อีกไม่กี่วันที่ Nissan Kicks e-Power MY2022 พร้อมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ ทำให้สาวกพร้อมที่จะเป็นเจ้าของ
แต่ก่อนที่จะพบตัวจริงทาง Nissan Motor (ประเทศไทย) ปิ๊งไอเดียโปรโมทประชาสัมพันธ์ก่อนเผยตัวจริงด้วยการจับ Nissan Kicks e-Power MY2022 แต่งแร็พสีน้ำเงินทั้งคันขึ้นบนรถสไลด์ออน หรือเรียกอีกอย่างว่ารถทรูป เดินสายประชาสัมพันธ์ ทั่วกรุงเทพมหานครก่อนเปิดตัวจริง พร้อมข้อความ สมรรถนะสูงขึ้นอัตราเร่งดีขึ้นตั้งแต่ออกตัวและอีกข้อความกับ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% เปลี่ยน้ำมันเป็นไฟฟ้า ซึ่งยังคงสร้างความมึนงงไปบ้างกับข้อความอันหลัง แต่ความจริงขุมพลัง e-Power เป็น Series Hybrid ที่คงคอนเซ็ปต์เดิมขับสนุกเหมือนรถไฟฟ้าเน้นการใช้มอเตอร์เป็นสำคัญส่วนเครื่องยนต์ทำหน้าที่ชาร์จไฟฟ้าไปยังแบตเตอร์รี่ ช่วงความเร็วสูง เครื่องยนต์จะปั่นไฟฟ้าจ่ายตรงเข้าในชุดมอเตอร์ไฟฟ้าชุดขับ
Nissan Kicks e-Power MY2022 ปรับครั้งนี้ปรับหน้าตาเล็กน้อยบนบอดี้เดิมนั้นเองเริ่มที่ล้ออัลลอย 17 นิ้วกับยาง 205/55R17 กระจังหน้าแบบ V-motion พร้อมตราโลโก้ Nissan ไฟหน้า LED ประกอบด้วยไฟเลี้ยว Signature Light ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL ไฟตัดหมอกหน้า LED กันชนหน้าออกแบบให้สปอร์ตขึ้นและไฟท้าย LED ทรงบูมเมอแรงพร้อมใหม่ แถบไฟท้ายคาดยาวครอบทับฝาท้ายและไฟท้ายอย่างลงตัวและเสาอากาศครีบฉลามและอาจแนะนำรุ่น Nissan Kicks e-Power Autech แต่งพิเศษด้วย กระจกมองข้างสีเงินด้านพร้อมราวหลังคาสีเงิน สเกิร์ตหน้า ขอบกระจังหน้ารูปตัววี คิ้วชายล่าง ที่เปิดประตู สเกิร์ตหลัง ล้ออัลลอยลายเข้มขนาด 17 นิ้ว และสัญลักษณ์ Autech ท้ายรถ
ภายในมีการปรับในส่วนของดีไซน์เกียร์อัตโนมัติใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้นพร้อมออพชั่นเดิมทั้ง มาตรวัดพร้อมหน้าจอสี TFT 7 นิ้ว เครื่องเสียงแบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว Nissan Connect ลำโพง 6 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และอาจเชื่อมต่อ Android Auto ได้ พวงมาลัยสปอร์ตแบบมัลติฟังก์ชัน ทรง D-Shape กุญแจรีโมทอัจฉริยะ Intelligent Key ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button และความสบายจากเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ตอน 2 สามารถพับได้แบบ 40/60 เบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake และหยุดรถอัตโนมัติ Auto Brake Hold ส่วนในรุ่น Autech ตกแต่งหรูสปอร์ตด้วยเบาะนั่งกึ่งหนังแท้โทนดำน้ำเงิน ปักตรา Autech ที่เบาะคู่หน้า เดินด้ายสีน้ำเงิน พร้อมแผงประตู ที่ท้าวแขน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังทรงท้ายตัด ตกแต่งด้วยโทนสีดำน้ำเงิน เดินด้ายน้ำเงินเช่นกัน
ขุมพลังคงเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน HR12 DE 1.2 ลิตร e-Power เจเนอเรชั่นที่ 2 พัฒนาทั้งชุดแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยให้แรงม้า ถึง 82 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับชุดแบตเตอร์รี่ Lithium-ion ขนาด 2.06 kWh พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM47 ให้พลังรวมมากขึ้นเป็น 136 แรงม้าที่ 3,183-8,500 รอบ/นาที เพิ่มแรงบิดเป็น 300 นิวตันเมตรที่ 0-3,183 รอบ/นาที (เดิม 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 1.57 kWh มีจำนวน 4 โมดูลพ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM57 AC3 Synchronous Motor กำลังสูงถึง 129 แรงม้าที่ 4,000-8,992 รอบ/นาที แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 500-3,008 รอบ/นาที)
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed Gear Reduction พร้อมโหมดการขับ Normal, S, Eco, และ EV และยังพัฒนา One-Pedal คันเร่งอัจฉริยะเวอร์ชั่นใหม่ให้มีความฉลาดและฉับไวในการใช้งานมากขึ้น พร้อมพัฒนา One-Pedal คันเร่งอัจฉริยะเวอร์ชั่นใหม่ให้มีความฉลาดและฉับไวในการใช้งานมากขึ้นและความปลอดภัยเต็มคัน โดยล่าสุด Nissan เปิดสายการประกอบการผลิตชุดแบตเตอรี่สำหรับเครื่องยนต์ e-Power ซึ่งส่งผลให้ราคาค่าตัว Nissan Kicks e-Power MY2022 อาจถูกลงกว่าเดิม
ที่มาภาพ Siam NISSAN by สยามกลการ
