กลับมาอีกครั้งกับงานแสดงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ยิ่งใหญ่สุดในอาเซียนและของโลกกับงาน Bangkok Interantional Motor Show 2025
มาในธีม The Talk of Sensuous Automotive หรือ สนทนาภาษายานยนต์ ซึ่งสื่อถึงปรัชญาการออกแบบยานยนต์ที่เน้นการสื่อสารถึงอารมณ์ ความรู้สึก และแรงบันดาลใจ ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในพื้นที่อิมแพ็คชาเลนเจอร์เต็มฮออล์ และ อิมแพ็คฟอรัมฮออล์ 4 พื้นที่กว่า 76,000 ตารางเมตร ให้เป็นงานจัดแสดงยานยนต์ระดับโลก
สำหรับปีนี้มีค่ายรถยนต์มากกว่า 35 แบรนด์ ทั้งจาก เอเชีย อเมริกา และยุโรป เข้าร่วมงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของค่ายรถและมั่นใจต่อแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยและครั้งนี้ค่ายรถยนต์หลายค่ายการเผยโฉมรถรุ่นใหม่ เพื่อตอบทุกความต้องการทาง Car2Day จึงรวบรวมและคาดการณ์กับรถยนต์ที่จะเปิดตัวภายในงาน เริ่มด้วย
AION : UT
AION UT มินิคาร์อีวีดีไซน์คล้ายกับ MINI Cooper พื้นฐานแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมแพลตฟอร์มไฟฟ้าบริสุทธิ์ AEP 3.0 มีสีภายนอกทั้งหมด 6 สี ทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน
พร้อมขุมพลังไฟฟ้าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟส สำหรับสเปกไทยอาจมาด้วยระยะทางวิ่งไกล 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC)
BMW : BMW M5 Touring
ปีนี้ค่ายบีเอ็มดับเบิลยูใจปล้ำเผยรถใหม่ถึง 9 รุ่นโดยเกือบทั้งหมดเปิดตัวและเปิดราคาเป็นที่เรียบร้อยยกเว้น BMW M5 Touring ที่ยังไม่เผยราคาและในงานมีแนวโน้มที่จะเผยราคาโดยเป็นเอสเตทแรงขั้นเทพรหัส G99 พกพลังปลั๊กอินไฮบริดเทอร์โบคู่ V8 มากถึง 727 แรงม้า แรงบิด 1,000 นิวตันเมตร
อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ภายใน 3.6 วินาที แถมให้ความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมดไฟฟ้าล้วนและวิ่งไกลสุด 61-67 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (WLTP)มีะระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive จับตาว่าราคาครั้งนี้จะมากว่ารุ่นซีดานหรือเท่ากับในราคา 12.999 ล้านบาทหรือไม่ต้องติดตาม
BYD : ATTO 2, SEAL 05 DM-i, BAO 8

มาไทยแน่แต่จะมาโชว์พร้อมขายหรือโชว์เฉยๆในงานต้องติดตามกับ BYD ATTO 2 เอสยูวีอีวีรุ่นเล็กที่เอา BYD YUAN UP จากจีนแปะตรา BYD ขายทั่วโลก สร้างจากพื้นฐาน BYD’s e-platform 3.0 พร้อมพลังอีวี 177 แรงม้า วิ่งไกลสุด 367 กิโลเมตร (NEDC)
รวมถึงการแนะนำขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่กับ BYD SEAL 05 DM-i เก๋งคอมแพ็คพื้นฐานเดียวกับ BYD QIN PLUS DM-i หรือ BYD KING แต่ปรับหน้าตาให้เข้ากับกลุ่ม Ocean มีดีไซน์สวยคล้ายรถยุโรป พร้อมขุมพลัง DM-i super hybrid เจเนอเรชันที่ 5
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วน 55 และ 120 กิโลเมตรตามลำดับตามมาตรฐาน CLTC หรือ 53 และ 116 กิโลเมตร (NEDC) และวิ่งไกลสุดเมื่อทำงานร่วมกันทั้งระบบขจะได้ระยะทาง 2,000 กิโลเมตร ประหยัด 32.47-34.13 กิโลเมตรต่อลิตร (NEDC)
และการเผยโฉมครั้งแรกของ BAO 8 เอสยูวีทรง Land Rover พกพลังปลั๊กอินไฮบริด 2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่กับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 36.8 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้พลังสูงสุด 748 แรงม้า แรงบิด 760 นิวตันเมตร วิ่งไกลทั้งระบบ 1,200 กิโลเมตร และวิ่งไฟฟ้า 125 กิโลเมตรเข้ามาโชว์ด้วย
DEEPAL : S05
เอสยูวีน้องเล็กรุ่นใหม่มีสองขุมพลังให้เลือกเริ่มที่เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟตขนาดความจุแบต 56.12 kWh ให้กำลังมากถึง 238 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร วิ่งไกล 510 กิโลเมตรตามมาตรฐาน CLTC ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาร์จ DC 3C 30-80% ภายใน 15 นาที และชาร์จ AC ได้
มีขุมพลัง REEV กับเบนซิน 1.5 ลิตร รหัส JL469Q1 ให้กำลังในภาคเครื่องยนต์ 98 แรงม้า พร้อมความจุแบเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 27.28 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร
วิ่งไกลในโหมดไฟฟ้าล้วน 200 กิโลเมตร (CLTC) วิ่งไกลทั้งหมด 1,234 กิโลเมตร (CLTC) ความเร็วสูงสุด 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งความเร็ว 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 7.9 วินาที ภายใต้การชาร์จเร็ว DC ใช้เวลา 20 นาทีในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 30-80% และชาร์จ AC ได้
โดยเป็นรุ่นแรกของค่ายที่ตั้งไลน์การผลิตที่จังหวัดระยองคาดว่าจะเริ่มเดินสายการผลิตช่วงกลางปี 2025 หลังจากที่โรงงานแล้วเสร็จต้นปี 2025 และจะเปิดตัวพร้อมขายที่งานนี้ด้วย
FORD : Everest Sport Special Edition
พีพีวีรุ่นย่อยใหม่มาขายแบบไม่จำนวนจำกัด ตกแต่งเพิ่มเติมทั้ง ตัวอักษร EVEREST สีดำบนฝากระโปรงหน้า ชุดแต่งภายนอกสีดำสปอร์ตทั้งกระจังหน้า ราวหลังคา กระจกมองข้าง ที่เปิดประตู ช่องระบายอากาศข้างบังโคลนหน้า สปอยเลอร์หลัง พร้อมหลังคาดำและล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว สีดำด้าน ก้านสีแดงสลับสีดำ พร้อมยางขนาด 255/55 R20 ลายเดียวกับ Ranger Stormtrak กับขุมพลังดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร 170 แรงม้า ในราคา 1,619,000 บาท
GWM : HAVAL H6 Minor Change, GWM TANK 300 Diesel
หลังปรับโครงสร้างขององค์กรในไทยจนเรียบร้อยแล้วเตรียมที่จะเปิดตัวรุ่นใหม่ในปีนี้แบบ Non Stop เริ่มกันที่ HAVAL H6 รุ่นปรับโฉมปรับครั้งที่ 2 ในรอบ 4 ปีหลังจากปรับโฉมครั้งแรกเมื่อปี 2022 ปรับโฉมทั้งภายนอกและภายในใหม่มาครบทั้งฟูลไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดวิ่งไกลสุดในโหมด EV ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งถึง 201 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC)
ด้านเอสยูวี GWM TANK 300 เพิ่มหัวใจใหม่กับดีเซลเทอร์โแปรผัน 2.4 ลิตร ให้กำลังถึง 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Intelligent electronically controlled four-wheel drive (two-speed)+MLOCK มีโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal, Eco, Sport, 4L และ 4H สามารถลากจูงได้ 3,500 กิโลกรัม ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตรเข้ามาตีตลาดเจ้าใหญ่แดนปลาดิบ
Honda : e:N1 CBU From China
หลังจากเปิดตัวและประกอบไทยมาครบ 420 คันจนปิดการประกอบไปเน้นขายกลุ่มรถเช่า กลุ่มองค์กร ครั้งนี้จับตาเแล้วว่า Honda e:N1 จะนำเข้าจากจีนเพื่อมาขายปลีกให้กับแฟนๆที่สนใจหรือไม่ด้วยการนำพื้นฐานมาจาก Honda HR-V แปลงกายเป็นไฟฟ้าล้วนจากแพลตฟอร์ม e:N Architecture F
พร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึงสามตัวและแบตเตอรี่ lithium มีความจุ 68.8 kWh 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งมากกว่า 412 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 485 กิโลเมตร (NEDC)
ขับเคลื่อนล้อหน้าให้ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 7.6 วินาที ชาร์จได้สองรูปแบบทั้งชาร์จกระแสตรง DC CCS2 กำลังสูงสุด 78 kW 0-80% ภายใน 46 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC Type 2 กำลังสูงสุด 11 kW 10-80% ภายในเวลา 6.45 ชั่วโมงและระบบความปลอดภัย Honda SENSING
Mazda : 6e
และการโชว์ตัวครั้งแรกในไทยกับ Mazda 6e Global Product บุกตลาดทั่วโลกนอกจากทำตลาดบ้านเกิดโดยผลิตที่โรงงานของ CHANGAN เมืองหนางจิง ประเทศจีน ที่จะขายไทยปลายปีนี้
Mitsubishi : X FORCE HEV
Mitsubishi X FORCE HEV Sub Compact SUV พร้อมแนวคิด Best-suited buddy for an exciting life หรือคู่หูที่จะให้ความตื่นเต้นความเร้าใจตลอดการเดินทางด้วยพลัง Hybrid MIVEC แบบ e:MOTION ประจำการ พร้อมโหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด 7 DRIVE MODE ปรับโหมดการขับขี่เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับทุกจุดหมายอย่างไร้กังวล
มีระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและขวาออกแบบให้สามารถเรียกแรงบิดให้กระจายกำลังไปยังล้อทั้งสี่ตามความเหมาะสมและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือที่เรียกว่า Active Yaw Control (AYC) ครั้งนี้เปิดขายและรับจองในงานนี้ด้วย
MG : IM6, S5EV
ปีนี้ค่ายรถยนต์ MG รุกหนักกับตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกที่หลากหลายเริ่มที่ MG IM6 เอสยูวีมิดไซซ์พลังอีวีล้วนที่มากันถึง 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Premium ขับเคลื่อนล้อหลัง 295 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.9 วินาที แบตเตอรี่ขนาดความจุ 75 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 400 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC)
และรุ่น Performance AWD เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อให้พละกำลังสูงสุด 787 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 802 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.48 วินาที ทำความเร็วสูงสุดมากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แบตเตอรี่ขนาดความจุ 100 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 875 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 634 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) พร้อมช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ (Intelligent Air Suspension) สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ
พร้อมกับการเปิดตัวครั้งแรกในงานกับ MGS5 EV เอสยูวีอีวีประกอบไทยมาแทน MG ZS EV ด้วยพลังขับเคลื่อนล้อหลังวิ่งไกล 515 และ 525 กิโลเมตร (CLTC) หรือ 497 และ 506 กิโลเมตร (NEDC) สร้างจากแพลตฟอร์มไฟฟ้าล้วน MSP (Modular Scalable Platform) เปิดราคาในงาน
Nissan : Serena e:Power C28
กลับมาบุกตลาดเอ็มพีวีอีกครั้งหลังหายไปนานสำหรับ Nissan Serena รหัส C27 พลัง Mild Hybrid จนมียอดจองล้นหลามและเตรียมส่งมอบตั้งแต่ปีนี้ส่วนกลางปีนี้พบกับ Nissan Serena e:Power รหัส C28 ด้วยขุมพลังเปลี่ยนน้ำมันเป็นไฟฟ้าด้วยเครื่องยนต์เบนซิน e-Power รหัส HR14Dde
ขนาด 1.4 ลิตร 98 แรงม้า แรงบิด 123 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้ารุ่น EM 57 Synchronous Motor และแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ขนาด 1.769 kWh โดยเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร พร้อมระบบ e-Pedal มาโชว์และคาดว่าจะเปิดราคาด้วย
OMODA x JAECOO : JAECOO 7 SHS
ปีนี้ค่าย OMODA JAECOO รุกหนักส่งรถใหม่ ด้วย JAECOO 7 SHS นำพื้นฐานของ CHERY Explore 06 เปลี่ยนหน้าตาให้สมกับความเป็น JAECOO ด้วยแพลตฟอร์ม T1X พร้อมพลังปลั๊กอินไฮบริด 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Ternary lithium battery 18.3 kWh
เมื่อทำงานร่วมกันได้กำลังสูงสุด 374 แรงม้า แรงบิด 525 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 106 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามาตรฐาน NEDC และถ้าวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำได้ 1,300 กิโลเมตรตามาตรฐาน NEDC คาดว่านำเข้าจากมาเลเซียและเปิดราคาทันงาน Bangkok Motor Show 2025
Suzuki : eVITARA, FRONX
หลังจากที่ Suzuki ตัดสินใจปิดไลน์ผลิตในไทยภายในปีนี้ พร้อมขายรถนำเข้ารุ่นใหม่จากกลุ่มประเทศภูมิภาคอาเซียนและเอเชียไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย อินเดีย ถึง 2 รุ่นสอดคล้องกับทิศทางและนโยบายการรักษาความเป็นกลางทางคาร์บอนแต่ละรุ่นจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้าและสามารถแข่งขันได้ในอนาคต
เริ่มที่ Suzuki e VITARA พกขุมพลังไฟฟ้าติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (LFP) ขนาด 49 kWh ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตรในรุ่น Standard 2WD
มาที่รุ่น Extended 2WD ขยับความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 61 kWh ให้กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิด 189 นิวตันเมตร และรุ่น Performance 4WD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ “ALLGRIP-e” ทีมี eAxles คู่ทั้งล้อหน้าและล้อหลังพร้อมล็อกเฟืองท้าย Limited Slip Differential พร้อมโหมด TRAIL
ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 61 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดรวม 300 นิวตันเมตรแบ่งเป็นมอเตอร์ล้อหน้า 174 แรงม้า และมอเตอร์ล้อหลัง 65 แรงม้า คาดว่าวิ่งไกลสุด 243 กิโลเมตรตามมาตรฐาน WLTP หรือ 286 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
ตามมาด้วย Suzuki FRONX เอสยูวีที่กำลังไปได้สวยกับตลาดต่างประเทศกับเบนซิน Mild Hybrid SHVS ขนาด 1.5 ลิตร ส่งกำลังด้วย เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พ่วงด้วยแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน 12V ครั้งนี้ขยายความจุใหญ่ขึ้นเป็น 10 Ah หรือ 0.12 kWh จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ISG WA06A
ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ถึง 3 แรงม้า แรงบิด 60 นิวตันเมตร เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ประหยัดน้ำมัน 20.2-21.3 กิโลเมตรต่อลิตรตามมาตรฐาน JC08 ความปลอดภัยจัดเต็มกับ Suzuki Safety Support
Volvo : XC90 Minor Change
หลังจากเปิดตัว Volvo EX90 จนได้รับการตอบรับอย่างดีและพร้อมส่งมอบปีนี้ทางด้านขุมพลังสันดาปลูกผสมปลั๊กอินไฮบริดยังจำหน่ายต่อไปไม่ยกเลิกทำให้ปีนี้ได้พบกับ Volvo XC90 ไมเนอร์เชนจ์ปรับทั้งภายนอกและภายในและยังขายกับขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดเช่นเดิมแบบ Drive-E AWD Plug-In Hybrid T8
ที่มีพละกำลังแรงถึง 462 แรงม้า เรียกพลังจากแรงบิดสูงถึง 709 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.3 วินาที การชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกลสุดในโหมด Pure mode โหมดไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งได้ไกลสุด 76.7 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC เข้ามาโชว์
สำหรับงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 46 หรือ Bangkok Motor Show 2025 จัดขึ้นที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 และอิมแพค ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน โดยเปิดให้เข้าชมงานเวลาตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. ในวันธรรมดา และเวลา 11:00 -22.00 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ราคาบัตรเข้าชมงาน 100 บาท แฟนๆที่รักและหลงเสน่ห์โลกยานยนต์ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง