หลังจากที่ LOTUS Cars เปิดตัว 2 ยนตกรรมพรีเมียมทั้ง LOTUS EMEYA และ LOTUS ELETRE จนได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกค่ายดอกบัวชาวไทย
ล่าสุดเสริมรุ่นเริ่มต้น LOTUS EMEYA และ LOTUS ELETRE เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ระยะไกลเปิดโอกาสการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
ภายนอก-ภายใน Exterior x Interior
มาพร้อมกับล้อขนาด 20 นิ้ว (5-SPOKE GREY) พร้อมยางหน้า 255/45ZR20 และยางหลัง 285/40ZR20 จาก Pirelli P Zero เป็น Standard Option เพื่อให้ประสบการณ์ขับขี่ที่นุ่มนวลและสะดวกสบายในรุ่น EMEYA และล้อ 5-Spoke Aero Grey Wheels ขนาด 20 นิ้วพร้อมยางหน้า 255/50ZR20 และยางหลัง 285/45ZR20 ในรุ่น ELETRE
ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ 4-Piston Grey Calipers Front & Rear พร้อมสีภายนอกรถสีเทา KAIMU Grey Paint และหลังคารถสีดำ Gloss Black Aluminum Roof ภายในทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมสี Magnetite (Anthracite, Grey) ลำโพงจาก KEF Premium Surround Sound System 15 จุด 1,380w with DOLBY ATMOS พร้อมระบบฟอกอากาศ Air Quality System (PM 2.5 Filter) พร้อมออปชัน Interior Carbon Pack ได้แก่ Head-up Display Cover, Centre Console, Door Button Panel, และ Overhead Console ในรุ่น EMEYA
ออปชันเสริม
ในส่วนของ Touring Pack ของ EMEYA รุ่นเริ่มต้นไม่ได้มีมาให้เป็น Standard Option ประกอบไปด้วย Soft Door Close, Handsfree Tailgate, Illuminated Side Sills, Configurable Ambient Lighting สามารถ Configuration เพิ่มเติมได้ แต่ไม่สามารถอัพเกรดลำโพง 23 จุด KEF Reference 3D Surround Sound System 2,160w with DOLBY ATMOS ได้ ชุดแต่งภายนอก Exterior Carbon Pack ให้เฉพาะในรุ่น EMEYA R เท่านั้น เพื่อบ่งบอกความแรงของ 905 แรงม้า เพื่อมอบคาแรกเตอร์ความสปอร์ตและให้ความโดดเด่นตั้งแต่ภายนอกมากยิ่งขึ้น โดยมี Carbon 4 จุด คือ Front Lip Spoiler, Lower Rear Diffuser, Side Mirror Covers และ Rear Spoiler Wing Endplate
ทางด้าน LOTUS ELETRE รุ่นเริ่มต้น ในส่วนของ Touring Pack ไม่ได้มีมาให้เป็น Standard Option ประกอบไปด้วย Soft Door Close, Hands-Free Tailgate, Illuminated Side Sills, Configurable Ambient Lighting (Color and Brightness adjustable with individual settings) สามารถ Configuration เพิ่มเติมได้ ส่วน Range Optimisation Pack ประกอบด้วย Active Rear Spoiler และ Digital Side Cameras ซึ่งช่วยในเรื่องของ Aerodynamic ที่สามารถเพิ่มระยะทาง (Range) ในการขับขี่
สมรรถนะ Performance
ทั้งคู่มาพร้อมความแรงกับความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion 102 kWh ในรุ่น EMEYA และ 112 kWh ในรุ่น ELETRE ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet ให้กำลัง 603 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่น EMEYA และ 258 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่น ELETRE อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.2 วินาทีสำหรับรุ่น EMEYA และ 4.5 วินาที
รุ่น ELETRE วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 610 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP ในรุ่น EMEYA และ 600 กิโลเมตร (WLTP) ในรุ่น ELETRE การชาร์จไฟด้วยกำลังไฟแบบกระแสตรง DC สูงสุด 350 KW ชาร์จ 10-80% ในเวลาสั้นๆเพียง 18 นาที สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งไกลสุดได้ 150 กิโลเมตร ภายใน 5 นาที และชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW ภายใน 5.5 ชั่วโมงในรุ่น EMEYA
ส่วนรุ่น ELETRE ชาร์จไฟด้วยกำลังไฟแบบกระแสตรง DC สูงสุด 350 KW ชาร์จ 10-80% ในเวลาสั้นๆเพียง 20 นาที สามารถวิ่งไกลสุดได้ 400 กิโลเมตร และชาร์จแบบกระแสสลับ AC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 22 kW ชาร์จ 0-100% ในเวลา 5.8 ชั่วโมง ทั้งคู่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed ที่ล้อหน้าพร้อมช่วงล่างถุงลมและเทคโนโลยีไฟฟ้าแรงดันสูง 800V
รุ่นเริ่มต้นทั้ง LOTUS EMEYA และ LOTUS ELETRE ยังโดดเด่นด้วยคาแรกเตอร์ความเท่ โฉบเฉี่ยว และยังคงอรรถรสการขับขี่แบบสปอร์ต สะท้อน DNA ของ LOTUS โดยเตรียมส่งมอบตั้งแต่ สิงหาคมเป็นต้นไปมาในราคาเท่ากันเริ่ม 5,690,000 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพดังนี้
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร
- รับประกันแบตเตอรี่ นาน 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
- บริการช่วยเหลือช่วยฉุกเฉินนาน 5 ปี
