ตั้งแต่การมาของ HAVAL H6 ทำให้ตลาดรถเอสยูวีคึกคักอีกครั้งและเป็นตลาดที่น่าจับตามองถึงแม้รถกลุ่มนี้จะมีหลายขนาดหลายแบบก็ตาม
ล่าสุดแฟนๆที่ติดตามเว็บ Car2Day ได้ส่งรูปภาพมาให้โดยเป็นรถพรางตัววิ่งทดสอบบนทางด่วนในกรุงเทพฯ ติดป้ายทะเบียน TC โดยมีความเป็นไปได้ว่านี่คือด้านท้ายใหม่ของ MG HS Facelift ถ้าเกิดขึ้นจริงนี่คือการปรับโฉมครั้งแรกอาจยกหน้าตาของสเปกจีนในสไตล์ third-generation family design คล้ายกับ MG 5 เก๋งยอดนิยมของไทย ตั้งแต่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ประดับด้วยเส้นแนวตั้งสีดำประกบโลโก้ MG ไฟหน้าทรงยาวเรียวแบบ LED รับกับกันชนหน้าที่ออกแบบทั้งกระจังหน้าและช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านท้ายเปลี่ยนดีไซน์ไฟท้าย LED แนวยาว กันชนหลังออกแบบใหม่มีท่อไอเสียคู่ซ้าย-ขวาทรงสี่เหลี่ยม รับกับลิ้นสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ 5 ก้าน สีทูโทนมีให้เลือกทั้งขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R18 และขนาดใหญ่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/45 R19
ภายในเหมือนเดิมทั้งคอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัส จอสัมผัส 10 นิ้ว รวมระบบความบันเทิงการสั่งงานของรถไว้ในที่เดียว มาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้วแบบ LCD ตรงกลางแสดง MID แบบสี หลังคา Panoramic ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.19 ตร.ม. และเบาะหลังพับได้60/40
สเปกไทยยังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 15E4E 162 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตัเมตร ที่ 1,700-4,300 รอบ/นาที และรุ่น PHEV ที่ใช้พื้นฐานเครื่องรุ่น 15E4E 1.5 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร และ แบตเตอรี่แบบ lithium-ion battery ความจุ 16.6 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด EDU II ในรุ่น PHEV และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ TST แบบ 7 สปีดในรุ่นปกติ
ทั้งคู่มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น และโหมด EV(รุ่น PHEV) ขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อม ช่วงล่าง Euro Tuning Suspension มั่นใจในการขับขี่กับช่วงล่างหน้า MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-link พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน เบื่องต้น MG HS Facelift ทั้งรุ่นปกติและรุ่น PHEV มีแนวโน้มที่จะเปิดตัวในไทยภายในปีนี้
ที่มาภาพ Eobard Thawne