More

    Mazda BT-50 หน้าใหม่ปิกอัพหล่อ 2.2 และ 3.0 ประหยัด 16.2 กม./ลิตร

    เมืองไทยคือที่แรกของโลกเปิดตัวและจำหน่ายพร้อมกันก่อนใครในโลกสำหรับสำหรับปิกอัพ Mazda BT-50 ไมเนอร์เชนจ์ปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปี 

    Mazdaและยังเป็นที่แรกของโลกที่เปิดตัวขุมพลังใหม่ 2.2 ลิตร 163 แรงม้า ตามแฝดผู้พี่ ISUZU D-MAX กับแฝดผู้น้อง Mazda BT-50 ไมเนอร์เชนจ์

    ครั้งนี้ทาง Car2Day ได้สัมผัสปิกอัพแฝดผู้น้อง D-MAX กันถึง 2 รุ่นเลยทีเดียวในบอดี้ดับเบิลแค็บ 4 ประตูทั้ง 2.2 XT HI-RACER 8AT และ 3.0 XTR HI-RACER 6AT สำหรับภายนอกเหมือนกันแต่ต่างที่หล่อใครหล่อมัน

    Mazda

    ภายนอกมาพร้อมแนวคิด “Dignity into Power พลังแกร่ง สะท้อนตัวตน” ภาพลักษณ์แกร่ง เข้มดุดันเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มองหาปิกอัพมาพร้อมอรรถประโยชน์การใช้งานแต่ก็ยังต้องการปิกอัพที่มีดีไซน์สง่างามสไตล์ญี่ปุ่น

    หล่อสง่างามตามแนวทาง Kodo design – Soul of Motion ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าออกแบบใหม่ ไฟหน้า LED คู่ dual-beam LED พร้อมไฟ DRL LED รูปตัวแอลแนวนอนกระจังหน้าซิกเนเจอร์วิงออกแบบใหม่พร้อมตราโลโก้ที่ใหญ่ขึ้นขอบกระจังหน้าใหญ่

    กันชนหน้าออกแบบใหม่พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ด้านข้างคงเดิมทั้งที่เปิดประตูดึงก้านแบบโครเมียมกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีเดียวกับตัวรถ บันไดข้างสีเงิน ด้านท้ายออกแบบใหม่ด้วยไฟท้าย LED พร้อมฝากระบะท้ายดีไซน์ใหม่เล่นดีไซน์ร่องแนวนอน 3 ช่องแบบแยกกับตราขนาดใหญ่กันชนหลังดีไซน์ดูเรียวขึ้นอย่างชัดเจนมีที่เปิดฝากระบะท้ายแบบโครเมียมและกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถและล้ออัลลอยสีทูโทนปัดเงาขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18

    Mazdaทางด้านรุ่นย่อยใหม่ XTR ทุกอย่างเหมือนรุ่น XT แต่มาพร้อมชุดแต่งสีดำรอบคันไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งกันชนหน้า ราวหลังคาดีไซน์บิ๊วอินน์สปอร์ตบาร์ กระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งซุ้มล้อ มือจับเปิดประตูและฝาท้าย ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ขลิบสีแดงติดตรา BT-50 ติดตรงกระจังหน้า ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าหลักของรถปิกอัพในปัจจุบันที่ต้องการรถปิกอัพสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย และยังสะท้อนบุคคลิกอันโดดเด่นได้อย่างลงตัว มิติตัวรถปรับเล็กน้อยตั้งแต่

    • ความยาว 5,280 มิลลิเมตร
    • ความกว้างลดลงเหลือ 1,870 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,790 มิลลิเมตรในรุ่น XT HI-RACER และ 1,810 มิลลิเมตร ในรุ่น XTR HI-RACER
    • ฐานล้อ 3,125 มิลลิเมตร
    • ความกว้างฐานล้อหน้าและล้อหลังเท่ากัน 1,570 มิลลิเมตร
    • ความสูงใต้ท้องรถ  240 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,661 กิโลกรัม ในรุ่น XT HI-RACER และ 2,110 กิโลรัม ในรุ่น XTR HI-RACER
    • ความจุถังน้ำมัน 76 ลิตร

    Mazda

    ภายในใหม่โทนสีเข้มพร้อมออปชันใหม่ทั้งชุดมาตรวัดเรืองแสงใหม่พร้อมจอ​ขนาดใหญ่​ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชัน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทางปรับระดับได้ 4 ทิศทางแบบ Tilt & Telescopic หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว มีระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display

    Mazda

    รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง ระบบเสียงรอบทิศทาง 6 ลำโพง  เครื่องปรับอากาศแบบ Semi Mode Control ปรับทิศทางลมได้ 3 ตำแหน่ง พร้อมเบาะนั่งผ้ากำมะหยี่สีดำปรับสูงต่ำ 8 ทิศทาง และกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมปุ่ม Push Start

    Mazdaทางด้านรุ่น XTR อัพเกรดความเท่ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าลดความเมื่อยล้าพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคนขับมีปุ่มดันหลัง ตกแต่งภด้วยสีเบาะหนังจากสีกากีเป็นสีดำ-ส้ม Terracotta วัสดุตัดขอบเปลี่ยนจากสีกากีเป็นสีส้ม Terracotta

    พร้อมออปชันที่มากกว่าทั้ง กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ แผงควบคุมเครื่องปรับอากาศมาทั้งแบบหมุนและอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาแบบ Full Mode Control 5 ทิศทาง พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร และลำโพง 8 จุดแบบ Dynamic Surround Sound

    Mazda

    แรงเร้าใจด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo มีกันถึงสองทางเลือกเริ่มที่ขนาด 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX E5 แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาทีจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด รหัส AWR6B45 จาก AISIN  REVTRONIC พร้อม Paddle Shift

    มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง (คันที่รวิว) และขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time Terrain Command พร้อม Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าติดตั้ง Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ทำงานได้ทั้ง 2H 4H และ 4L ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร

    Mazda

    และขุมพลังใหม่ตามแฝดผู้พี่ด้วยดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS ขนาด 2.2 ลิตร รุ่น RZ4F-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้พลังแรงเพิ่มขึ้นสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600–2,400 รอบต่อนาที

    เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดใหม่พร้อม REVTRONIC และ Paddle Shift รหัส L-B500 จาก AISIN ให้อัตราทดต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว ตอบสนองฉับไว แม่นยำ ราบเรียบ นุ่มนวล ทำให้การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้นเลือกได้เฉพาะขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง

    ทั้ง 2 ขุมลังพัฒนาใหม่ผ่านมาตรฐาน EURO 5 ที่มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้เทคโนโลยีตัวกรองเขม่าไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซล DPD (Diesel Particulate Diffuser) ลดเขม่าและฝุ่นขนาดเล็กจากการเผาไหม้จากเดิมจะมี แคทาลิติก คอนเวอเตอร์ สามารถรักษาสมรรถนะรถ ประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยม และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นโดยไม่เติมน้ำยาบำบัดไอเสียในเครื่องยนต์ดีเซลเช่น AdBlue

    Mazdaทาง Mazda เปิดโอกาสให้พิสูจน์สมรรถนะความแรงด้วยการเนรมิตรูปแบบการทดสอบแบบใช้งานจริงในชีวิตประจำวันจัดเส้นทาง กรุงเเทพฯ-แก่งกระจาน เพชรบุรี ด้วยระยะทางไป-กลับรวม 487 กิโลเมตร (ขาไป 294 กิโลเมตร) วันแรกทีมงาน Car2Day ขับรุ่น 3.0 XTR HI-RACER ขับเป็นไม้แรกจากกรุงเทพฯถึงราชบุรีระยะทาง 66.5 กิโลเมตร

    ฟิลลิ่งการขับขี่ไม่ต่างจากแฝดผู้พี่ ISUZU D-MAX หรือ ISUZU V-Cross 4×4 ให้ทั้งความสนุกตอบสนองดีในขณะออกตัว ขับความเร็วกลางๆและสูงๆ เรียกกำลังไม่มีอาการหน่วงในทางเรียบแม้กระทั่งเส้นทางขึ้นลงทางชันโหดเอาการ อาการ Engine Brake จะคอยดึงกำลังของเครื่องยนต์ช่วงความเร็วลดลงมาถึง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมีดึงบ้าง

    รอบการทำงานของเครื่องในช่วงความเร็ว 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนเดิมทำงานไม่ถึง 2,000 รอบต่อนาทีแต่ละช่วงความเร็วมาแบบเร็วติดปีกตั้งแต่ 1,300, 1,450, 1,500 และ 1,750 รอบต่อนาที

    Mazdaจุดน่าสังเกตคือครั้งนี้เสียงเครื่องยนต์เงียบลงกว่าตอนขับ V-Cross 4×4 EURO 4 แม้ช่วงรอบเดินเบาคงเดิมคือ 675-725 รอบต่อนาที ความเร็วต่ำจนถึงความเร็วสูง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ช่วงรอบกลางถึงรอบสูงยังให้ความเงียบสงบพูดคุยฟังเพลงสบายๆติดตั้งฉนวนกันเสียงรบกวนที่หนาทั่วทั้งคันคาดว่าทำมาใหม่เพื่อรองรับ EURO5

    เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดจาก AISIN ปรับนิสัยปรับตัวตนใหม่ด้วยการเซตซอฟท์แวร์ใหม่ให้เปลี่ยนเกียร์สัมพันธ์ความเร็ว เปลี่ยนรวดเร็วรวบรัดนุ่มนวลสมูทขึ้นแถมมี Rev-Tronic บวกและลบในชุดเกียร์และก้านเหนี่ยวเกียร์ที่หลังพวงมาลัยหรือ Paddle Shift สนุกสนานในการขับขี่เพิ่มคูณสองด้วยพร้อมโอเวอร์ไดร์ฟ 2 ตำแหน่ง ที่เกียร์ 5 และ 6 ด้านอัตราสิ้นเปลืองทำได้ 16.2 กิโลเมตรต่อลิตรเป็นตัวเลขจากมาตรวัดความเร็วเรียกว่าไม่ว่าจะแฝดพี่หรือแฝดน้องหัวใจเดียวกันหัวใจประหยัดนั่นเอง

    Mazda

    วันรุ่งขึ้นกลับเข้ากรุงเทพฯด้วยระยะทาง 193 กิโลเมตรเป็นไม้แรกเช่นเดิมคราวนี้มาขับรุ่น 2.2 XT HI-RACER เรียกว่าขับสนุกขับมันส์ตั้งแต่ออกตัวไปจนถึงความเร็วปลายรอบการทำงานของเครื่องในช่วงความเร็ว 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำงานไม่ถึง 2,000 รอบต่อนาทีแต่ละช่วงความเร็วมาแบบเร็วติดปีกตั้งแต่ 1,450, 1,550, 1,750 และ 1,950 รอบต่อนาที

    ตอบสนองว่องไวกำลังมาต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเส้นตรงๆทางสองเลนสวนทำความเร็วได้ดีกว่า 1.9 เรียกว่าให้ความมั่นใจในทุกการขับขี่แม้โทนเสียงเครื่องคล้ายกับ 1.9 เก็บเสียงดีเพราะออกแบบฉนวนกันเสียงรบกวนที่หนาขึ้น

    เกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ 8 สปีด พร้อม Paddle Shift เกียร์ลูกนี้ให้โอเวอร์ไดรฟ์ถึง 2 เกียร์นั่นคือ เกียร์ 7 กับ 8 ให้ความสมูทลื่นไหลการเปลี่ยนเกียร์ไม่กระตุกตอบสนองดีรักษารอบกำลังไม่ให้ลากมากเกินไปเพราะอัตราทดที่เยอะนั่นเองโดยอัตราสิ้นเปลืองจากมาตรวัดของรุ่นนี้ทำได้ 13.6 กิโลเมตรต่อลิตร จากระยะทาง 81.3 กิโลเมตร จนถึงไม้สุดท้ายขับโดยอีกท่านทำได้ 14.2 กิโลเมตรต่อลิตร ระยะทาง 193 กิโลเมตร

    ช่วงล่างหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงและแหนบแผ่นรูปครึ่งวงรี 3 แผ่น สำหรับด้านหลังใช้โช้คอัพแก็สทั้งหน้าและหลังเข้าโคงออกไปทางนุ่มนวลหนึบนิดเด้งหน่อย

    Mazdaพวงมาลัยพาวเวอร์ก็เป็นแบบน้ำมันรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.1 เมตร ยังให้น้ำหนักกลางๆเหมาะมือสำหรับเดินทางไกลๆ แป้นเบรกเหยียบ 20% รถเริ่มหยุดจนไม่เหยียบเพิ่มอีกด้วยการทำงานของหม้อลมเบรกขนาดใหญ่รวมถึงดิสก์เบรกขนาดใหญ่ 320 มิลลิเมตร และด้านหลังดรัมเบรกส่งผลให้เบรกมั่นใจฉับไวไม่ไถลไปชนท้ายรถคันหน้า

    ทัศนวิสัยการมองในตำแหน่งคนขับกลางๆตำแหน่งเบาะปรับสูงต่ำได้ได้ตามใจชอบด้วยไฟฟ้า แต่ไม่เหมือนแฝดพี่ D-MAX ตรงที่ฝากระโปรงหน้าของ BT-50 ออกแบบให้ข้างๆ 2 ฝั่ง มีโหนกนูนตรงกลางแบนๆ อาจทำให้รกสายตาไปบ้าง ส่วนแฝดพี่ออกแบบฝากระโปรงหน้ามีเล่นระดับเล็กน้อยจนมาถึงขอบและฐานกลางของฝากระโปรงดีไซน์โหนกนูนเรียบเนียนไม่เกะกะสายตาในการมอง

    Mazda

    ความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS เวอร์ชันใหม่สงวนเฉพาะรุ่น XTR ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่า ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิม พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคันครบครัน 11 ระบบ

    • ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติจนถึงจุดหยุดนิ่ง ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop & Go
    • เตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW Front Forward Collision Warning
    • หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake)
    • เตือนเมื่อออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
    • ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
    • ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
    • ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
    • ช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
    • เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advance Blind Spot Monitoring)
    • ช่วยเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driving Attention Assist)
    • ใหม่!! ช่วยเบรกขณะถอยหลัง RCTB (Rear Cross Traffic Braking)

    (ไม่มี ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA (Turn Assist) และเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake))

    Mazdaพร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Blind spot monitoring ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ช่วยเพิ่มแรงเบรกอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน BA ควบคุมการทรงตัว ESC ป้องกันการลื่นไหล TCS ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)

    ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide จุดยึดที่นั่งสำหรับเด็ก ISOFIX สำหรับเบาะหลังในรุ่น 4 ประตู ระบบ BOS (Brake Override System) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด ในรุ่น XTR และคู่หน้า ในรุ่น XT

    ESS (Emergency Stop Signal) เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ปลอดภัยยิ่งขึ้นกับระบบ Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด ในรุ่น XT และ 8 จุดรวมหน้า-หลังในรุ่น XTR ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ Rain Sensing Wiper พร้อม Integrated Wiper Blade ระบบฉีดน้ำบนก้านปัดแบบ Blade Type สะอาดหมดจด Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน

    Mazda

    ขับมาทั้ง 2 รุ่นดีกันคนละแบบเริ่มที่ 3.0 แม้เครื่องเดิมแรงม้าเดิมครั้งนี้มีการปรับกล่อง ECM แบบ MULTI-CORE ประสิทธิภาพสูงเหมือนแฝดพี่ทำให้เสียงเครื่องยนต์เงียบขึ้นในช่วงรอบเดินเบา เกียร์เซตมาสมูทขึ้นกว่าเก่าแม้จะ 6 สปีดโดยลุ้นว่าเกียร์ใหม่ 8 สปีดจะใส่มาด้วยหรือไม่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับแฝดพี่เขาจะมาหรือไม่

    ส่วน 2.2 ดีแบบเสมอต้นเสมอปลายแรงทุกช่วงความเร็วกำลังเครื่องไม่มีตกบาลานซ์เครื่องและตัวรถสมดุลให้เป็นหนึ่งเดียวมาอย่างไวเข้าโค้งสนุกมันส์ทั้งในช่วงต้นกลางและปลาย เกียร์ 8 สปีดหายห่วงเรื่องการตัดต่อกำลังตัดต่อนิ่งเรียบไม่มีกระตุก พวงมาลัยน้ำหนักดี

    MazdaMazda BT-50 หน้าตาใหม่นี้ดูดีขึ้นสปอร์ตถอดแบบมาจากรุ่น CX-5 เกือบทั้งหมด รวมถึงชุดแต่งของดำในรุ่น XTR เน้นเข้มสปอร์ตสไตล์ลุยแต่ส่งที่อยากได้นั้นอยากให้มีกล้องมองภาพรอบคัน

    ด้วยราคาปรับจากเดิม 10,000-80,000 บาทตามแต่ละรุ่นและอาจแพงกว่าแฝดพี่และต้องเข้าศูนย์ Mazda เท่านั้นห้ามเข้าของแฝดพี่เพราะจะทำให้ประกันคุณภาพขาดทันทีแม้พื้นฐานเหมือนกันต่างที่ดีไซน์

    รุ่นนี้ประกอบที่โรงงาน ISUZU Motors ประเทศไทย สำโรง พร้อมค่าตัวเพิ่มจากเดิม 10,000-80,000 บาทตามแต่ละรุ่นและอาจแพงกว่าแฝดพี่ด้วยซ้ำโดย 2 รุ่นที่รีวิวมีราคาดังนี้

    • รุ่น Double Cab 2.2 XT HI-RACER 8AT ราคา 992,000 บาท (ราคาเดิม)
    • รุ่น Double Cab 3.0 XTR HI-RACER 6AT ราคา 1,242,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 70,000 บาท)

    และยังมีอีก 2 รุ่นจำหน่ายด้วยทั้งรุ่น Freestyle Cab 2.2 XS HI-RACER 6MT ราคา 762,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 10,000 บาท) และ รุ่น Double Cab 3.0 XTR 4WD 6AT ราคา 1,352,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 80,000 บาท)

    Mazda

    พร้อม 3 สีใหม่ได้แก่สีแดงเวอร์มิลเลี่ยน ลาโตซอล เรด (Vermilion Latosol Red) สีขาวมุกจีโอด ไวท์ เพิร์ล (Geode White Pearl) และ สีน้ำเงินเซลลิ่ง บลู (Sailing Blue) ยังมี 2 สีเดิมทั้ง สีขาว ไอซ์ ไวท์ (Ice White) และสีเทา คอนกรีต เกรย์ (Concrete Gray)

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts