HOZON Auto พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวและขายจริง NETA S Shooting Brake ทั้ง 2 เวอร์ชันไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชัน EV และ EREV เปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้า
NETA S Shooting Brake แวก้อนทรงสปอร์โชว์สไตล์ยุโรปเปิดราคาล่วงหน้าหรือ Pre-Sale สำหรับเวอร์ชันอีวีล้วน เริ่มต้น 166,900-219,900 YUAN หรือราว 819,000-1,079,000 บาท ส่วนเวอร์ชัน EREV Pre-Sale เริ่มต้น 175,900-209,900 YUAN หรือราว 865,000-1,035,000 บาท
ภายนอก Exterior
หน้าตาอาจคล้ายกับ NETA S เวอร์ชันซีดาน ตั้งแต่ชุดไฟหน้า LED สองชั้นเริ่มที่ ไฟ DRL LED ขนาดเล็ก ถัดลงมาเป็นไฟหน้า LED คู่ ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตปิดทึบ พร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ด้านข้างดีไซน์อาจคล้ายๆกับ TESLA กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูเรียบเนียน Pop Out กระจกโอเปร่าขนาดใหญ่ เสา C กับ D ขยายใหญ่
ด้านหลังมาพร้อมสปอยเลอร์และไฟเบรกดวงที่สามมีที่ปัน้ำฝนด้านหลัง ไฟท้าย LED แนวยาวรูปตัว T และ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 245/45R19 และขนาด 20 นิ้วพร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อมีคาลิปเปอร์สีแดง แพลตฟอร์มใหม่ SHANHAI Modular Architecture 2.0 มีมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,980 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,980 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,480 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,980 มิลลิเมตร
- ระยะต่าสุดจากพื้น 133 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถรุ่น EREV จะอยู่ที่ 1,960-1,970 กิโลกรัม และรุ่น EV 1,960-2,160 กิโลกรัม
ภายใน Interior
ยกมาจาก NETA S ซีดานทั้งคอนโซลหน้าที่อุดมไปด้วยชุดจอต่างๆทั้งหมด เริ่มที่ จอแสดงข้อมูลบนคอนโซลหน้า Head Up Display มาตรวัดดิจิตอล หลังพวงมาลัย จอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 17.6 นิ้ว พร้อมชิปประมวลผล Nvidia Orin X chips และยังมีจอเล็กๆฝั่งคนนั่งมาด้วย
พร้อมลำโพงรอบคัน 21 จุด ประกอบด้วย ลำโพงหลัก 12 ตัว ซับวูฟเฟอร์ 1 ตัว ลำโพงเพดาน 4 ตัว ลำโพงพนักพิงศีรษะ 4 ตัว กำลังขับ 1,216 วัตต์
เบาะนั่งหุ้มหนัง Alcantara พร้อมระบบอุ่นเบาะปรับความเย็นที่เบาะและนวดได้ เบาะหลังพับได้มีพื้นที่ขนของมากถึง 1,295 ลิตร ก่อนพับเบาะมีพื้นที่ 593 ลิตร การตกแต่งภายในแบบหนังสัมผัส ลายไม้ และสีเงินตกแต่งอย่างลงตัวมาในแบบ Smart Cockpit System
ตู้เย็นขนาด 6.6 ลิตร เหมาะสำหรับการเดินทางไกล พิเศษด้วย หลังคาพาโนรามิกพร้อมฉนวนสามารถกันแสง UV ได้ถึง 99.9% และกันความร้อนได้ถึง 87.5%
ขุมพลัง Performance
ด้วยเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมไฟฟ้าแรงดันสูง 800V ทั้งไฟฟ้าล้วนที่มีด้วยกันถึง 2 ทางเลือกและมีเวอร์ชัน EREV เปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าเริ่มที่
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้พลังมากถึง 503 แรงม้า แรงบิด 620 นิวตันเมตรจากชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 91kWh ให้ระยะทางสูงสุด 650 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน CLTC) โดยชาร์จกระแสตรง DC 30-80% ได้ 35 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC รองรับกำลังไฟ 11 kW
- รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังจากชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 85.11 kWh ให้กำลังมากถึง 340 วิ่งไกลสุด 715 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน CLTC) ทั้งคู่ให้ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขุมพลัง EREV หรือ Series Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป 1.5 ลิตร DAM15HE ให้กำลังเพียง 95 แรงม้าจากเดิม 116 แรงม้า ในการปั่นไฟพร้อมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ Qilin ความจุ 31.7 kWh กับ 43.9 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 272 แรงม้าหรือรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ 367 แรงม้า ในการขับเคลื่อน พร้อมประสิทธิภาพทางความร้อนสูงกว่ารุ่น S Sedan วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 125 กับ 130 และ 185 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
สำหรับเวอร์ชัน EREV ของรุ่นนี้วิ่งไกลในใหมดไฟฟ้าล้วน 300 กิโลเมตร และน้ำมัน 1 ถังกับชาร์จเต็ม 1 ครั้งรวมกันวิ่งไกลสุด 1,200 กิโลเมตรสำหรับรุ่นความจุแบตต 43.88 kWh ใช้เซนเซอร์ AT128 LiDAR ของค่าย Hesai พร้อม NETA Pilot 4.0 เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Autonomous Driving L4
เบื่องต้น NETA S Shooting Brake ทั้ง 2 เวอร์ชันเตรียมจะเปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 สิงหาคมและเตรียมส่งมอบในเดือนกันยายน
ที่มา Autohome