Mitsubishi XFORCE HEV ขายไทย 2 เดือนกวาดยอดจองกว่า 4 พันคัน

หลังจากเปิดตัวที่ไทยเมื่อ 20 มีนาคม Mitsubishi XFORCE HEV ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากสาวกทรีไดมอนด์ชาวไทย

ล่าสุดเปิดตัวมา 2 เดือนกวาดยอดจองกว่า 4,000 คัน สูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ 3,000 คัน กระแสตอบรับนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในสมรรถนะความชื่นชอบในดีไซน์ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองและความสะดวกสบายในการขับขี่ได้อย่างชัดเจน 

Mitsubishi XFORCE HEV เป็นรุ่นที่ 2 ต่อจาก Mitsubishi XPANDER HEV ที่ใช้ขุมพลังฟูลไฮบริดโดดเด่นด้วยอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมให้อัตราเร่งที่ทรงพลังและทำงานเงียบในรถยนต์ระดับเดียวกันจึงตอบโจทย์การใช้งานของรถได้อย่างเต็มรูปแบบ

ด้วยขนาด 1.6 ลิตร รหัส 4A92 ให้กำลังสูงสุด 107 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 134 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 116 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตรพ่วงแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนตอบสนองด้วยอัตราเร่งรวดเร็วและทรงพลังเน้นทั้งความเงียบที่มากขึ้นและประหยัด พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 2-Speed Transaxle

พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด 7 DRIVE MODE ปรับโหมดการขับขี่เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับทุกจุดหมายอย่างไร้กังวลท้ัง NORMAL (ถนนทั่วไป), WET (ถนนเปียก), GRAVEL (ถนนลูกรัง), TARMAC (ถนนลาดยาง), MUD (ถนนโคลน),CHARGE (โหมดการชาร์จ), EV PRIORITY (โหมดพลังงานไฟฟ้า 100%)

พร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและขวาออกแบบให้สามารถเรียกแรงบิดให้กระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือที่เรียกว่า Active Yaw Control (AYC) เข้ามาเสริมทัพ

พร้อมหน้าตาภายนอกอันล้ำสมัย ภายในที่กว้างขวางสะดวกสบายแม้จะเป็นรถคอมแพ็กต์เอสยูวีด้วยออปชันเด่นอย่าง ลำโพง Yamaha ในชื่อ Dynamic Sound Yamaha Premium ติดตั้งที่แผงประตูคู่หน้า ลำโพงทวิตเตอร์บริเวณเสา A และลำโพง coaxial two-way ที่ประตู่คู่หลังรวมทั้งหมด 8 จุด

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Mitsubishi Safety Sensing ซึ่งประกอบด้วย 6 ฟังก์ชันหลัก ได้แก่ ล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติถึงจุดหยุดนิ่ง (Adaptive Cruise Control – ACC) เตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation – FCM)

สัญญาณเตือนจุดอับสายตาและขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning / Lane Change Assist – BSW / LCA) เตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beam – AHB) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification – LCDN)

นอกจากนี้ ยังเสริมความปลอดภัยด้วยโครงสร้างตัวถัง RISE² (Reinforced Impact Safety Evolution) ซึ่งช่วยดูดซับแรงกระแทกและลดการเสียรูปของห้องโดยสารในกรณีเกิดการชน พร้อม ถุงลมนิรภัย SRS 6 จุด เพิ่มความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยจำหน่ายในไทย 3 รุ่นย่อยดังนี้

• รุ่น IGNITE ราคา 899,000 บาท
• รุ่น ULTIMATE ราคา 1,039,000 บาท
• รุ่น ULTIMATE X ราคา 1,089,000 บาท