MINI เปิดตัวน้องใหม่ล่าสุดอย่าง MINI ACEMAN 5 ประตูที่พร้อมรับมือทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมือง พร้อมแล้วที่จะก้าวสู่โลกของสมรรถนะเต็มพิกัด
ด้วยการแนะนำขุมพลังไฟฟ้าตัวแรงในรุ่น MINI John Cooper Works ACEMAN นอกจากดีไซน์เฉพาะตัวแบบ John Cooper Works
อย่างลายคาดสปอร์ตสีแดง-ดำ พร้อมหลังคาและฝาครอบกระจกมองข้างที่ใช้โทนสีเดียวกันแล้ว JCW ACEMAN ใหม่ ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอย John Cooper Works ขนาด 19 นิ้ว แบบ Strive Spoke ทูโทนพร้อมยางขนาด 225/40 R19
ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ยิ่งดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยหลังคากระจกพาโนรามาภายในห้องโดยสารยังคงเอกลักษณ์ของรถตระกูล John Cooper Works ไว้ครบถ้วน ทั้งพวงมาลัยสปอร์ต JCW สีดำที่ประดับด้วยตะเข็บสีแดงและหุ้มผ้าที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาเพื่อให้จับถนัดมือ เบาะสปอร์ต JCW ให้การรองรับที่มั่นคงระหว่างการขับขี่แบบสุดตัว ตกแต่งด้วยตะเข็บสีแดงตัดกับหนังเทียมสีดำเช่นเดียวกับผิวหน้าของคอนโซล นอกจากนี้ ระบบ MINI Experience Modes
ยังมีโหมด Go-Kart ที่เพิ่มเข้ามาสำหรับรถยนต์ตระกูล JCW โดยเฉพาะเพื่อเติมกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ตให้เข้มข้นยิ่งขึ้น โดยโหมดนี้จะตั้งค่าพวงมาลัยให้ไวมากขึ้น คันเร่งตอบสนองเร็วขึ้น และแสดงข้อมูลเพิ่มเติมบนหน้าจอ OLED ทรงกลมด้านหน้า ทั้งแรงบิด กำลังเครื่องยนต์ และ แรง G แบบเรียลไทม์
พร้อมระบบ Head-up Display ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลสำคัญของตัวรถได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนอีกด้วย
เทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ ล้วนขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่พัฒนาด้วยมือของทีมงาน BMW บนพื้นฐานของ Android Open Source Project (AOSP) เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายดายด้วยระบบสัมผัส แสดงผลด้วยภาพกราฟิกเคลื่อนไหวที่สวยงามในทุกหน้าจอ และทำงานร่วมกับฟังก์ชันอื่นๆได้หลากหลายเช่น
เชื่อมต่อกับแพ็คเกจ MINI Navigation ขณะขับขี่เพื่อช่วยนำทางด้วยระบบคลาวด์ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายแบบ 5G ในตัว และยังสามารถแสดงภาพสามมิติเพื่อช่วยนำทางผ่านจุดเลี้ยวที่ซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ ส่วน MINI Connected Store ยังมอบแอปพลิเคชันที่หลากหลาย ครบครันทั้งแอปเพื่อการใช้งานและความบันเทิง รวมถึงเกม แอปสตรีมเพลงและวิดีโอ
ส่วนฟีเจอร์กุญแจรถดิจิทัล MINI Digital Key Plus ยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายอีกระดับ ด้วยการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอชให้เป็นกุญแจรถ ซึ่งสามารถเปิดใช้งาน Welcome Light ได้โดยอัตโนมัติเมื่อเจ้าของรถอยู่ในระยะ 3 เมตรจากตัวรถ และสามารถปลดล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อเดินเข้ามาในระยะ 1.5 เมตร รวมไปถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์เมื่อนั่งอยู่ในตำแหน่งพร้อมจะออกเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถส่งต่อ Digital Key ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวได้อย่างง่ายดายและปลอดภัยและลำโพง Harman Kardon
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนครั้งนี้พัฒนาใหม่ให้แรงขึ้นวิ่งไกลขึ้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมแบเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 54.2 kWh ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ฉับไวใน 6.4 วินาที วิ่งไกลสุด 355 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 418 กิโลเมตร (NEDC) ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ในเวลาเพียง 31 นาทีด้วยระบบชาร์จไฟกระแสตรง DC 10-80% กำลัง 95 KW หรือ 5.30 ชั่วโมงด้วยระบบชาร์จไฟกระแสสลับ AC 0-100% กำลัง 11 kW นอกจากนี้ แบตเตอรี่รุ่นนี้ยังรองรับการตั้งค่าการชาร์จต่างๆเช่น เวลาชาร์จ ระดับแบตเตอรี่ที่ต้องการ และอื่น ๆ พร้อมการเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่จากหน้าจอมือถือผ่าน MINI App พร้อมความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็น
- ควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว Dynamic Stability Control (DSC)
- กระจายแรงเบรก Dynamic Brake Control (DBC)
- ควบคุมระยะการจอด Park Distance Control (PDC)
- เตือนก่อนการชนด้านหน้า Post-Crash Collision Warning (PC iBrake)
- กล้องรอบคัน Surround View
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน
- เซนเซอร์ควบคมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
MINI John Cooper Works ACEMAN ใหม่ พร้อมให้เลือกเป็นเจ้าของในสีเทา Legend Grey, แดง Chili Red II, ขาว Nanuq White และดำ Midnight Black II โดยจะเปิดตัวและราคาในงาน Motor Show 2025 ในวันที่ 24 มีนาคม