จาก 3 เจเนอเรชันของ Nissan Murano ที่เป็นที่รูัจักทั้งในอเมริกาและประเทศอื่นๆจนได้รับการตอบรับมาอย่างดีและนี่คือการเปลี่ยนแปลงใหม่หมดร่างเจนที่ 4 ในรอบ 24 ปี ครั้งนี้สปอร์ตขึ้น เท่ขึ้น ฉกาจขึ้นเปิดตัวที่สหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกของโลก
มาในรหัส Z53 ได้แรงบันดาลใจมาจาก Nissan Ariya ผสมกับ Nissan Pathfinder มาตั้งแต่ด้านหน้าเริ่มที่ ส่วนบนเป็นชุดไฟหน้า LED 3 ดวงแนวนอนพร้อมไฟเลี้ยวคั่นกลางด้วยแถบสีดำสลักชื่อ Murano กระจังหน้า 2 ชั้น ชั้นแรกมาแบบเส้นแนวนอนสีเดียวกับตัวรถชันสองเป็นกระจังหน้าขนาดใหญ่แนวนอน 7 เส้นประกบกับไฟหน้า DRL LED 5 เส้นแนวนอน ออกแบบทันสมัยในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต
โดดเด่นด้วยหลังคารถสีดำพร้อมหลังคาแบบ Panoramic Moonroofกระจกรถสไตล์โอเปร่า กรอบโครเมียม กระจกเสา C มาแนวหางปลาเชื่อมโยงด้านท้ายและหลังคารถที่ลาดลงสไตล์รถสปอร์ต กระจกมองข้างสีดำทรงสปูน ที่เปิดประตูดึงก้าน ล้ออัลลอยญ่ทูโทนขนาด 20-21 นิ้ว ไฟท้าย LED แนวยาวติดตราอักษร Nissan กันชนหลังทำหน้าที่เป็นช่องใส่ทะเบียนในตัวพร้อมมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 4,900 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,981 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,725 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,824 มิลลิเมตร
ภายในใหม่หมดคล้ายกับ Nissan Ariya ตั้งแต่ชุดแผงคอนโซลหน้าเรียบง่ายพร้อมจอคู่ประกอบมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว อินเทอร์เฟซระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์เพื่อปรับการตั้งค่าต่างๆ รวมถึงการอัปเดตเฟิร์มแวร์ต่างๆ แบบไร้สายมีความแปลกใหม่น่าตื่นเต้น จอแสดงผลข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า HUD head-up display
Nissan Connect เชื่อมต่อการใช้งานของรถยนต์ผ่านสมาร์ตโฟน ช่องต่อ USB Type-C ชุดแผงประตูหุ้มหนังสัมผัส และมีระบบ Google built-in ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์รองรับ Android Auto Apple CarPlay อัปเดตออนไลน์ over-the-air
เบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Zero Gravity คู่หน้าปรับไฟฟ้า เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 เพิ่มพื้นที่ในการขนของ สร้างบรรยากาศอันอบอุ่นให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทาง แผงสวิตช์กระจกไฟฟ้าสี่บานในชุดแผงประตู พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสองก้านหุ้มหนังเดินด้าย มีปุ่ม Push Start ลำโพงคุณภาพจาก BOSE 10 จุด และไฟสร้างบรรยากาศภายใน 64 สี Ambient Light
เครื่องยนต์ที่จะสร้างความแรงแบกน้ำหนักได้ดีเป็นเบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร Nissan VC-Turbo รหัส KR20DDET ให้กำลังสูงสุด 244 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 352 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
รองรับความแรงมหาศาลและเพิ่มความสนุกในการขับขี่มากขี้นเลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Intelligent All Wheel Drive ที่มีโหมดลุยถึง 7 โหมด ผู้ขับขี่จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นและมีเครียดลดลงด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT 1.1 ช่วยเหลือผู้ขับขี่มาพร้อมกับความปลอดภัย แบบ 360 องศา หรือ 360 Safety Shield ที่มีทั้ง
- เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor–IAVM)
- เทคโนโลยีช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning–IFCW)
- เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะพร้อมตรวจจับคนเดินและคนปั่นจักรยาน (Intelligent Emergency Braking–IEB with Pedestrian Detection)
- เทคโนโลยีเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย Rear Automatic Emergency Brake
- ป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (Intelligent Blind Spot Intervention – IBSI)
- เตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert–RCTA)
- แจ้งเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ (Lane Departure Warning -LDW)
- ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist-HBA)
ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist–HSA) ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control–VDC) ถุงลมนิรภัย SRS รอบคัน เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner and Load Limiter Seatbelts) เบรก ABS, EBD, BA และดิสก์เบรก 4 ล้อ ไฟเบรกดวงที่สามพร้อมไฟ LED สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
Nissan Murano เจนใหม่ประกอบที่โรงงาน Smyrna ในรัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกาเตรียมขายที่อเมริกาและแคนนาดาต้นปี 2025 มาทั้ง 3 เกรดตั้งแต่รุ่น SV, SL และรุ่น Platinum
ที่มา CAREXPERT