Kawasaki Europe ได้เปิดตัว 2023 Ninja 400 และ Z400 ซึ่งเป็น 2 รุ่นสุดฮอตในรุ่นมิดเดิลเวจ และแน่นอนว่าพวกมันผ่านมาตรฐานการปลดปล่อยมลภาวะ Euro 5 อีกทั้งยังมาพร้อมกับสีใหม่อีกด้วย
ทั้ง 2023 Ninja 400 และ Z400 ยังคงใช้ขุมพลังแหล่งเดิม เครื่องยนต์พาราเรลทวิน 399 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ กระบอกสูบและช่วงชัก 70 x 51.8 มิลลิเมตร เคลมกำลังไว้ที่ 44.8 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที และแรงบิด 36.6 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ 6 สปีด
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าใช้แบบเทเลสโคปิก 41 มิลลิเมตร ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวที่สามารถปรับเปลี่ยนพรีโหลดได้ ล้ออัลลอยขอบ 17 นิ้ว มีมาให้พร้อมทั้ง 2 รุ่น
ทั้งคู่จะถูกหยุดการเคลื่อนที่ด้วยจานเบรกเดี่ยวเซมิโฟลตติ้งขนาด 310 มิลลิเมตร ที่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นจานเบรกเดี่ยวเซมิโฟลตติ้งเช่นกัน แต่มีขนาด 220 มิลลิเมตร ทั้งหน้าและหลังนั้นจะมีกระบอกสูบคาลิปเปอร์ฝั่งละ 2 ลูก
ตามมาตรฐานของจักรยานยนต์ในย่าน A2 เบาะนั่งนั้นมีความสูง 785 มิลลิเมตร แต่ยังสามารถปรับได้โดยใช้อุปกรณ์เสริม Ergo-Fit
Ninja นั้นมีตัวรถที่หนักกว่า Z400 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยฝ่ายที่หนักกว่ามีน้ำหนัก 168 กิโลกรัม ในขณะที่อีกฝ่ายมีน้ำหนัก 167 กิโลกรัม
2023 Kawasaki Ninja 400 มีตัวเลือกสีให้เลือก 2 แบบ คือ Lime Green แบบ KRT Edition หรือ แบบ Ebony Green แต่ถ้าคุณต้องการลดความเขียวของรถลง Metallic Carbon Gray และ Metallic Matte Carbon Gray ก็เป็นอีก 2 ตัวเลือก
ทางด้าน 2023 Kawasaki Z400 ก็มาพร้อมกับตัวเลือกสี 2 แบบ เช่นกัน คือ Candy Lime Green และ Metallic Spark Black เป็นตัวเลือกแรก หรือ Pearl Robotic White และ Metallic Matte Graphenesteel Gray เป็นอีกตัวเลือก
สำหรับค่าตัวของทั้ง 2 รุ่น ในตลาดยุโรปนั้นจะมีค่าตัวที่แตกต่างกันไป ทาง Kawasaki Europe ได้แนะนำให้ผู้ที่สนใจติดต่อดีลเลอร์เพื่อขอข้อมูลจะเป็นอะไรที่แน่นอนที่สุด
แต่สำหรับตลาดนอกยุโรปนั้น จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนออกมาว่า 2023 Kawasaki Ninja 400 และ 2023 Kawasaki Z400 จะไปเปิดตัวที่ใดต่อหรือจะมีส่งออกนอกยุโรปหรือไม่ อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากความฮิตของพวกมัน มันก็น่าจะขึ้นอยู่กับเวลาอย่างเดียวว่าพวกมันจะถูกนำไปเปิดตัวอีกครั้งเมื่อไหร่
อ้างอิง : rideapart.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
