More

    MG3 Hybrid+ City มีสะเทือนด้วยพลังไฮบริด 194 ม้า เปิดตัวไทยสิงหาคม

    MG พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวยานยนต์ฟูลไฮบริดรุ่นที่ 2 ของค่ายต่อจาก MG VS HEV กับ MG3 Hybrid+ ในร่างเก๋งแฮทช์แบ็ก 5 ประตู

    MG3 Hybrid+

    MG3 Hybrid+ ตั้งใจท้าชนกับ Honda City Hatchback e:HEV โดยตรงและผ่านการทดสอบสมรรถนะหลากสภาพอากาศ และทุกสภาพถนนในไทย รวมระยะทางวิ่งแล้วกว่า 10,000 กิโลเมตร 

    ภายนอก Exterior

    MG3 Hybrid+เด่นด้วยหน้าตานำแรงบันดาลใจจาก MG4 Electric ด้วยช่องระบายอากาศดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะแบบ Digital Burning Grille ไฟหน้า LED ทรงเรียวเพรียวสปอร์ต โลโก้ MG อยู่ตรงชุดกระจังหน้าแบบทึบ ชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงกลมด้านข้างเส้นสายดูกลมกลืนประณีตพร้อมดีไซน์หลังคารถที่ลาดลงตามยุคสมัย กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูแบบดึงก้าน ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ลงตัวด้วยกันชนหลังทรงสปอร์ตพร้อมสปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วลายห้าก้านทูโทนพร้อมยาง 195/55R16 พร้อมมิติตัวรถดังนี้

    • ความยาว 4,113 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,797  มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,502 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 148 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,208-1,308 กิโลกรัม
    • ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร

    ภายใน Interior

    MG

    ทันสมัยด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำลวดลายเพชรแผงประตูขึ้นรูปที่สวยงาม เบาะหลังพับได้แบบ 100% พร้อมพื้นที่สัมภาระมากถึง 293 ลิตรแผงคอนโซลหน้าดีไซน์ไฮเทค พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันยกมาจาก MG4 Electric ติดตั้งจอคู่ประกอบด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 7 นิ้ว มีจอสัมผัสขนาดใหญ่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ขนาด 10.25 นิ้ว มีช่องเสียบ USB ลำโพง 6 จุด ถัดลงมาเป็นสวิตช์การทำงานที่จำเป็นช่องแอร์ดีไซน์หรู และเกียร์อัตโนมัติแบบปุ่มหมุน Shift By Wire พร้อมเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจี รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น

    ขุมพลัง Interior

    MG3 Hybrid+เป็นเบนซิน 1.5 ลิตร Hybrid Atkinson-cycle รหัส 15S4C กำลังสูงถึง 102 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 128 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังสามารถเร่งได้อย่างราบรื่นให้กำลังถึง 136 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาดความจุแบต 1.83 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้าสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิดรวม 250 นิวตันเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8 วินาที ประหยัดสุด 22.73 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมัน E20 คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Hybrid Transmission ที่มี 3 อัตราทด ปรับทำงานอัตโนมัติช่วยให้เครื่องยนต์ที่ทำงานร่วมกับระบบไฮบริดมอเตอร์มีช่วงการทำงานที่กว้างมากขึ้น พร้อมการขับขี่ที่สามารถเลือกโหมดได้สามโหมด Eco, Standard และ Sport  สามารถวิ่งในโหมดไฟฟ้าเพียวๆ 80 กิโลเมตร

    MG3 Hybrid+และยังมีโหมดการขับขี่พิเศษ Hybrid+ 8 โหมดขับเคลื่อน ที่รวมทุกระบบไฮบริดไว้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ระบบขับเคลื่อนแบบอนุกรม (Series Hybrid) ระบบขับเคลื่อนแบบผสานเครื่องยนต์ และมอเตอร์ (Parallel Hybrid) หรือแม้แต่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน (Pure EV) โดยสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้อย่างราบรื่นและเหมาะสมที่สุดในแต่ละช่วงความเร็ว พร้อมระบบ Energy Regeneration 3 ระดับ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าระดับการรีเจนได้แบบรถไฟฟ้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้สูงสุด

    ความปลอดภัย Safety

    MG3 Hybrid+มาครบเต็มคันไม่ว่าจะเป็น MG Pilot ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS และความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง

    • ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
    • ช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
    • ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
    • ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS
    • กระจายแรงเบรก EBD
    • เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ
    • ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS
    • ป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล TCS
    • ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS
    • สัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS
    • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
    • กุญแจนิรภัย Immobilizer
    • ล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
    • กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ทำงานร่วมกับเซนเซอร์กะระยะการจอด
    • จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX กุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
    • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์

    MG3 Hybrid+เก๋งท้ายตัดจากค่าย MG มีทั้งหมด 7 สีทั้ง สีดำ Pebble Black, สีขาว Dover White, สีบรอนซ์เงิน Cosmic Silver, สีเหลืองPastel Yellow, สีแดง Diamond Red, สีเทา Hampstead Grey, สีน้ำเงิน Como Blue เตรียมมาเมืองไทย สิงหาคมนี้ คาดทันงาน Big Motor Sale 2024

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts