หลังจากเปิดตัว Mercedes-Benz CLA เจเนอรชันที่ 3 เมื่อช่วงกลางปี ล่าสุดเมืองไทยเตรียมพบกับหนึ่งรุ่นใหม่จากตระกูล CLA ที่จะเข้ามาตอบโจทย์สาวก
นั่นก็คือ Mercedes-Benz CLA with EQ Technology สำหรับแฟนๆตราดาวชาไทยที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในเซกเมนต์ที่จับต้องได้
ภายนอกออกแบบภายใต้แนวคิด “Sensual Purity” ดีเอ็นเอของแบรนด์ที่สะท้อนไอคอนนิกสไตล์ อันหรูหราและเรียบง่าย แต่ยังคงเปี่ยมไปด้วยความโดดเด่นที่สะกดทุกสายตานำเสนอสัญลักษณ์ดวงดาวของแบรนด์ให้เข้ากับองค์ประกอบต่างๆ ของตัวรถ อาทิ กระจังหน้า Starpanel ในรูปแบบไฟแอนิเมชัน
ชุดโคมไฟหน้า LED ติดตั้ง Daytime Running Light รูปทรง Star Shaped และไฟท้าย LED แบบ Digital Jewelry ที่ผสานเอกลักษณ์ของแบรนด์ให้ออกมาเป็นรายละเอียดของอัญมณีที่ลงตัว พร้อมล้ออัลลอยลายเท่ ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/45R18 และ 19 นิ้วพร้อมยาง 225/40R19
ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม MMA (Mercedes-Benz Modular Architecture)เน้นความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการผลิตให้สามารถเข้ากับรถยนต์ทุกระบบขับเคลื่อนทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์สันดาปภายใน โดยมาในรหัส C174 มีมิติดังนี้
- ความยาว 4,723 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,855 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,468 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,790 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,055 กิโลกรัม
- ความจุกล่องใส่ของใต้ฝากระโปรงหน้า Frunk ขนาด 101 ลิตร
ภายในได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนหินญี่ปุ่น หรือ “Zen Garden” สะท้อนศิลปะแห่งการลดทอนและคงไว้เฉพาะสิ่งที่เป็นแก่นแท้ เหลือไว้เพียงส่วนประกอบที่เป็นหัวใจของวิศวกรรมยานยนต์ เช่น การใช้วัสดุกระจกบนจอกลาง MBUX Superscreen
วัสดุโลหะบนคอนโซลกลาง และวัสดุหนังบนแผงบุนุ่มบริเวณข้างประตู ติดตั้งระบบปฏิบัติการ MB.OS ที่ผสานการทำงานของเทคโนโลยี AI ด้วยระบบ MBUX Virtual Assistance ที่ร่วมมือกับ Google นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชันระดับโลกมากมาย อาทิ ChatGPT, Gemini, Google Maps, Microsoft Teams, Webex, Zoom ฯลฯ
ด้านขุมพลังเป็นพลังงานไฟฟ้า 100% มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังตอบโจทย์ในทุกมิติ ทั้งในด้านสมรรถนะอันทรงพลังที่ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร รวมถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium-ion 800V ขนาด 85 kWh ที่ให้ระยะทางการขับขี่สูงสุด 792 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP หรือ 932 กิโลเมตร (NEDC)
มีประสิทธิภาพการชาร์จที่รองรับ DC Charge สูงสุด 320 kW โดยการชาร์จเพียง 10 นาที ด้วยกระแสไฟเต็มกำลัง จะสามารถขับขี่ได้ไกลถึง 325 กิโลเมตร
จากเดิมที่ใช้ซับแบรนด์ Mercedes-EQ จะถูกเปลี่ยนมาอยู่ภายใต้แบรนด์ Mercedes-Benz ทั้งหมด โดยรถยนต์ทุกรุ่นที่เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จะใช้ชื่อรุ่นตามด้วย “with EQ Technology” ส่วนรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจะตามด้วย “with EQ Hybrid Technology”
และ Mercedes-Benz CLA 250+ with EQ Technology เป็นอีวีหรูลำดับที่ 7 ที่เตรียมเผยโฉมครั้งแรกในไทยที่ Motor Expo 2025 และที่สำคัญรุ่นนี้เป็นรถประกอบในประเทศ โดยจะเปิดตัวพร้อมราคาที่งานฯหรือไม่นั้นต้องติดตาม