More

    Mercedes-AMG SL55 4MATIC+ เปิดประทุนพลัง V8 14.9 ล้านบาท

    อีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวพร้อมทั้ง Mercedes-AMG G63 กับ Mercedes-AMG GT63 4MATIC+ กับสไตล์เปิดประทุนตัวแรง Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+

    Mercedes-AMG

    Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ รถยนต์สปอร์ตขุมพลังแรงสุดหรูที่มอบความเป็นที่สุดในทุกด้านจาก Mercedes-AMG

    ดีไซน์ภายนอก โดดเด่นด้วยกระจังหน้า AMG-specific radiator grille with V8-Styling-Paket Exterieur ติดตั้งไฟหน้าแบบ DIGITAL LIGHT ระบบไฟด้านข้างประตูแบบ AMG light display หลังคาเปิดประทุนแบบ Fabric soft-top ซึ่งสามารถเปิดและปิดภายในระยะเวลาเพียง 15 วินาที
    โดยควบคุมได้ในความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ระบบไฟฟ้า electrically extending rear wing พร้อมติดตั้งล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 255/45 R19 และยางหลัง 285/40 R19

    Mercedes-AMG

    ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX7 ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาสในทุกวินาทีที่อยู่ในห้องโดยสาร และหน้าจอขนาด 11.9 นิ้ว ที่สามารถควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสและปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 12-32 องศา ช่วยปรับให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมป้องกันแสงสะท้อนจากการเปิดหลังคาที่มากระทบหน้าจอ ส่วนจอหน้าที่นั่งคนขับเป็นหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว แบบ AMG-specific indicator ที่ทั้งสปอร์ต โฉบเฉี่ยวและเร้าใจ นอกจากนี้ ยังติดตั้งพวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel นุ่มกระชับมือด้วยหนัง Nappa leather และเบาะที่นั่ง AMG Sport seats พร้อม AIRSCARF

    Mercedes-AMGมาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลังในแบบฉบับ AMG ประกอบขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพียงผู้เดียว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายแบบ One Man, One Engineด้วยเครื่องยนต์แบบ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo มอบพละกำลังสูงสุด 476 แรงม้าที่ 2,250-4,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตรที่ 5,500-6,500 รอบต่อนาที รหัส M177

    มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบ AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sport Transmission แบบใหม่ที่สามารถรองรับแรงบิดได้สูง ช่วยให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ในเวลาไม่ถึง 1 วินาที (ultra-short shift times) มีการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว และผสานการทำงานของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเต็มกำลัง

    Mercedes-AMG

    พร้อมระบบช่วยการออกตัวแบบ RACE START ช่วยให้รถสามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.9 วินาที มอบความเร็วสูงสุด 295 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ AMG Performance 4MATIC+ แบบ all-wheel drive ซึ่งถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการขับขี่บนถนนปกติและในสนามแข่ง โดยจะตอบสนองการเข้าโค้งอย่างปลอดภัยและรวดเร็วโดยไม่เสียการควบคุม ด้วยการกระจายกำลังไปที่ล้อต่าง ๆ อย่างเหมาะสม และแปรผันตามสภาพถนนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถทำเวลาในสนามแข่งได้ดีที่สุด

    นอกจากนี้ ยังผสานการทำงานกับระบบช่วยเหลือการควบคุมการเลี้ยวด้วยล้อหลังแบบ AMG Rear-Axle Steering โดยระบบจะทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อความเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ด้วยการใช้ล้อหลังในการเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้าไม่เกิน 0.7 องศา แต่ถ้าหากต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเลี้ยวตรงกันข้ามกับล้อหน้าไม่เกิน 2.5 องศา

    มาพร้อมระบบช่วงล่างแบบ AMG RIDE CONTROL Sports Suspension โดยผู้ขับขี่สามารถปรับระบบการทำงานของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ คือ Comfort, Sport และ Sport+ ระบบจะช่วยปรับบุคลิกของช่วงล่างให้เป็นไปตามโหมดที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ ผ่านหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางหรือปุ่มบริเวณพวงมาลัย

    ถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์และเทอร์โบแบบ AMG Real Performance Sound จะแสดงเสียงภายในห้องโดยสารบริเวณคอนโซลกลาง โดยใช้เสืยงสังเคราะห์ผสานการทำงานกับเสียงท่อสุดเร้าใจตามแบบฉบับของ AMG ซึ่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้ง Sporty, Discreet (BALANCED) หรือ Motorsporty และ Emotive (POWERFUL)

    Mercedes-AMG

    สามารถเลือกโหมดผ่านระบบปรับรูปแบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT โดยในโหมด S และ S+ จะสามารถถ่ายทอดพลังเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และติดตั้งเบรกสมรรถนะสูง AMG High-Performance Brake System ที่สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำในทุกสภาวะการขับขี่ และระบบเบรกแบบ Sports Braking System ยังติดตั้งช่องระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของเบรกเมื่อมีการใช้งานในความเร็วสูง

    สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยนั้น จัดมาให้อย่างเต็มพิกัดตามแบบฉบับรถยนต์สปอร์ตพลังแรงที่หรูหราถึงขีดสุด ทั้งกล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา ช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving Assistance Package ที่รวบรวมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน ทั้งรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC)

    ช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) ช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist) ช่วยการทรงตัวและดึงรถกลับเข้าช่องจราจร (Evasive Steering Assist) และช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้อย่างอิสระ

    Mercedes-AMG

    Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 14,900,000 บาท โดยมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีเหลือง (Sun Yellow) สีดำ (Obsidian Black) สีเงิน (High-tech Silver) สีเทา (Selenite Grey) สีน้ำเงิน (Hyper Blue) และสีน้ำเงิน (Spectral Blue)

    นอกจากนี้ ยังมาพร้อม OPITONAL EXTRA ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกออปชันและอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกมากมาย ตั้งแต่สีตัวถังแบบ MANUFAKTUR สีหลังคา Fabric soft-top ล้ออัลลอยด์ AMG การตกแต่งภายในแบบ AMG special trim ระบบเสียง Burmester® high-end 3D surround sound system ที่มาพร้อม AMG 3D Spider ในการเพิ่มเส้นใยนำเสียงที่บริเวณหลังคา

    รวมถึงการตกแต่งภายนอกด้วยชุดแต่ง AMG Night Package, AMG Night Package Plus หรือ AMG DYNAMIC PLUS Package จนไปถึงการเปิดระบบช่วงล่างแบบ AMG ACTIVE RIDE CONTROL suspension ที่จะมาพร้อมระบบ Lift system, front axle ที่สามารถปรับระดับบริเวณล้อหน้าได้ชั่วคราว

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts