ความเคลื่อนไหวของค่ายรถ Nissan มีมาเป็นระยะๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีแต่รถใหม่ยังเดินหน้าต่อไปอย่างเช่น Nissan LEAF อีวีเจนใหม่
ล่าสุด Nissan เผยมินิซีรีส์การพัฒนา Nissan LEAF เจนใหม่เป็นตอนที่ 2 พูดถึงงานวิศวกรรมระบบช่วงล่างประสิทธิภาพการควบคุมการขับขี่ฟังก์ชันการจัดการความร้อนที่ได้รับการปรับปรุง และห้องโดยสารที่เงียบและประณีตยิ่งขึ้นจากตอนแรกที่พูดถึงงานดีไซน์และฟังก์ชันภายใน
ช่วงล่างของรถคันนี้ใช้เป็นช่วงล่างหลังแบบอิสระมัลติงลิงก์ จากเดิมเป็นแบบคานบิดหรือทอร์ชันบีมเพื่อความนุ่มนวลในการขับขี่และคล่องตัวกว่ารุ่นเดิมสำหรับ Nissan LEAF เจเนอเรชันที่ 3 สร้างจากแพลตฟอร์ม CMF-EV แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Nissan ARIYA ที่ออกแบบมารับกับกับแบตเตอรี่ที่มีความแข็งแรงจากการรับแรงด้านข้างมากขึ้นถึง 66% พร้อมรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตรจากชุดพวงมาลัยไฟฟ้าแบบแร็คแอสซิสต์ ติดตั้งฉนวนกันเสียงหนาขึ้นทำให้ห้องโดยสารเงียบขึ้นถึง 2 เดซิเบล
ภายนอกหล่อคล้ายรุ่นพี่ Nissan ARIYA ด้วยกระจังหน้ารูปตัววีทรง “โล่ หรือ shield” ไฟหน้า LED โคมเรียวทรงรูปเลขเจ็ด หลังคาที่ลาดลงคล้ายรถคูเป้เน้นความเรียบง่ายมีเสน่ห์ กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตูดีไซน์เรียบเนียนกับตัวถัง แผงไฟท้าย LED คาดว่าเป็นดีไซน์แนวยาวและล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พื้นใต้ท้องรถเรียบ ในร่าง Fastback 5 ประตูทรงสูงที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) ต่ำถึง 0.25 สำหรับสเปกยุโรป และ 0.26 สำหรับสเปกอเมริกาและญี่ปุ่น ทำให้ตัวรถลู่ลมขึ้น
ภายในเด่นด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามิกที่ช่วยลดความสูงของรถลงได้ถึง 12 มิลลิเมตรและยังสามารถปรับความทึบของกระจก ช่วยปรับแสงที่เข้ามาสู่ภายในได้ตามต้องการและไม่ต้องพึ่งพาม่านบังแดดและยังเคลือบสารป้องกันแสงแดดจากรังสีอินฟาเรดได้และพื้นห้องโดยสารแบบแบนราบ Flat Floor ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเจนเดิมแถมย้ายตู้แอร์ไปไว้ที่ห้องเครื่องเพิ่มพื้นที่กว้างขวางได้เช่นกัน
ขุมพลังไฟฟ้าล้วนแบบ 3-in-1 ซึ่งประกอบด้วยอินเวอร์เตอร์ มอเตอร์ และเกียร์ รวมส่วนประกอบหลักเข้าด้วยกัน ทำให้มีขนาดเล็กลง 10% จากรุ่นปัจจุบัน และให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตรในรุ่นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 87 kWh คาดระยะทางรวมต่อการชาร์จ 1 ครั้งได้ถึง 600 กิโลเมตร (WLTP) หรือ 706 กิโลเมตร (NEDC) และรุ่นความจุแบตเตอรี่ 60 kWh ให้กำลัง 170 แรงม้า ชาร์จได้ทั้งกระแสสลับ AC และกระแสตรง DC กำลังสูงสุด 150 kW
และล่าสุดกับการเผยตอนที่ 3 เป็นตอนจบนำเสนอเรื่องการชาร์จทั้ง AC และ DC ที่ชาร์จเร็ว 14 นาที สามารถวิ่งได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร รวมถึงชุดแบตเตอรี่มีการปรับสภาพตัวแบตที่เชื่อมกับระบบนำทาง ซึ่งจะช่วยปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่ให้เหมาะสมตามภาระการขับขี่ที่ประมาณไว้ตั้งแต่เริ่มเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง นอกจากนี้ ในระหว่างการชาร์จไฟ DC ในฤดูร้อน หากตรวจพบว่าภาระการขับขี่หลังการชาร์จต่ำสามารถปรับช่วงอุณหภูมิการชาร์จที่อนุญาตของแบตเตอรี่ชั่วคราวและรักษาความเร็วในการชาร์จได้
แถมยังมี Vehicle-2-Load (V2L) เปลี่ยนรถยนต์ให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้ด้วยช่องชาร์จไฟในรถกำลังไฟ 1,500 W และสำหรับสเปกญี่ปุ่นยังมีฟังก์ชัน V2H (Vehicle-to-Home) หน้าที่เป็นเครื่องสำรองไฟเพื่อจ่ายไฟฉุกเฉินโดยตรงไปยังบ้าน สามารถจ่ายไฟให้กับบ้านของคุณผ่านการชาร์จแบบอัจฉริยะจากรถยนต์สู่บ้านได้ และมาพร้อมฟังก์ชันวางแผนเส้นทางอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับ Google Maps ทำให้ค้นหาจุดชาร์จตลอดเส้นทางได้อย่างง่ายดายช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางได้อย่างสบายใจ
Nissan LEAF เจนใหม่สานต่อความสำเร็จจาก 2 เจนที่ผ่านมาด้วยยอดขายสะสมทั่วโลกกว่า 700,000 คันผลิตที่โรงงานนิสสันที่เมืองซันเดอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษเร็วๆนี้และเตรียมที่จะเปิดตัวในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ในเวลา 21.00 น. ตามเวลาที่ญี่ปุ่น หรือ 19.00 น. ตามเวลาในประเทศไทยและขายจริงตั้งแต่สิ้นปีนี้
