หลังจากได้ยลโฉมที่ยุโรปและอินเดียกันไปล่าสุด เมืองไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับเอสยูวีไฟฟ้าในชื่อ MG ZS EV Facelift
MG ZS EV Facelift เป็นการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปีของการทำตลาดปรับครั้งนี้ ดูดีดูสมาร์ทกว่ารุ่นเดิม ภายใต้แนวคิดBRIT DYNAMIC ลงตัวสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ขับขี่ง่าย มั่นใจในทุกเส้นทาง ภายนอกดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย ลงตัวในทุกรายละเอียด และมีเสน่ห์ ถึงจะคล้าย MG ZS รุ่นปกติ ตั้งแต่ กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN ทรงปิดทึบ พร้อมขยับที่ชาร์จไปไว้ที่ ด้านซ้ายของ โลโก้ MG ขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน (Daytime Running Lights) ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover พร้อมยางขนาด 215/55 R17 ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สปอยเลอร์หลังพร้อม *ราวหลังคาและหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ
มิติตัวรถใกล้เคียงกับ MG ZS EV รุ่นเดิม ตั้งแต่ความยาว 4,323 มม.(เพิ่มจากเดิม 9 มม.) ความกว้าง 1,809 มม. ความสูง 1,649 มม. (เพิ่มจากเดิม 25 มม.) ฐานล้อ 2,585 มม. ความสูงจากใต้ท้องรถ 161 มม. น้ำหนักรถ 1,570-1,610 กก.
ภายในปรับคล้ายๆ MG ZS รุ่นปกติ ออกแบบให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันตั้งแต่ *ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android และ **ลำโพงมีให้เลือกทั้งแบบ 4 จุด และ *ลำโพง 6 จุด *เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ โดยมีพื้นที่จุของ 448 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะลง60/40 จะมีพิ้นที่มากขึ้นเป็น 1,166 ลิตร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อม ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและระบบกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสง *ที่พักแขนด้านหลัง ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start
EASY CONNECT ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ทำให้การใช้งานง่ายและสะดวกสบายอย่างแท้จริงด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่พร้อมทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ เชื่อมให้ผู้ใช้งานและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ สั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ ช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ สามารถสั่งการทำงานได้ทั้ง กุญแจดิจิตอล ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan และตั้งค่าการเดินทางแบบ Team Travel ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call เลขาส่วนตัว MG Call Centre สั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน และเชื่อมต่ออย่างทันสมัยกับ ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time ช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง เล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง เรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ และอัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)
ขุมพลังไฟฟ้าพัฒนาใหม่ให้แรงขึ้นเร้าใจขึ้นวิ่งไกลขึ้นกว่าเดิมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Lithium-Ion มีความจุ 50.3 kWhใหม่ ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
EASY CHARGE ง่าย สะดวกสบาย ทุกการชาร์จ ด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ โดย ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที ล่าสุด กับระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น โดยระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
มาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มพิกัดด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน และ Advanced Synchronized Protection System 20 ระบบ ได้แก่
-ใหม่! ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
-ใหม่! ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) ผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน
-ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
-เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
-ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
-ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
-ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
-ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) (เฉพาะรุ่น X)
-ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) (เฉพาะรุ่น X)
-ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) (เฉพาะรุ่น X)
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย ใหม่! กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ใหม่! ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TMPS) ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home Light) ป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
MG ZS EV Facelift เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “TRULY EASY” มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ได้แก่ สีน้ำเงิน (Como Blue) สีเงิน (Cosmic Silver) สีแดง (Scarlet Red) สีดำ (Black Knight) และสีขาว (Arctic White) ส่วนราคาจำหน่ายจะประกาศอย่างเป็นทางการในงาน Bangkok Motor Show 2022
(*เฉพาะรุ่น X)
(**เฉพาะรุ่น D)
*(ของเดิมเป็นแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 44.5 kWh กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ให้ระยะทางขับเคลื่อนสูงสุด 337 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC ) โดยชาร์จแบบธรรมดา (Normal Charge) ผ่าน MG Home Charger ได้ระยะเวลา 6.5 ชั่วโมง ชาร์จไฟจาก 0-100% และชาร์จเร็ว (Quick Charge) ผ่านสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ Public Charging Station ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-80% เพียง 30 นาที)