Pagani Utopia Roadster เป็นผลงานทางศิลปะด้วยเครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ เกียร์ธรรมดา และภายในที่หรูหรา สิ่งเดียวที่ถือเป็นประสบการณ์ใหม่คือ หลังคาแบบถอดออกได้ มาถึงแล้ว และมันสวยงามมาก
Pagani Utopia Roadster ตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์สีแดง Habanero Red ซึ่งเป็นสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีแดง Dubai Red ของ Zonda โดยดูดีขึ้นเมื่อไม่มีหลังคา มีองค์ประกอบการออกแบบเหมือนกับรุ่นคูเป้ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าทรงกลมคู่ กระจังหน้าทรงกว้าง ไฟท้ายทรงกลม และแน่นอนว่ารวมถึงปลายท่อไอเสียสี่ท่อด้วย แต่ยังคงประตูแบบปีกผีเสื้ออันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นคูเป้เอาไว้
Utopia Roadster จะขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าขนาด 21 นิ้วและล้อหลังขนาด 22 นิ้วที่สลับกัน หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero Corsa Cyber ซึ่งเป็นยางใหม่สุดล้ำที่จะสื่อสารกับตัวรถ โดยยางจะอ่านข้อมูลต่างๆ เช่น ABS ระบบควบคุมการลื่นไถล และระบบควบคุมการยึดเกาะถนน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด และยังมีสมรรถนะอีกมากมายให้เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
Roadster ใช้เครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ขนาด 6.0 ลิตรแบบเดียวกับรุ่นคูเป้ โดยเครื่องยนต์ Mercedes-AMG ส่งกำลัง 852 แรงม้าและแรงบิด 1,099 นิวตันเมตร ไปยังล้อหลังผ่านเฟืองท้ายแบบไฟฟ้ากลที่เพลาล้อหลัง รถยนต์ Utopia Roadster มีความเร็วสูงสุดที่จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 350 กม./ชม. ซึ่งน้อยกว่ารุ่นคูเป้ที่ทำได้ 354 กม./ชม. เพียงเล็กน้อย
ผู้ซื้อสามารถเลือกเกียร์ธรรมดา 7 สปีดหรือเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เกียร์หลังรับประกันว่า “เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วปานสายฟ้าแลบ” แต่ก็ยังไม่ใช่เกียร์ธรรมดา
แม้จะมีหลังคาแข็งแบบถอดออกได้ แต่ Utopia Roadster ก็มีน้ำหนักเท่ากับรุ่นคูเป้พอดี คือมีน้ำหนัก 1,280 กก. ที่น่าประทับใจ ยกความดีความชอบให้กับความแข็งแกร่งและความเบาของโครงรถโมโนค็อกคาร์บอนไททาเนียมขั้นสูงที่ช่วยให้รักษาน้ำหนักได้ โดยบริษัทใช้ “สูตรของวัสดุคอมโพสิต” มากกว่า 40 สูตรในการสร้าง เพื่อช่วยให้มีน้ำหนักเบา
ภายในห้องโดยสาร Pagani ก็ดูสวยงามไม่แพ้รุ่นหลังคาแบบตายตัว คาร์บอนไฟเบอร์ หนัง และอลูมิเนียมปกคลุมแทบทุกตารางนิ้ว ระบบเกียร์ธรรมดา 7 สปีดแบบเปิดโล่งอันเป็นเอกลักษณ์ของ Utopia ยังคงใช้อยู่ และคันเกียร์เองก็มีคาร์บอนไฟเบอร์ขัดเงามาด้วย
พวงมาลัยอาจดูไม่น่าสนใจเท่าไหร่เมื่อมองดูครั้งแรก แต่รายละเอียดก็น่าประทับใจมาก พวงมาลัยประกอบขึ้นจากโลหะชิ้นเดียวหนัก 4,300 กก. และใช้เครื่องกัด 5 แกนทำงานต่อเนื่องกันถึง 28 ชั่วโมง รวมแล้วพวงมาลัยมีน้ำหนักเพียง 2.4 กก. เท่านั้น
เช่นเดียวกับรถคูเป้ Roadster จะถือเป็นรถหายาก ซึ่ง Pagani วางแผนที่จะจำหน่ายเพียง 130 คันทั่วโลกในราคาคันละ 3.1 ล้านยูโร หรือประมาณ 119 ล้านบาท โดยคันแรกจะเปิดตัวครั้งแรกในโลกระหว่างงาน Monterey Car Week ในเดือนสิงหาคมนี้
Source: Motor1