หลังเปิดตัวที่อินเดียเมื่อ 4 ปีก่อนและเปิดเป็นที่แรกของโลกสำหรับ Nissan MAGNITE เอสยูวีจิ๋วที่ขายดีและพร้อมที่จะโกอินเตอร์ส่งออกไปขายกว่า 65 ประเทศ
ล่าสุดกับ Nissan MAGNITE รุ่นปรับโฉมหรือ Minor Change ปรับครั้งแรกในรอบ 4 ปี เริ่มที่ภายนอกชุดกันชนหน้าทรงโหดออกแบบใหม่โดยย้ายตำแหน่งไฟตัดหมอกหน้า LED ไปอยู่ใต้กระจังหน้าที่คั่นกลางด้วยช่องระบายอากาศใหม่เสริมการ์ดสีเงินครอบช่องระบายอากาศและไฟตัดหมอก กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมออกแบบใหม่เพิ่มกรอบสีดำ ติดตรา นิสสัน ไฟท้าย LED รมดำใหม่แบบ WIDE SPLIT SIGNATURE TAILLAMPS และล้ออัลลอยลายทูโทน 5 ก้านคู่ใหม่ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 195/60 R16
นอกนั้นคงเดิมทั้งไฟหน้า Projector แบบ Bi-LED พร้อมไฟ LED Light Guide ในโคมเดียวกันลงตัวพร้อมชุดไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED DRL รูปตัว L ด้านข้างหรูด้วยหลังคาดำ พร้อมราวหลังคาสีเงิน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำจากพื้นฐาน CMF-A platform ด้วยตัวรถสั้นคล่องตัวตั้งแต่
- ความยาว 3,994 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,758 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,572 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,500 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,019-1,103 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายในคงเดิมด้วยแผงคอนโซลหน้าสีดำเข้มพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 7 นิ้ว บังเทิงด้วยระบบจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมเครื่องฟอกอากาศ สบายด้วยระบบกล้องรอบคัน 360 องศา และลำโพง Arkamys และไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light
ปรับครั้งนี้มาพร้อมโทนสีน้ำตาลใหม่แซมสีดำทั้งแผงประตู คอนโซลหน้าหุ้มหนังสัมผัสและเบาะนั่งกึ่งหนังแท้สีดำ/สีน้ำตาลทรงใหม่ลายเพชรเพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นโดยเบาะคู่หน้ามาแบบ QUOLE MODURE ไม่สะสมความร้อน พร้อมตู้เแช่เย็นในเกะคอนโซลหน้าส่วนคนนนั่ง สามารถจุของมากสุด 336 ลิตร โดยพับเบาะได้ 60/40 จะมีพื้นที่มากถึง 690 ลิตร
พร้อมออปชันหรูหราที่ต้องเพิ่มเงินทั้งลำโพงจาก JBL powered by Harman ไฟส่องใต้พื้นบริเวณกระจกมองข้าง กล้องบันทึกเหตุการณ์หน้ารถ ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charger และสคัรพเพลทพร้อมไฟเรืองแสง LED ที่ชายประตู
ขุมพลังยกมาจาก Nissan ALMERA ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.0 ลิตร รหัส HRA0 ให้กำลังถึง 100 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 160 นิวตันเมตรที่ 2,800-3,600 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแปรผัน XTRONIC CVT
และเบนซินธรรมดา 1.0 ลิตร รหัส B4D ให้กำลังถึง 72 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิด 96 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบต่อนาที จ้บคู่กับเกียร์ธรรมดาและเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 5 สปีด EZ-Shift ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมความปลอดภัย Nissan’s Safety Shield มาครบทั้ง
- ถุงลมนิรภัย 6 จุด
- ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ Vehicle Dynamic Control (VDC)
- ป้องกันการล้อหมุนฟรี Traction Control System (TCS)
- ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HAS)
- เสริมแรงเบรกแบบไฮดรอลิก Hydraulic Brake Assist (HBA)
- ตรวจวัดลมยาง Tire Pressure Monitoring System (TPMS)
- ป้องกันล็อล็อก Anti-Lock Braking System (ABS)
- กระจายแรงเบรก Electronic Brake-force Distribution (EBD)
เบื่องต้น Nissan MAGNITE รุ่นไมเนอร์เชนจ์เปิดตัวที่อินเดียในราคาเริ่มต้น 599,400-910,000 INR หรือราว 239,000-365,000 บาท รวมถึงเตรียมการส่งออกไปยังตลาดใหม่อีก 47 ประเทศจากเดิมมี 18 แห่งทำให้รวมตลาดส่งออกมากกว่า 65 แห่งผลิตทั้งพวงมาลัยซ้ายและขวาจากโรงงาน Renault Nissan ที่เมืองชเจนไน อินเดีย ด้วยกำลังการผลิตกว่า 150,000 คัน
ที่มา Nissan