หลังจากเปิดตัวเวอร์ชันสันดาปล้วนสำหรับ MG HS เจนใหม่และเตรียมที่จะสนองทางเลือกใหม่ด้วยการแนะนำ MG HS PHEV ล่าสุดทางการออสเตรเลียได้อนุมัติรุ่นนี้ให้จำหน่ายในออสซี่แล้ว
MG HS PHEV หน้าตาไม่ต่างจากเวอร์ชันสันดาปเพียงแต่เพิ่มตรา PHEV และช่องเสียบปลั๊ก AC/DC CCS Type 2 ฝั่งซ้ายนอกนั้นคงเดิมทั้งไฟหน้า LED ทรงสปอร์ตด้านหน้าด้วยช่องระบายอากาศทรงรังผึ้งขนาดใหญ่ พร้อมโลโก้ MG ติดบนกระจังหน้าทรงทึบประกบไฟหน้า LED ทรงสปอร์ต และไฟตัดหมอกหน้า LED ด้านข้างกลมกลืนด้วยเส้นสายลงตัว พร้อมกระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดึงก้าน กรอบกระจกโครเมียม ราวหลังคาทรงบิ๊วอินน์
ไฟท้าย LED แนวยาวครอบทับด้วยเส้นแนว สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 LED ฝากระโปรงท้ายระบบไฟฟ้ามีฟังก์ชั่นปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมสั่งการผ่านทางรีโมทคอนโทรล กันชนหลังโดดเด่นเสริมสปอร์ตด้วยดิฟิวเซอร์สีดและท่อไอเสียคู่ และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลาย diamond cut พร้อมยาง 225/55R19
ตัวรถใหญ่ขึ้นตามตัวตั้งแต่ความยาว 4,670 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,890 มิลลิมเตร ความสูง 1,663 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,765 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,840 กิโลกรัม
แผงคอนโซลหน้าติดตั้งจอคู่รวบรวมการทำงานของแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard 12.3 นิ้วและจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 12.3 นิ้ว คมชัดแบบ HD สามารถเลื่อนจอไปยังตรงกลางหรือเข้าหาฝั่งคนขับ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play และ Android Auto ปรับแสงจดมีทั้งแบบ สว่างและมืด และ 3 โหมดทั้ง แผนที่, ดิจิตอล, ADAS รวมถึงระบบนำทางด้วยดาวเทียม Satellite Navigation มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงโดยไม่จำเป็นต้องใช้มือสัมผัส ประมวลผลเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 พร้อมลำโพง 6 กับ 8 จุด ช่องเสียบ USB 4 จุดหน้า-หลัง ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charging ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถ รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด D-shape มีช่องแอร์เชื่อมต่อกับชุดคอนโซลหน้าอย่างลงตัว พร้อมหัวเกียร์หุ้มหนัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start เบรกมือไฟฟ้า และ AUTO HOLD หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ NVH Luxury Silence Space และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร
เบาะนั่งทรงสปอร์ตหุ้มหนังปรับด้วยระบบไฟฟ้าฝั่งคนขับ 6 ทิศทางพร้อมดันหลังและบันทึกความจำตำแหน่งเบาะ คนนั่งปรับได้ไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมอุ่นเบาะ 3 ระดับ เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มีพื้นที่สัมภาระตอนพับเบาะมากถึง 1,484 ลิตร แต่ถ้าไม่พับเบาะมีพื้นที่ 507 ลิตร ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 64 เฉดสี
เบนซินเทอร์โบปลั๊กอินไฮบริดรหัส GS61H ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 142 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 235 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 209 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงแบบ Hairpin Winding Technology ที่ใช้ไฟจากแบตเตอรี่ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ขนาด 24.7 kWh
เมื่อต้นกำเนิดพลังทั้งสอง เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 307 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 432 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด ทำอัตราเร่ง 0-100 ภายในเวลา 6.8 วินาที วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า 121 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP รูปแบบการขับขี่ เลือกได้ 5 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Eco, Sport, Super Sport และโหมด EV ล้วน ขับเคลื่อนล้อหน้า
สามารถชาร์จได้ทั้งกระแสสลับ AC และกระแสตรง DC พร้อม V2L มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว (Liquid Coolant System) และระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ระบบการบริหารพลังงานไฟฟ้าและสร้างกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์กลับสู่แบตเตอรี่ (Battery Management System) ช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลังแบบ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งหน้าและหลัง ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
ติดตั้งระบบ MG PILOT ที่เป็นเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ประกอบด้วย
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับคนเดินถนนและจักรยาน Active Emergency Braking with Pedestrian and Bicycle Detection (AEB)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keep Assist (LKA)
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning System (LDW)
- ช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Detection (BSD)
- ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน Lane Change Assist (LCA)
- เตือนความเมื่อยล้าผู้ขับขี่ Driver Attention Alert (DAA)
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ Forward Collision Warning (FCW)
- ช่วยเตือนขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- ช่วยเตือนการเปิดประตู Door Open Warning (DOW)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control (ACC)
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ Traffic Jam Assist (TJA)
- จำกัดความเร็วอัจริยะ Intelligent Speed Limit Assist (ISLA)
- กล้อง 360 องศา (Around View Monitor)
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัยอาทิ
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย
- สัญญาณเตือนระยะเดินหน้า-ถอยหลัง
- กุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
- ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง Tyre Pressure Monitoring System (TPMS)
- ควบคุมการทรงตัว Electronic Stability Programme (ESP)
- ออกตัวบนทางลาดชัน Hill Launch Assist (HLA)
- เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD
- ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ Follow Me Home
MG HS PHEV เจนใหม่เตรียมเปิดตัวออสเตรเลียเร็วๆนี้อาจเป็นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า มาพร้อมสีภายนอก
- สีขาว White Pearl
- สีดำ Black Pearl
- สีบอรนซ์เงิน Sterling Silver Metallic
- สีเทา Hampstead Grey Metallic
- สีแดง Dynamic Red Tri-coat
ที่มา Carexpert