More

    หล่อแบบนี้รับได้ไหมว่าที่ Mazda CX-5 เจนใหม่ก่อนเผยปีนี้

    นับตั้งแต่ Mazda ตัดสินใจพัฒนา Mazda CX-5 เจนที่ 3 ทำให้สาวกเตรียมกำเงินจะเป็นเจ้าของเอสยูวีที่ขายดีสุดของค่ายมานานกว่า 10 ปี ไว้สักคัน 

    Mazda

    ล่าสุดสื่อรถยนต์จากแดนหมีขาวรัสเซียและออสเตรเลียเผยภาพเรนเดอร์ว่าที่ Mazda CX-5 เจเนอเรชันที่ 3 ออกมาโดยภาพรวมนั้นยังคงมีความคล้ายกับ CX-5 เจนปัจจุบันอยู่พอสมควร

    ออกแบบตามสไตล์ Kodo Design ตั้งแต่กระจังหน้าทรง Signature Wing ไส้ในแบบตาข่ายแนวนอนพร้อมตราโลโก้ Mazda ติดกรอบสีเข้ม ปีกซ้าย-ขวาของกรอบขนาดใหญ่สีดำรับกับไฟหน้า LED คู่ dual-beam LED พร้อมไฟ DRL LED รูปตัวแอลแนวนอนรับกับกันชนหน้ารูปตัววีแนวยาว พร้อมการ์ดเสริมสีเงินใต้กันชนหน้า คิ้วขอบล้อสีดำพร้อมล้ออัลลอยสีเงินลายเท่ กระจกมองข้างทรงสปูน

    ดีไซน์ไฟท้ายใหม่ LED Signature รูปตัวแอลแนวนอน กันชนหลังออกแบบแผงทับทิมให้อยู่ในตำแหน่งสูงขึ้นท่อไอเสียคู่ กันชนหลังใหม่ออกแบบภูมิฐานด้วยส่วนล่างสีเดียวกับตัวรถเพิ่มฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรีและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65R17 และขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19

    ตัวรถอาจใหญ่กว่า CX-5 เจนปัจจุบันเริ่มที่ความยาว 4,600 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,850 มิลลิเมตร ความสูง 1,690 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร และรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.5 เมตร

    Mazdaภายในทันสมัยด้วยการยกออปชันจากรุ่นพี่ทั้งมาตรวัดดิจิทัล TFT-LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Mazda Connect infotainment รองรับ Apple Car Play ไร้สาย และ Android Auto ผ่านปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander พร้อมลำโพงคุณภาพ BOSE  จอแสดงการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า Windshield Active Driving Display ขนาดใหญ่กว่าถึง 3 เท่า

    แน่นอนว่าขุมพลังใหม่ที่จะมาประจำการเป็นแบบ Full Hybrid โดยใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร รหัส PY-RPS 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 252 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ด้านระบบส่งกำลังยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ E-CVT หรือ เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด โดยจะมาในช่วงปี 2026

    ทางด้าน Mild Hybrid อาจได้ขุมพลัง SKYACTIV-X ขนาด 2.0 ลิตร 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 224 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบต่อนาที พร้อม Mild Hybrid 48 V มีมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 6.5 แรงม้าที่ 1,000 รอบต่อนาทีแรงบิด 61 นิวตันเมตรที่ 100 รอบต่อนาที พร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็กสุด จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด

    Mazdaนอกจากนี้ยังมีขุมพลังดั้งเดิม SKYACTIV-G Turbo 2.5 ลิตร รหัส PY-VPTS โดยให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร รหัส PE-VPS 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาทีและเบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร รหัส PY-RPS 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 252 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที

    และดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D มีระบบเทอร์โบแปรผันแบบ 2 ชั้นในรหัส SH-VPTS ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาทีซึ่งต้องจับตาแล้วว่าจะอยู่ต่อหรือพอแค่นี้สำหรับขุมพลังดั้งเดิมโดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 แม้ยกเลิกจำหน่ายในออสเตรเลียเมื่อปี 2023 แต่บางประเทศยังขายต่อไปจนหมดโมเดลและอาจไม่เอามาในเจนใหม่

    Mazdaทั้งสี่ขุมพลังพัฒนาให้การตอบสนองที่รวดเร็วกว่าทุกรอบความเร็ว ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นโดยทุกขนาดความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด พร้อมระบบโหมดการขับขี่ Mazda Intelligent Drive Select (Mi-Drive) เพิ่มโหมด OFFROAD ยังคงเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือก

    อีกด้านหนึ่งทางสื่อออสเตรเลียให้ข้อมูลว่าจะเหลือเพียงดีเซลของ Mazda เองด้วยดีเซลเทอร์โบ 6 สูบแถวเรียง SKYACTIV-D 3.3 ลิตร 6 สูบแถวเรียง รหัส V3-VPT ให้กำลัง 231 แรงม้าที่ 4,000-4,200 รอบต่อนาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,500-3,000 รอบต่อนาที

    หรืออาจหยิบยืมเครื่องยนต์ดีเซลจาก ISUZU ที่ใส่ในกระบะ Mazda BT-50 ขนาด เป็นดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS ขนาด 2.2 ลิตร รุ่น RZ4F-TC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ให้พลังแรงเพิ่มขึ้นสุดถึง 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600 – 2,400 รอบต่อนาที ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ Mazda

    Mazda

    สำหรับการเปิดตัว Mazda CX-5 เจนใหม่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้คาดเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม หรือ กันยายน ทางด้านเมืองไทยอาจพบกันในปี 2026 ไล่เลี่ยกับตลาดแอฟริกาใต้ที่รายงานว่าจะเผยช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมปีหน้า

    ที่มา Drive

    ที่มาภาพเรนเดอร์ Drive และ Kolesa

     

     

    ที่มา Car Repo

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts