คล้อยหลังเมืองไทย 1 ปีกับรุ่นปรับปรุงใหม่ของ Nissan Navara ที่ได้ภายในใหม่เครื่อง EURO 5 2.3 กันไปล่าสุดมาเลเซียเปิดตัวเป็นทางการ
Nissan Navara MY2025 หน้าเดิมร่างเดิมรหัส D23 ในเวอร์ชัน 4 ประตู Double Cab พร้อมเปิดตัวแพ็คเก็จแต่งรถในชื่อ Nissan Navara X-TREMER
ภายนอกหล่อพร้อมลุย
- กระจังหน้าแบบ Interlock ไร้ตราชื่อรุ่น Navara โทนสีดำโดดเด่นพร้อมตราโลโก้ Nissan
- ชุดการ์ดเสริมกันชันหน้าสไตล์ออฟโรดแบบ “X-formation” สีดำล้วน ในรุ่น VL 4×4 และ V 4×4 และสีดำขลิบส้มแดง ในรุ่น PRO4-X
- ชุดคิ้วตกแต่งซุ้มล้อ ลายคาร์บอน
- คิ้วขอบล้อสีดำ ในรุ่น VL 4×4 และ V 4×4
- เสาอากาศครีบฉลาม
พร้อมออปชันเดิมประจำรุ่นทั้งตราโลโก้ Nissan สีส้มแดงกันชนหน้าทรงสปร์ตเสริมคิ้วชายล่างกันชนหน้าสีดำส้มแดง คิ้วขอบล้อสีดำขลิบส้มแดง ดุดัน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว มือจับประตู แร็คหลังคา บันไดข้างตกแต่งด้วยสีดำ และล้ออัลลอยสีดำเข้มขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 255/65R17 ค่าย YOKOHAMA GEOLANDAR AT-S G012 ในรุ่น PRO4-X
ส่วนรุ่น VL 4×4 และรุ่น V 4×4 ได้ มือจับประตูโครเมียม กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ที่จับประตูโครเมียม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีดำพร้อมยาง 255/60 R18 และขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 255/65R17 ตามลำดับ
ไฟหน้าแบบ Quad-eye LED มีไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light รูปตัว C ไฟตัดหมอกหน้า LED บันไดข้างสีดำ ไฟท้าย LED Light Guide แบบเส้นเดียว กันชนหลังสีดียวกับตัวรถเพิ่มสเต็ปด้านท้ายรถสะดวกสบายในการใช้งานขึ้นลง
ภายใน Interior
แน่นอนว่าใช้ชุดแผงคอนโซลหน้าใหม่หมดแบบเดียวกับโฉมไทย ตั้งแต่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน มาตรวัดเรืองแสง TFT 7 นิ้ว จอสัมผัสขนาด 8 นิ้วจอใหญ่ พร้อม Nissan Connect สร้างความบันเทิง รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Wireless Apple CarPlay และ Android Auto ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้แอปพลิเคชันระบบนำทางผ่านระบบเครื่องเสียงอัจฉริยะได้สะดวกยิ่งขึ้น และรองรับการสั่งงานด้วยเสียงพร้อมลำโพง 6 จุด
จุดช่องชาร์จ USB มี USB-A 2 จุด ใหม่!! USB-C 2 จุด รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ เบรกมือคันโยก เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ความเงียบเมื่ออยู่ในห้องโดยสารด้วยกระจกหน้าและข้างตอนหน้าเป็นแบบเก็บเสียงหรือ Acoustic glass
เบานั่งหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้สีดำทุกรุ่น ส่วนรุ่น PRO4-X เดินด้ายสีส้มลาวา โดยเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Zero Gravity ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกลพร้อม QUOLE MODURE ช่วยสะท้อนความร้อนทุกตำแหน่ง รุ่น VL 4×4 และรุ่น PRO4-X ให้เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังไฟฟ้าในด้านคนขับเบาะนั่งหลังมีที่พักแขนตรงกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งและหมอนรองศีรษะตรงกลาง
ขุมพลัง
ตามหลังเมืองไทยกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรเทอร์โบแปรผัน YD25DDTT ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบต่อนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีดพร้อม Manual Mode ขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time ระบบ Shift-On-The-Fly 4-Wheel Drive & ILO ที่ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เป็น 4 ล้อได้เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า Electronic Rear Locking Differential
พร้อมลุยบรรทุกหนักได้อย่างน่าประทับใจด้วยโครงสร้างแชสซีทำจากเหล็กกล้า มีพื้นที่บรรทุกของได้อย่างจุใจ ให้ประโยชน์การใช้งาน และความสะดวกเต็มพิกัด เช่น บันไดที่กันชนหลังซึ่งช่วยให้เข้าออก และขนของที่กระบะได้สะดวก รวมถึงการปรับตำแหน่งตะขอยึดใหม่ เพื่อตอบโจทย์การบรรทุกสัมภาระทั้งขนาดใหญ่และเล็ก ช่วงล้างหน้าอิสระดับเบิลวิชโบนพร้อมเหล็กกันโคลงและที่เหนือกว่าไหยตรงที่ช่วงล่างหลังเป็นแบบมัลติลิงก์
ความปลอดภัย
ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ 360 Safety Shield ช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงหรือ Advance Driver Assistance System (ADAS) ในรุ่น PRO4-X และ VL 4×4 ตั้งแต่
- กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor-IAVM) ทำงานคู่กับเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection-MOD)
- เทคโนโลยีเตือนเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning-IFCW)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking–IEB)
- เตือนคนขับอัจฉริยะ (Intelligent Driver Alertness-IDA)
- เตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning-LDW)
- ควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention-ILI)
- เตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning-BSW)
- ตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert-RCTA)
- เปิดไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam-AHB)
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานทุกรุ่นทั้งควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Vehicle Dynamic Control-VDC) ช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist-HSA) ควบคุมเสถียรภาพของรถขณะลากจูง (TSA) ควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Traction Control-TCS) ป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น (Brake Limited Slip Differential-B-LSD) ล็อกความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control-HDC) สัญญาณกะระยะการจอดด้านหลัง
จุดยึดที่นั่งเด็กสำหรับเบาะหลัง ISOFIX ในรุ่น Double Cab ระบบเบรก ABS พร้อม EBD และ BA ถุงลมนิรภัยถุงลมนิรภัย 7 จุด รวมใต้เข่าคนขับ จอมอนิเตอร์ระบบ Off-Road Meter และสัญญาณตรวจวัดลมยาง (Tire Pressure Monitoring System-TPMS) ในรุ่น VL 4×4 โดย Nissan Navara X-TREMER ขาย 3 รุ่นย่อยในราคามาเลเซียดังนี้
- รุ่น Double Cab PRO-4X 4WD 7AT RM154,800 (หรือราว 1,189,000 บาท)
- รุ่น Double Cab VL 4WD RM149,900 (หรือราว 1,149,000 บาท)
- รุ่น Double Cab V 4WD RM134,800 (หรือราว 1,035,000 บาท)
ที่มา Autobuzz
ที่มาภาพ Chuyendongthitruong.vn