More

    MINI John Cooper Works ACEMAN เปิดตัวไทย 24 มีนาคม

    MINI เปิดตัวน้องใหม่ล่าสุดอย่าง MINI ACEMAN  5 ประตูที่พร้อมรับมือทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมือง พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่โลกของสมรรถนะเต็มพิกัด

    MINIด้วยการแนะนำขุมพลังไฟฟ้าตัวแรงในรุ่น MINI John Cooper Works ACEMAN นอกจากดีไซน์เฉพาะตัวแบบ John Cooper Works

    อย่างลายคาดสปอร์ตสีแดง-ดำ พร้อมหลังคาและฝาครอบกระจกมองข้างที่ใช้โทนสีเดียวกันแล้ว JCW ACEMAN ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 19 นิ้ว แบบ Strive Spoke ทูโทนพร้อมยางขนาด 225/40 R19

    MINIห้องโดยสารที่กว้างขวาง ยิ่งดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยหลังคากระจกพาโนรามาภายในห้องโดยสารยังคงเอกลักษณ์ของรถตระกูล John Cooper Works ไว้ครบถ้วน ทั้งพวงมาลัยสปอร์ต JCW สีดำที่ประดับด้วยตะเข็บสีแดงและหุ้มผ้าที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพื่อให้จับถนัดมือ เบาะสปอร์ต JCW ให้การรองรับที่มั่นคงระหว่างการขับขี่แบบสุดตัว ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดงตัดกับหนังเทียมสีดำเช่นเดียวกับผิวหน้าของคอนโซล นอกจากนี้ ระบบ MINI Experience Modes

    ยังมีโหมด Go-Kart ที่เพิ่มเข้ามาสำหรับรถยนต์ตระกูล JCW โดยเฉพาะเพื่อเติมกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ตให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยโหมดนี้จะตั้งค่าพวงมาลัยให้ไวมากขึ้น คันเร่งตอบสนองเร็วขึ้น และแสดงข้อมูลเพิ่มเติมบนหน้าจอ OLED ทรงกลมด้านหน้า ทั้งแรงบิด กำลังเครื่องยนต์ และ แรง G แบบเรียลไทม์

    พร้อมระบบ Head-up Display ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลสำคัญของตัวรถได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนอีกด้วย

    MINIเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่พัฒนาด้วยมือของทีมงาน BMW บนพื้นฐานของ Android Open Source Project (AOSP) เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายดายด้วยระบบสัมผัส แสดงผลด้วยภาพกราฟิกเคลื่อนไหวที่สวยงามในทุกหน้าจอ และทำงานร่วมกับฟังก์ชันอื่นๆได้หลากหลายเช่น

    เชื่อมต่อกับแพ็คเกจ MINI Navigation ขณะขับขี่เพื่อช่วยนำทางด้วยระบบคลาวด์ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายแบบ 5G ในตัว และยังสามารถแสดงภาพสามมิติเพื่อช่วยนำทางผ่านจุดเลี้ยวที่ซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ ส่วน MINI Connected Store ยังมอบแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ครบครันทั้งแอปเพื่อการใช้งานและความบันเทิง รวมถึงเกม แอปสตรีมเพลงและวิดีโอ

    ส่วนฟีเจอร์กุญแจรถดิจิทัล MINI Digital Key Plus ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับ ด้วยการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอชให้เป็นกุญแจรถ ซึ่งสามารถเปิดใช้งาน Welcome Light ได้โดยอัตโนมัติเมื่อเจ้าของรถอยู่ในระยะ 3 เมตรจากตัวรถ และสามารถปลดล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อเดินเข้ามาในระยะ 1.5 เมตร รวมไปถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์เมื่อนั่งอยู่ในตำแหน่งพร้อมจะออกเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถส่งต่อ Digital Key ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยและลำโพง Harman Kardon

    MINIขุมพลังไฟฟ้าล้วนครั้งนี้พัฒนาใหม่ให้แรงขึ้นวิ่งไกลขึ้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมแบเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 54.2 kWh ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ฉับไวใน 6.4 วินาที วิ่งไกลสุด 355 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 418 กิโลเมตร (NEDC) ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ในเวลาเพียง 31 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสตรง DC 10-80% กำลัง 95 KW หรือ 5.30 ชั่วโมงด้วยระบบชาร์จไฟกระแสสลับ AC 0-100% กำลัง 11 kW นอกจากนี้ แบตเตอรี่รุ่นนี้ยังรองรับการตั้งค่าการชาร์จต่างๆเช่น เวลาชาร์จ ระดับแบตเตอรี่ที่ต้องการ และอื่น ๆ พร้อมการเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่จากหน้าจอมือถือผ่าน MINI App พร้อมความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น

    • ควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว Dynamic Stability Control (DSC)
    • กระจายแรงเบรก Dynamic Brake Control (DBC)
    • ควบคุมระยะการจอด Park Distance Control (PDC)
    • เตือนก่อนการชนด้านหน้า Post-Crash Collision Warning (PC iBrake)
    • กล้องรอบคัน Surround View
    • ถุงลมนิรภัยรอบคัน
    • เซนเซอร์ควบคมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)

    MINI

    MINI John Cooper Works ACEMAN ใหม่ พร้อมให้เลือกเป็นเจ้าของในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White และดำ Midnight Black II โดยจะเปิดตัวและราคาในงาน Motor Show 2025 ในวันที่ 24 มีนาคม

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts