เทคโนโลยีทุกวันนี้ทั้งก้าวไกลและก้าวเร็วจนเราๆ แทบจะตามไม่ทันกันเลยทีเดียว รถที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจึงต้องมีการทดสอบที่เข้มข้นขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน และนั่นทำให้ National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) ตัดสินใจที่จะอัปเดตโปรแกรมการใช้คะแนนการทดสอบด้านความปลอดภัยใหม่ เพื่อให้ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปให้ทัน
NHTSA กำลังพูดคุยเสนอการอัปเดตเรทคะแนน 5 ดาว จาก New Car Assessment Program หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม NCAP ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- การแนะนำเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ 4 อย่าง คือ Lane-keeping Support, Pedestrian Automatic Emergency Braking, Blind Spot Detection, และ Blind Spot Intervention
- เสริมความแข็งแกร่งของขั้นตอนการทดสอบและเกณฑ์การปฏิบัติงานในปัจจุบันสำหรับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่รวมอยู่ใน NCAP อยู่แล้ว
- กำหนดโรดแมป 10 ปีสำหรับการปรับปรุง NCAP ในอนาคต
- การขอความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาระบบการให้คะแนนที่มีความหมายสำหรับเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่
- พิจารณาการเพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยียานยนต์ที่เกิดขึ้นใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับ การรบกวนสมาธิของผู้ขับขี่, การตรวจจับแอลกอฮอล์, การคาดเข็มขัดนิรภัย, ระบบช่วยเหลือด้านความเร็วอัจฉริยะ, ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่, และ ระบบช่วยเตือนเด็กที่เบาะหลัง
- อธิบายถึงวิธีการให้คะแนนการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุด้วยสติกเกอร์ที่จะถูกติดบนหน้าต่างรถทั้งรถใหม่และรถเก่า
อย่างในกรณีของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ 4 อย่างในหัวข้อแรก รถหลายยี่ห้ออย่างเช่น Toyota, Hyundai, หรือ Tesla ได้มีการติดตั้งระบบพวกนี้เข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานแล้ว แต่ก็มีอีกหลายยี่ห้อเช่นกันเช่น Chevrolet, Dodge, และ Jeep ที่ระบบพวกนี้ยังคงเป็นออพชั่นให้เลือก
NHTSA ยังได้วางแผนที่จะให้ความรู้กับผู้ขับขี่เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบช่วยเหลือความปลอดภัยในรถที่ตนเองเป็นเจ้าของ เนื่องจากจากการสำรวจ พวกเขาพบว่าผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยไม่ทราบว่ามีระบบช่วยเหลือความปลอดภัยอะไรบ้างในรถของตัวเอง
ในส่วนของเทคโนโลยีที่ตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่ อย่างเช่น การรบกวนสมาธิของผู้ขับขี่ หรือ การตรวจจับแอลกอฮอล์ เชื่อว่าสิ่งนี้ผู้ขับขี่อาจจะไม่รู้สึกพึงพอใจนัก แต่ถ้าหากลองนึกย้อนกลับไปในสมัยก่อนที่เข็มขัดนิรภัยยังไม่ได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ผู้ขับขี่หลายคนก็ไม่คุ้นชินกับการที่ต้องมานั่งคาดมัน แต่ในปัจจุบันเราก็ได้ปรับตัวและมีความเคยชินกับอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้น ดังนั้นในอนาคตผู้ขับขี่ก็น่าจะปรับตัวทำความคุ้นชินกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ไม่ยากเย็น
อ้างอิง : carscoops.com