาพแสดงตัวรถแบบโปร่งแสง สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง
JY AIR PLUS MAX มีด้วยกันถึง 6 สีได้แก่ สีขาว Moon White, สีฟ้า Meteorite Blue, สีเขียว Aurora Green, สีดำ Galactic Black, สีชมพู Sunset Pink สีใหม่ และสีขาวหลังคาดำ White Body + Black Roof พร้อมการรับประกันตัวรถ 8 ปีหรือ 150,000 กิโลเมตร รับประกันมอเตอร์ 8 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 800,000 กิโลเมตร ในราคาจากโครงการ EV 3.5 959,000 บาท (ราคาเดิม 1,114,450 บาท)
รับข้อเสนอพิเศษมากมาย เช่น บัตรโดยสารเครื่องบิน 4 เที่ยวต่อปีนาน 3 ปี เมื่อจองในงาน! ลุ้นเป็นเจ้าของจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือแพคเกจท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ 3 วัน 2 คืน