หลังจากทาง NETA Auto Thailand ได้เซ็น MOU มาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับทางกรมสรรพสามิตไปจนมีความชัดเจนในการทำตลาดมากขึ้น
โดยโชว์ตัว NETA U PRO และ NETA S ให้คนไทยรู้จักมากขึ้นโดยสองรุ่นดังกล่าวเปิดรับจองสิทธิ์ก่อนที่จะขายจริงในช่วงปีหน้าและปีถัดไปตามลำดับ และล่าสุดทาง NETA ยืนราคาเดิม NETA V 549,000 บาท จนถึงวันที่ 12 ธันวาคม หลังจากนั้นจะมีการปรับราคาเพิ่มจากเดิม 50,000 บาท เป็น 599,000 บาท สำหรับ NETA V เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-Ion Battery) ความจุ 38.5 kWh
ให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มตามมาตรฐาน NEDC ผ่านการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP67 พร้อมด้วยระบบจัดการอุณหภูมิแบตเตอรี่ HEPT 3.0 และระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID COOLING SYSTEM รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC Normal Charge จาก 0-100% ในระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง และการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที
อีกทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์ พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างครบครัน เช่น หน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ล้ำสมัยด้วยระบบการสั่งการระบบการทำงานต่างๆ ของรถพร้อมกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ที่มีระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ เป็นต้น
และจากกรณีที่ NETA ยืนราคาเดิมจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม และปรับราคาขึ้นในวันต่อมา ทางกรมสรรพาสามิต เตรียมร่อนหนังสือถึงค่ายรถ NETA เพื่อให้ทำหนังสือชี้แจงกรณีเตรียมปรับขึ้นราคารถที่ได้รับเงินอุดหนุนจากมาตรการ โดย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยกับทาง “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า กรณีนี้ทางกรมฯยืนยันว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะราคาที่ขายต้องได้รับอนุมัติจากกรมสรรพสามิต ขณะที่นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิตกล่าวว่า วันนี้กรมสรรพสามิตจะมีหนังสือไปถึงทางค่าย NETA เพื่อให้ชี้แจงถึงกรณีที่ออกมาประกาศว่าเตรียมปรับขึ้นราคา NETA V อีก 30,000-50,000 บาท จากราคาเดิมที่ขาย ซึ่งเป็นราคาที่ได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพสามิต เนื่องจากรถอีวีรุ่นดังกล่าวเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาล
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ