More

    Nissan ROOX เจนใหม่ยอดจอง 1 เดือนทะลุ 1.1 หมื่นคันที่ญี่ปุ่น

    หลังจากเปิดราคาขายที่ญี่ปุ่นเมื่อ 19 กันยายนที่ผ่านมาสำหรับ Nissan ROOX มินิคาร์เล็กทรงกล่องเจเนอเรชันที่ 4 

    Nissan

    โดยล่าสุด Nissan ประกาศยอดจองอย่างเป็นทางการ ณ วันที่ 19 ตุลาคม มียอดจองมากถึง 11,344 คัน ซึ่งมากกว่า 11,000 คันภายในเวลาเพียงเดือนเดียวนับตั้งแต่เริ่มเปิดรับจอง

    โดยรุ่นย่อยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั่นคือเริ่มที่รุ่น “Highway Star X”: 27% รองลงมาเป็นรุ่น “Highway Star G Turbo ProPilot Edition”: 26%, รุ่น “X”: และรุ่น “Highway Star X ProPilot Edition”:แบ่งเท่ากัน 19% รุ่น “Highway Star G Turbo”: 8% และรุ่น “S”: 1%

    ส่วนสีรถที่นิยมสุดกลายเป็นสีขาวมุก: 34% สีอื่นๆ: 30%, สีดำ: 10%,สีซินนามอนลาเต้: 8%, สีน้ำเงินซอร์เบต์: 7%, สีเทาไทเทเนียม: 6% และสีขาวมุก/โฟรเซ่นวานิลลาเพิร์ล พรีเมียมทูโทน: 5% ส่วนกลุ่มอายุที่สนใจจองปรากฎว่า:กลุ่มอายุ 30 ปีลงไป มากถึง: 16% ตามมาด้วยกลุ่มอายุ 40 ปีลงไป: 16%, อายุ 50 ปีลงไป: 29%, อายุ 60 ปีลงไป: 24% และ อายุ 70 ​​ปีขึ้นไป: 15% ตามลำดับ

    Nissan

    ภายนอกใหม่หมด

    เริ่มที่ กรอบสีเงินโครเมียมออกแบบล้อมกรอบทั้งกระจังหน้าสีดำรูปตัววีหรือ V Motion ไส้ในเป็นทรงลูกเต๋าสีเหลี่ยมพร้อมไฟหน้า LED ชุดกันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมช่องระบายอากาศสีดำมีกรอบไฟตัดหมอกแนวตั้งสีเงินข้างในเป็นไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงกลม

    ด้านข้างมีความไดนามิกเล่นระดับมากขึ้น กรอบกระจกตั้งแต่เสา A ถึงเสา C ตกแต่งสีดำ มีกระจกเล็กๆแนวตั้งบนเสา A เพิ่มการมองเห็นที่ชัดเจน มีเสาอากาศเสาสั้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูโครเมียมแบบดึงก้าน และประตูสไลด์เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า 2 ฝั่ง

    ไฟท้าย LED แนวตั้ง 4 ดวง ทรงลูกเต๋ารมดำ ตำแหน่งเดียวกับกรอบกระจกท้าย ฝาท้ายสีเดียวกับตัวรถและกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถทรงสปอร์ตพร้อมแผงทับทิมสะท้อนแสงสี ล้อและยางมีให้เลือกกระทะล้อครอบด้วยฝาครอบและอัลลอยขนาด 14 นิ้วพร้อมยางขนาด 155/65 R14 พร้อมยาง Dunlop “ENASAVE EC300+” และล้ออัลลอย 15 นิ้ว พร้อมยาง 165/55 R15 จาก Bridgestone “ECOPIA EP150” ตัวรถมีมิติตังนี้

    • ความยาว 3,395 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,475 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,785-1,805 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 2,495 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,370 กิโลกรัม

    Nissan

    ภายในทันสมัย

    มีกระจกมองหลังอัจฉริยะ เปลี่ยนมุมมองจากกระจกมองหลังปกติเป็นกระจกอัจฉริยะด้วยกล้องที่ติดตั้งบริเวณประตูหลัง เครื่องฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์บนแอร์ราวหลังคา โต๊ะวางของเล็กๆหลังเบาะคู่หน้า ที่วางแก้ว ม่านบังแดด ช่องเสียบ USB พร้อมโทนสีใหม่ในส่วนของแผงคอนโซลหน้าแบบหุ้มหนังสัมผัสเดินด้ายสี แผงประตู เบาะที่นั่งหุ้มผ้ากำมะหยี่กันน้ำเกาะซึ่งจะทำให้เบาะเปียก

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านสามารถทำความร้อนที่วงพวงมาลัย มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงผลสี TFT เครื่องเสียงพร้อมจอสัมผัสขนาด 9 และ 12.3 นิ้ว ติดตั้งระบบ Google built-in ในตัว เรียกใช้งาน Google Maps, Google Assistant และ Google Play ดาวน์โหลดแอปได้ รวมไปถึงเพลง พอดแคสต์ รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สาย เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ

    Nissan

    มีราวจับขนาดใหญ่เช่นเดียวกับรุ่นเซเรน่า ช่วยให้การเข้า-ออกรถเป็นไปอย่างราบรื่นและง่ายดาย นั่งสบาย 4 ที่นั่งพร้อมเบาะนั่งด้านหลังเลื่อนได้สุดถึง 320 มิลลิเมตร ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถดูแลเด็กที่นั่งด้านซ้ายของเบาะหลังได้โดยไม่ต้องลุกจากเบาะคนขับ เมื่อเข้าใกล้จากห้องเก็บสัมภาระสามารถเลื่อนเบาะไปข้างหน้าและข้างหลังได้ด้วยมือเดียวโดยการดึงคันโยกที่ไหล่เบาะขึ้น

    Nissan

    ขุมพลังคาดยกมาจากเจนที่แล้ว

    กับเบนซิน 3 สูบขนาด 660 CC. หรือ 0.66 ลิตร รหัส BR06DE ให้กำลัง 52 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิด 60 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาทีและเบนซินเทอร์โบรหัส BR06DET ให้กำลังมากถึง 64 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตรที่ 2,400-4,000 รอบต่อนาที

    มาพร้อมระบบ Mild Hybrid จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า SM21 ให้กำลังถึง 2.7 แรงม้าที่ 1,200 รอบต่อนาที แรงบิด 40 นิวตันเมตรที่ 100 รอบต่อนาที เป็น Lithium ion battery จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT เลือกได้ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD พร้อมช่วงล่างแบบทอชันบีมในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อและแบบ 3 Link ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ

    Nissan

    ความปลอดภัยกับ Nissan Safety Shield 360

    • ใหม่!! เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor เพิ่มฟังก์ชัน 3D View มองรอบคัน, Invisible Hood View แสดงภาพพื้นถนน ช่วยในการเลี้ยวหรือถอยที่แคบได้อย่างปลอดภัย และ Front Wide View เปิดภาพอัตโนมัติเมื่อรถเข้าใกล้จุดที่บันทึกไว้โดยเฉพาะตามทางแยกที่ใช้ประจำ
    • เตือนการชนด้านหน้าตรง Forward Collision Mitigation System (FCM)
    • ป้องกันจุดบอดอัจฉริยะ Intelligent Blind Spot Intervention (BSI)
    • ตรวจสอบจุดอับสายตา Intelligent Blind Spot Warning (BSW)
    • ช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
    • ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
    • ช่วยคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping Assist (LKA)
    • ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติแบบเรดาห์ Radar Cruise Control (ACC)
    • ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง Pedal Misapplication Prevention Assist (EAPM)
    • จดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition System (TSR)
    • เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Leading vehicle departure notification (LCDN)
    • แจ้งเตือนคนขับเมื่อรถเริ่มเคลื่อนที่ออกจากเลน Lane Departure Warning System (LDW)
    • ควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Departure Prevention Assistance System (LDP)
    • เตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ Drift Alert (DAA)
    • ตรวจจับการเบรกกะทันหัน ของรถยนต์คันที่อยู่ถัดออกไปอีกสองคัน Predictive Forward Collision Warning (PFCW)
    • ขับขี่อัตโนมัติ Pro PILOT Assist

    Nissan

    Nissan ROOX เจนใหม่ ขาย 7 เกรด มีสีใหม่ 3 สีทั้ง สีเขียว “Celadon Green” สีกาแฟ” Cinnamon Latte” และ สีน้ำเงิน “Seto Blue” ทำให้รถยนต์รุ่น Highway Star มีสีทูโทน 6 สี และสีโมโนโทน 7 สี ส่วนรุ่น Standard มีสีโมโนโทน 7 สี รวมทั้งหมด 17 แบบ

    ผลิตที่โรงงาน NMKV (Nissan Mitsubishi Kei Vehicle) โรงงานผลิตรถเล็กโดยเฉพาะจากการร่วมทุนระหว่าง Nissan และ Mitsubishi ในเมือง Kurashiki เริ่มต้น 1,672,000-2,363,900 YEN หรือราว 359,000-509,000 บาท ในราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยถ้ารวมภาษีราคาขายจะอยู่ที่ 1,035,000-1,465,000 บาท การส่งมอบจะเริ่มในวันที่ 27 ตุลาคม

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts