Mercedes-AMG GT 63 S E Performance เข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา หลังจาก 18 เดือนหลังจากการปรับโฉมในยุโรป ด้วยพละกำลัง 831 แรงม้าและเครื่องยนต์ PHEV ทวินเทอร์โบ V8 คาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับ GT 43 4-Door Coupe และ GT 53 4-Door Coupe ซึ่งมีราคาเริ่มต้นมากกว่า 100,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.365 ล้านบาท
การเปลี่ยนแปลงต่างถ้ามองแค่ภาพค่อนข้างน้อยและหลายคนอาจไม่ทันสังเกต แต่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งคือกระจังหน้าที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ ลิ้นด้านล่างทาสีดำเงา ราวกับว่ารถกำลังทาลิปสติก ช่องรับอากาศที่กว้างของรุ่นก่อน ถูกปรับให้เล็กลง ซึ่งไม่ต่างจากช่องรับอากาศของ AMG GT Coupe เจนฯ 2
จุดเด่นส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม เช่นเดียวกับรุ่นเก่า ยังคงใช้เครื่องยนต์รุ่นเรือธงของ AMG คือ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลังซึ่งที่กำลังได้อีก 201 แรงม้าและแรงบิด 320 นิวตันเมตร กำลังรวมอยู่ที่ 831 แรงม้าและแรงบิด 1,399 นิวตันเมตร
เครื่องยนต์ไฮบริด V8 ที่ทรงพลังนี้ ทำงานควบคู่กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบแปรผันเต็มรูปแบบและระบบเกียร์อัตโนมัติเก้าสปีด อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที และความเร็วสูงสุดที่จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 317 กม./ชม. เช่นเดียวกับรถรุ่นเก่า รวมถึงยังคงเป็นปลั๊กอินไฮบริด และชุดแบตเตอรี่ขนาด 4.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง สำหรับระยะทางการวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนยังไม่มีรายละเอียดออกมา
Mercedes-AMG GT 63 S E Performance แม้ว่ารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจะมียอดขายที่ชะลอตัวลงในตลาดส่วนใหญ่ แต่คุณสมบัติที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของ GT 63 S E Performance ก็คือระบบสร้างพลังงานเบรกแบบสี่ขั้นตอน ซึ่งเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า ระบบนี้รวมถึงโหมดการขับขี่ด้วยแป้นเหยียบเดียวที่สามารถจ่ายพลังงานกลับคืนสู่ชุดแบตเตอรี่ได้มากถึง 100 กิโลวัตต์
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลายอย่างในห้องโดยสาร ซึ่งรวมถึงจอแสดงผลเฉพาะ AMG ที่อัปเดตบนระบบข้อมูลความบันเทิง MBUX นอกจากนี้ พวงมาลัย AMG Performance ยังเป็นแบบมาตรฐานในทุกรุ่น
Source: Carscoops
