LOTUS เปิดตัวรุ่นปี 2026 ทั้ง LOTUS EMEYA และ LOTUS ELETRE ปรับรุ่นย่อย ปรับออปชัน ขายไทยทั้งหมด 10 รุ่นย่อย เริ่มที่รุ่น EMEYA
LOTUS EMEYA MY2026 ขายทั้งหมด 5 ทั้งรุ่นย่อยทั้งรุ่น 600, 600 GT SE, 600 Sport SE, 900 Sport และ 900 Sport Carbon เน้นคอนเซปต์การตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ภายนอกมาพร้อมปรัชญาการออกแบบ “Carved by Air”
เริ่มที่รุ่นเริ่มต้น 600 จุดเด่นคือ Aerodynamic รอบคัน ช่วยลดแรงต้านอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่อย่างสูงสุด ด้วยล้อแม็กขนาด 20” 5-Spoke Aero Grey ดีไซน์ล้อแบบ 5 ก้าน ทรงแอโรไดนามิกและยางสมรรถนะสูง Pirelli P ZERO ให้การยึดเกาะถนนที่มั่นใจทั้งทางตรงและทางโค้งด้วยยางด้านหน้าขนาด 255/45 R20 และด้านหลังขนาด 285/40 R20
ส่วนรุ่น 600 GT SE, 600 Sport SE, 900 Sport และ 900 Sport Carbon ได้ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วพร้อมยางสปอร์ตหน้า 265/40 R21 และยางหลังขนาด 305/35 R21
พร้อมไฟหน้าแบบ Matrix LED ทรงบูมเมอแรง กระจังหน้าแบบแอ็คทีฟทำงานสัมพันธ์ตามความเร็วของรถเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศในส่วนแบตเตอรี่และเบรกให้เย็นลงขึ้น ชุดกันขนหน้าและหลังออกแบบมีลิ้นสปอยเลอร์หรือดิฟฟิวเซอร์ติดตั้งต่ำกว่ากันชนหน้าเพิ่มความลู่ลมเสริมความสวยให้กับตัวรถ
กระจกมองข้างขนาดเล็กสามารถดูได้จากกล้องมองภาพในรถ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟบานใหญ่ และที่สำคัญรถคันนี้เป็นแบบกระจก Hardtop ไร้กรอบ พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์โค้งมนแนวยาว
สปอยเลอร์หลังแบบแอคทีฟเปิดปิดสัมพันธ์ตามความเร็วของรถเช่นเดียวกับกระจังหน้าด้วยขนาดใหญ่ถึง 296 มิลลิเมตร มาในรูปแบบ Dual Layer หรือเรียกว่า Double Wing ช่วยเพิ่มแรงกดถนน (Downforce) ได้มากถึง 215 กิโลกรัม อีกทั้งยังมี Active Rear Diffuser ช่วยลดแรงหมุนของอากาศด้านท้ายรถ และช่วยระบายอากาศใต้ท้องรถให้เร็วขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพในช่วงความเร็วสูง เพิ่มความคล่องตัวได้ทุกรูปแบบในทุกย่านความเร็ว
ภายในโดดเด่น
ด้วยระบบเครื่องเสียงพรีเมียมจาก KEF ที่มาพร้อมลำโพง 15 ตัว 1,380W ด้วยเทคโนโลยี Dolby Atmos ทั้งนี้เพิ่มเสน่ห์ภายในด้วยแสง Ambient Light สีขาว และวัสดุใหม่ Jasper with LOTUSWEAR ™ Performance fabric in black ในรุ่น 600 ทุกรุ่นและ Quartz with LOTUSWEAR™ Performance Fabric in Light Grey ในรุ่น 900 ที่มีคุณสมบัติพิเศษรองรับการใช้งานอย่างทนทาน
จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.1 นิ้ว OLED Central Display Infotainment Hyper-OS แสดงผลผ่าน Head up Display แบบ Augmented Reality ขนาด 51 นิ้ว พร้อมลำโพงคุณภาพจาก KEF มากสุด 23 จุด ให้ระบบเสียง 3 มิติ ที่ละเอียดมากด้วยระบบ Dolby Atmos เป็นออปชันเสริม มาตรวัดดิจิทัลที่มีขนาดเล็ก 12.6 นิ้วทั้งสองฝั่งคนขับและคนนั่งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านทรงล้ำอนาคต
ช่องเก็บของหลากจุดที่หยิบวางง่ายดาย การตกแต่งภายในที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนกับการใช้เส้นด้ายที่มาจากเศษผ้าฝ้ายที่ใช้ในอุตสาหกรรมแฟชั่นและเสื้อผ้าร้อยลงในเบาะนั่งทรงสปอร์ตจากวัสดุหนังคุณภาพอย่างหนัง Alcantara, ผ้าจากวัสดุโพลียูรีเทน และหนัง NAPPA และการเคลือบด้วยไอทางกายภาพ Physical Vapor Deposition (PVD) ในการเคลือบสีเมทาลิกบนพื้นผิวห้องโดยสารพร้อมระบบ LiDAR และความจุสัมภาระท้าย 509 ลิตร และใหม่!! สีเบาะนั่งภายในใหม่สี “Kyanite” สีโทนฟ้าที่ให้ลุคความสุขุม สปอร์ต หรู ในรุ่น 600 GT SE, 600 Sport SE, 900 Sport และ 900 Sport Carbon
พร้อมเทคโนโลยีจาก NVIDIA ขุมพลังการประมวลผลอัจฉริยะด้วยชิป Dual NVIDIA DRIVE Orin systems-on-a-chip (SoCs) ในการประมวลผลข้อมูลระบบ พร้อมรองรับ Autonomous Driving สูงสุดถึง Level 4 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยโปรเซสเซอร์ Snapdragon 8155 ล่าสุดของ Qualcomm และซอฟต์แวร์ Unreal Engine 6
ว่องไวเร้าใจในการขับขี่
ด้วยขุมพลังไฟฟ้ากับความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion 102 kWh ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent magnet มีให้เลือกถึงสองความแรงเริ่มที่รุ่น 600, 600 GT SE, 600 Sport SE ให้กำลัง 603 แรงม้า HP (611 แรงม้า PS) แรงบิด 710 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.15 วินาที วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 610 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ หรือ 718 กิโลเมตร (NEDC) ในรุ่น 600
วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 580 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ หรือ 682 กิโลเมตร (NEDC) ในรุ่น 600 ในรุ่น 600 GT SE และ 600 Sport SE ทุกรุ่นทำความเร็วได้สูงสุดถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
รุ่นท็อป 900 ให้ความแรง 905 แรงม้า HP (918 แรงม้า PS) แรงบิด 985 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 256 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 2.78 วินาที ส่วนอัตราเร่งแซง 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ต่ำกว่า 2 วินาที วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 485 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP หรือ 571 กิโลเมตร (NEDC) ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 256 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed ที่ล้อหน้าและ Two Speed ที่ล้อหลัง การชาร์จไฟด้วยกำลังไฟแบบกระแสตรง DC สูงสุด 350 KW ชาร์จ 10-80% ในเวลาสั้นๆเพียง 18 นาที สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งไกลสุดได้ 150 กิโลเมตร ภายใน 5 นาที และชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW พร้อมช่วงล่างถุงลม ใหม่!! Lotus Handing Pack (Anti roll control, rear wheel steering) ระบบเลี้ยว 4 ล้อ พร้อมบาร์กันโคลงและใหม่!! Lotus Handing Pack (Anti roll control, rear wheel steering) ระบบเลี้ยว 4 ล้อ พร้อมบาร์กันโคลง เพื่อเสริมสมรรถนะการขับขี่ได้ดีขึ้นให้ในรุ่น 600 Sport SE, 900 Sport และ 900 Sport Carbon
ความปลอดภัย ADAS ไม่ว่าจะเป็น
- ควบคุมความเร็วและระยะห่างแบบแปรผัน Intelligent Adaptive Cruise Control (ACC)
- เตือนการชนด้านหน้า Collision Mitigation Support Front (CMSF)
- อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Information (TSI)
- เตือนมุมอับขณะเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
- เตือนมุมอับขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- เตือนมุมอับด้านหน้ารถ Front Cross Traffic Alert (FCTA)
- ช่วยเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA)
- ตรวจจับเด็กบริเวณเบาะนั่ง Children Presence Detection (CPD)
- เตือนและช่วยให้รถเข้าไปในเลน Lane Keep Aid with Lane Departure Warning / Prevention (LKA+)
- เบรกฉุกเฉิน Parking Emergency Brake (PEB)
- เตือนการชนด้านหลัง Collision Mitigation Support Rear (CMSR)
- ปุ่มโทรเรียกรถฉุกเฉิน Emergency Rescue Call (E-Call)
ยกระดับความปลอดภัยด้วยเซ็นเซอร์รอบคันที่ล้ำสมัย 34 ตัว สูงสุด 30 ครั้งต่อวินาที เพื่อให้การรับรู้แบบ 360 องศาได้อย่างครอบคลุม โดยการสแกนหาสิ่งกีดขวางในรัศมีสูงสุด 200 เมตร รอบรถ เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ โดยมีสีภายนอก 7 สี
- สีใหม่ Zenith White (สีเงิน)
- สีดำ Stellar Black
- สีขาว Akoya White
- สีเทา Kaimu Grey
- สีเหลือง Solar Yellow
- สีเทา Boreal Grey
- สีส้ม Fireglow Orange
LOTUS EMEYA MY2026 ยนตกรรมไฟฟ้ารุ่นล่าจาก LOTUS Technology ผลิตที่โรงงาน GEELY ในเมืองหวู่ฮั่น ประเทศจีน โรงเดียวกับรุ่น ELETRE ในราคาดังนี้
- รุ่น 600 ราคา 4,890,000 บาท
- รุ่น 600 GT SE ราคา 5,690,000 บาท
- รุ่น 600 Sport SE ราคา 6,690,000 บาท
- รุ่น 900 Sport ราคา 7,290,000 บาท
- รุ่น 900 Sport Carbon ราคา 7,990,000 บาท
ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “Lotus for Everyone – ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของโลตัสได้แล้ววันนี้” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในตลาดปัจจุบันมากยิ่งขึ้น พร้อมรับประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 2 ปี และ Lotus Wall Box เลือกรับ ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี หรือ Lotus Wall Box แคมเปญ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ส.ค.