LEXUS กระตุ้นตลาดรถหรูอีกครั้งเปิดตัว LEXUS IS พร้อมกันถึง 2 รุ่นทั้งรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2025 และรุ่นพิเศษ LEXUS IS F SPORT Mode Black IV
เริ่มที่ LEXUS IS F SPORT Mode Black IV ออกมาเป็นครั้งที่ 4 จากพื้นฐานรุ่น IS300h กับ IS300 F SPORT แต่งพิเศษกว่าครั้งไหนๆ
แต่งหล่อด้วยตัวรถสีเทา Titanium Carbide Grey ล้ออัลลอยลายพิเศษ 19 นิ้ว ลายใหม่สีดำ 5 ก้านคู่พร้อมยางหน้า 235/40R19 และยางหลัง 265/35R19 กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำรมควันเงาและขอบหน้าต่างสีดำรมควัน
ภายในเข้มชุดลายไม้แอชแห้งสีเงินดำทั้งแผงประตูกับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังตัดกับลายไม้แอชส่วนบน เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนังกลับ Ultrasuede ลวดลายพิเศษช่วยเสริมให้มีสไตล์โดดเด่นซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะกล้องมองภาพรอบคันเพิ่มฟังก์ชันแสดงผลภาพมุมมองใต้ท้องรถ
ทางด้าน LEXUS IS รุ่นปรับปรุงใหม่หรือ MY2025 เริ่มที่รุ่น IS500 กระจกมองข้างทรงสปูนและขอบหน้าต่างตกตแต่งสีดำควันบุหรี่ทำให้ดูแมนและสปอร์ตมากขึ้นพร้อมภายในใหม่ด้วยเบาะนั่งหนังแท้เลือกได้ถึง 3 สีทั้งสีดำ สีขาวและสีแดงเข้ม
ส่วนรุ่น IS300h เพิ่มอุปกรณ์จ่ายไฟกระแสสลับให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกโดยเสียบปลั๊กได้ 1 จุดในรถ เป็นไฟกระแสสลับ 100 โวลต์ 1,500 วัตต์ แบบปลั๊กเสียบ สามารถจ่ายไฟให้รถยนต์ได้แม้จะเสียบสายไฟไว้
โดยทำงาน 2 แบบทั้งจ่ายไฟจากแบตเตอรี่อย่างเดียวพอไฟหมดก็หยุดหรือจะเลือกให้ติดเครื่องมาชาร์จแบตหากแบตหมดก็ได้ มาพร้อมแผงเสียบกระจกเพื่อให้สายไฟลอดออกมาจากตัวรถได้ ทำหน้าที่กันน้ำฝนและกันแมลงเข้ารถ โดยเป็นออปชันเสริม
ออปชันเดิมทั้งภายนอกและภายในเริ่มที่ภายนอกกับกันชนหน้าดีไซน์ที่สปอร์ตเข้มกว่าบนชุดกระจังหน้า Spindle Grille บังโคลนหน้าซ้าย-ขวา ไฟหน้า LED 3 ดวง ย้ายตำแหน่ง Daytime Running Lights แบบ LED รูปทรงตัว L อยู่ในโคมเดียวกัน กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตเข้ม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูน ที่จับประตูดึงก้าน เสาอากาศครีบฉลาม
ด้านท้ายรถมาด้วยไฟท้ายแนวยาวแบบ LED อันเป็นเอกลักษณ์ กันชนหลังออกแบบลิ้นสปอยเลอร์หลังใหม่ตัดสีดำเข้มขึ้นพร้อมท่อไอเสียคู่ออกสองฝั่ง กับสปอยเลอร์หลังสีดำดีไซน์พิเศษ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/45R17 ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางหน้า 225/40R18 และยางหลัง 255/35R18
ในส่วนของรุ่น IS500 มาพร้อมฝากระโปรงหน้าที่ดีไซน์นูนขึ้นมาอีกสองนิ้ว กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่สปอร์ตเข้มกว่าบนชุดกระจังหน้า Spindle Grille บังโคลนหน้าซ้าย-ขวาที่กางขึ้นกว่าเดิม กันชนหลังออกแบบลิ้นสปอยเลอร์หลังใหม่ตัดสีดำเข้มขึ้นพร้อมท่อไอเสียคู่ออกสองฝั่ง กับสปอยเลอร์หลังสีดำดีไซน์พิเศษ ใส่พื้นหลังตรงโลโก้ Lexus แบบ สีเทาไททาเนียมคาร์ไบด์ และ ตราสัญลักษณ์ F Sport ที่บังโคลนหน้าและล้ออัลลอยลายเจ็บ 19 นิ้ว gray metallic paint พร้อมยางหน้า 235/40R19 และยางหลัง 265/35R19
ภายในเริ่มที่เบาะนั่งคนขับนอกจากมีระบบความจำแล้วยังสามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกแบบไฟฟ้าเพื่อความสะดวกในการเข้าออกเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ตมาพร้อมฟังก์ชันอุ่นเบาะปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมความจำด้านคนขับ เบาะนั่งหลังแผงประตู ฝาครอบมาตรวัด ที่ท้าวแขนบนคอนโซลกลาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านและด้ามจับคันเกียร์หุ้มหนัง
จอสัมผัสออกใหญ่ขึ้น 10.3 นิ้ว รองรับ Apple Carplay และ Android Auto พร้อมลำโพงขั้นเทพจาก Mark Levinson 17 จุด ด้วยกำลังขับ 1,800 วัตต์ มาตรวัดดิจิทัล 8 นิ้ว แบบ TFT พื้นหลังสีเงินเข้ม ไฟส่องสว่างที่วางแก้วน้ำ
ทางด้านรุ่น IS500 มาพร้อมมาตรวัดดิจิทัล 8 นิ้ว แบบ TFT มีโลโก้ F Sport รวมถึง สครัพเพลตตรงประตู ติดโลโก้ F Sport ด้วยเช่นกัน เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต มาพร้อมฟังก์ชันอุ่นเบาะปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมความจำด้านคนขับ เบาะนั่งหลัง แผงประตู ฝาครอบมาตรวัด ที่ท้าวแขนบนคอนโซลกลาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านและด้ามจับคันเกียร์ ทั้งหมดนี้หุ้มหนังกลับแบบ Ultrasuede สีดำ จาก Toray Industries ชุดแป้นคันเร่ง แป้นเบรก และที่พักเท้าดีไซน์พาะรุ่น
ขุมพลังของ Lexus IS F Sport Mode Black IV และรุ่นปกติ เลือกได้ทั้งเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ รหัส 8AR-FTS 245 แรงม้า ที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,650–4,400 รอบต่อนาที เชื่อมต่อทุกความเร็วด้วยระบบเกียร์ Sport Direct Shift แบบ 8 สปีด ในรุ่น IS300, IS300 F Sport Mode Black IV
เบนซิน Hybrid ขนาด 2.5 ลิตร รหัส 2AR-FSE ในรุ่น IS300h, IS300h F Sport Mode Black IV ให้พลังแรง 178 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 4,200-4,800 รอบต่อนาที ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า แรงม้าอยู่ที่ 143 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร และเมื่อทำงานร่วมกันจะได้แรงม้ารวมสูงถึง 220 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ECVT และเลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD
แรงเร้าใจระดับ 8 สูบตัววีกับรหัส 2UR-GSE 5.0 ลิตร V8 ให้กำลังมากถึง 481 แรงม้าที่ 7,100 รอบต่อนาที แรงบิด 535 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหลัง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ SPDS หรือ Sport Direct Shift และ Paddle Shift ที่หลังพวงมาลัย พร้อมเฟืองท้ายหลัง Torsen limited-slip differential จาก JTEKT Corporation
นอกจากนี้ยังเซตช่วงล่าง AVS ใหม่เพื่อรองรับความแรงมหากาฬระดับเกือบ 500 ม้า แถมได้ของดีจาก Yamaha เสริมการทำงานของช่วงล่างหลังให้แรงเร้าใจทุกเส้นทางและนุ่ม ปรับขนาดจานเบรกหน้าหลังใหม่ โดยจานเบรกหน้าขยายใหญ่เป็น 356 มิลลิเมตร จานเบรกหลัง 323 มิลลิเมตร ความปลอดภัย Lexus Safety System+ ทุกรุ่นด้วย
- ระบบป้องกันก่อนการชน (Pre-Collision System)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking (AEB)
- ควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (Dynamic Radar Cruise Control)
- ปรับไฟสูง-ต่ำ อัจฉริยะ (Intelligent High-Beam System)
- ตรวจจับป้ายจราจร Road Sign Assist
- ช่วยเตือนจุดบอดและช่วยเตือนขณะถอยรถ Blind Spot Monitor with Rear Cross Traffic Alert
- ถุงลมนิรภัยรอบคันมีถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารด้านหลังเข้ามาด้วย
Lexus IS MY2025 ทั้งหมด 7 รุ่นย่อย มีราคา 4,810,000-8,500,000 Yen หรือราว 1,045,000-1,845,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมจะอยู่ที่ 1,964,000-6,055,000 บาท
ส่วนรุ่น IS F Sport Mode Black IV ทั้งหมด 2 รุ่นย่อย เริ่มต้น 5,900,000-6,350,000 Yen หรือราว 1,279,000-1,379,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมจะอยู่ที่ 2,399,000-2,625,000 บาท
ที่มา Carwatch